"มือปราบหูดำ" เปิดปมลึก 10 ปี ยังจับฆาตกรต่อเนื่องฆ่าข่มขืนหญิงชราไม่ได้

"มือปราบหูดำ" เปิดปมลึก 10 ปี ยังจับฆาตกรต่อเนื่องฆ่าข่มขืนหญิงชราไม่ได้

"มือปราบหูดำ" เปิดปมลึก 10 ปี ยังจับฆาตกรต่อเนื่องฆ่าข่มขืนหญิงชราไม่ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" พิธีกรรายการ "เคลียร์ให้จบ" ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.15 น. และ 14.00 น. ทางช่อง New18 วันนี้ (3 พ.ค.) เปิดใจสัมภาษณ์ "พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ" หรือ "รองแต้ม" ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฉายา มือปราบหูดำ และ "รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี" ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ รองอธิการบดี มศว. ย้อนรอยอาชญากรรมที่เกิดขึ้น ผู้ต้องหาทำคดีต่อเนื่อง เนื่องจากมีการชิงทรัพย์ ข่มขืน ผู้สูงวัยติดต่อกัน มีหลักฐาน ดีเอ็นเอ แต่จับตัวคนร้ายไม่ได้ เกิดอะไรขึ้น 

ทำไมยังจับตัวคนร้ายไม่ได้?

รองแต้ม : "คดีทุกคดีไม่ได้จับคนร้ายได้ง่ายๆ ต้องรวบรวมพยานหลักฐานและต้องมีหลักฐานพอสมควร คดีนี้เท่าที่ทราบ คนร้ายทำกับคนสูงอายุ 60-70 ขึ้นไป สองขณะปฏิบัติการเขาคลุมหน้าและทำในเวลากลางคืน ดึกๆ สามทำที่บ้านห่างๆ กัน"

"ปัจจัยตัวนี้ ถามว่าจะจับกุมคนร้ายยากมั้ย ยากมาก เพราะหนึ่งเราไม่เห็นหน้า สองตำหนิรูปพรรณคนมีอายุก็ไม่เห็นอยู่แล้ว เข้าไปเอาผ้าคลุมหน้าและปฏิบัติการก็จำไม่ได้ ตาฝ้าฟางก็จำหน้าไม่ค่อยได้ แล้วพอเกิดเหตุ เขาตกอกตกใจ หลักฐานพยานตรงนี้จะหาได้ยากมาก ได้อย่างเดียวคือดีเอ็นเอ จากน้ำอสุจิ หรือพยานแวดล้อม ซึ่งสมมติกล้องวงจรปิดก็ลำบาก เพราะเขาปฏิบัติการบ้านห่างๆ ตามต่างจังหวัด ริมคลอง กล้องวงจรปิดมันก็ไม่มี มันยาก"

"แต่ถามว่าแนวทางมีมั้ย มันมี อย่างริมคลอง คนร้ายจะมาทางไหน ต้องมาตามคลอง คนจะทำต้องรู้ด้วยว่าบ้านไหนมีคนมีอายุ ไม่มีคนอยู่ เขาต้องดูพอสมควร"

"แล้วไฉนเราจับตัวไม่ได้ ทั้งที่ตรวจดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัย 700 คนนะ เอาคนคิดว่าจะมีส่วน ตรวจ 600-700 คนก็ไม่เจอ  แสดงว่าคนร้ายคนนี้ฉลาดมาก หนึ่งตัดสายไฟเป็น ตัดโทรศัพท์เป็น วางยาสุนัข คนร้ายต้องมีความรู้ตรงนี้นะ ตอนข่มขืนก็ไม่เอาทรัพย์สิน มือถือโทรศัพท์ก็ไม่เอาไป เพราะกลัวจะติดตามได้ เอาแต่พระ เงินไป แต่สิ่งที่เป็นเทคโนโลยีก็ไม่เอา"

"คนร้ายต้องมีความรู้ ฉลาดพอสมควร อาจเป็นแรงงานก็ได้ แต่อาจเป็นคนมีความรู้ ผมวิเคราะห์ว่าคนร้ายอาจเป็นคนนอกพื้นที่แต่ไม่ไกลมาก เป็นแคมป์คนงานหรือเปล่า ก็เอาคนพวกนี้มาตรวจดีเอ็นเอ แต่ไม่เจอ"

ต่างด้าวก็ตรวจ?

รองแต้ม : "ตรวจหมด แต่จากการสอบถาม คนร้ายพูดไทยนะ แต่ไม่แน่ คนต่างชาติอยู่ไทยนานๆ ก็อาจพูดไทยได้ เขาบอกสำเนียงเป็นคนไทย"

ทำไมต้องเป็นหญิงชรา?

รองแต้ม : "คนเราจิตไม่เหมือนกัน เป็นโรคจิต สองคนเวลาเกิดกำหนัด เป็นโรคจิตด้วย ก็คิดอะไรที่มันง่ายที่สุด แล้วดูความปลอดภัย กับห้วงเวลา สิ่งที่เขาทำ ทำให้ตร.ตามจับยาก"

ถ้าข่มขืนสาวๆ เขาจะต่อสู้?

รองแต้ม : "อาจจะต่อสู้และหาเป้าหมายยาก ข่มขืนสาวๆ ไม่ต้องทำขนาดนี้ ไปทำตรงไหนก็ได้ ฉุดตามป่าตรงไหนก็ได้ แต่นี่จงใจเอาคนมีอายุ และบ้านไกลห่าง คนร้ายต้องมีความรู้ และเป็นโรคจิตพอสมควร ผมคิดว่าเขาอาจเป็นคนไม่ไกลจากที่นั้น อาจมาทำอะไรแถวนั้น รู้ว่าบ้านเป็นไงๆ แล้วที่ทำคือคนชราที่อยู่คนเดียวทั้งนั้น ไม่มีลูกหลานอยู่เลย"

คดีข่มขืนทำในปี 53 58 แล้วเขาหายไปไหน ทำไมไม่ทำอีก?

รองแต้ม : "มีหลายประเด็น ประเด็นแรก คนร้ายฉลาด ก็ต้องรู้ว่าตร.มีมาตรการอะไรสักอย่าง สองถ้าเป็นคนร้ายในพื้นที่ อาจย้ายถิ่นฐาน ย้ายแคมป์ไป การลงทุนกลับมาทำแถวนั้นก็คงไม่ คงไปทำที่อื่น แต่ยังไม่ปรากฏ เท่าที่ทราบคนร้ายอายุไม่มาก ประมาณ 40 รูปร่างแข็งแรง ไม่เอาโทรศัพท์ไป สื่อมวลชนเขาก็ออกตลอดว่าเวลาจับคนร้ายก็เช็กได้จากโทรศัพท์ เขาก็รู้ คนนี้ค่อนข้างมีความรู้"

ทำไมคนอายุ 47 ถึงรอด?

นพ.วีระศักดิ์ : "ถ้าดูตามที่เขาทำ ย้อนร้อนไป 10 คดี เราจะเห็นว่าเขามีช่วงทำถี่ต่อเนื่อง ถ้าถี่เลย อาจมีช่วงนึงทำห่างกัน 10 วัน เคยหายไปนานสุดปีครึง  ถ้าแกะรอยทั้ง 10 คดี มีอยู่คดีหนึ่งอายุ 47 ปี ไม่มีการข่มขืนกระทำชำเราอะไร"

ทำไมมั่นใจว่าเป็นคนเดียวกัน?

นพ.วีระศักดิ์ : "เขามีร่องรอยอย่างอื่น มีคราบเลือดติดที่หมอน มีอะไรต่างๆ เชื่อมโยงกันได้หมด"

เคสอื่นๆ มีการฆ่าหญิงชรามั้ย?

นพ.วีระศักดิ์ : "ในทั้งหมด 10 มีตาย รายสุดท้ายปี 58 ก็เสียชีวิต"

โอกาสจับคนร้ายได้ มีกี่เปอร์เซ็นต์?

รองแต้ม : "ในความคิดผมถ้าคนร้ายไม่ตายซะก่อน มีพฤติกรรมแบบนี้โอกาสจับมีสิทธิ์จับได้ คนร้ายพฤติกรรมการกระทำผิดต้องทิ้งร่องรอย ถ้าเคยกระทำ ยังไงก็ต้องกระทำ คนเคยขโมยก็ต้องขโมย เลิกยาก คนจิตผิดปกติแบบนี้ก็ต้องทำ มันหยุดไม่ได้ บางโอกาสอาจทำพลาด ก็มีสิทธิ์ตามจับและขยายผลได้"

นพ.วีระศักดิ์ : "คงตอบยากเป็นเปอร์เซ็นต์ แต่เห็นด้วยกับท่านรอง ถ้าเขายังมีชีวิต และมีรสนิยมแบบนี้ ผมคิดว่ายังไงเขาก็ต้องออกมาทำความผิดอีก และโอกาสพลาดทำให้จับได้มีสูง เพียงแต่ 5 ปีที่ผ่านมาเขาเงียบไป ทำให้ประเมินยาก เขาเงียบเพราะเสียชีวิตหรือปัจจุบันประสบเรื่องสุขภาพ หรือเขาอาจเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ซึ่งเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าเมื่อไหร่ออกมาทำความผิดอีก แน่นอนผมคิดว่ามีโอกาสจับได้สูง"

ถ้าเขาไม่ก่อเหตุอีกก็จับตัวยาก?

รองแต้ม : "ค่อนข้างยาก แต่เขาอาจไปก่อเหตุคดีอื่น แล้วมีดีเอ็นเอเกี่ยวข้อง เช่นเลือด อาจจับกุมได้"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook