สธ.เตือนอย่าหลงเชื่อ เว็บไซต์ขายยาแก้หวัด 2009

สธ.เตือนอย่าหลงเชื่อ เว็บไซต์ขายยาแก้หวัด 2009

สธ.เตือนอย่าหลงเชื่อ เว็บไซต์ขายยาแก้หวัด 2009
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชี้เป็นยาควบคุมพิเศษต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น หลังตรวจสอบพบเว็ปตปท.ประกาศขายพร้อมยาเสริมสมรรถภาพทางเพศ

นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากกรณีที่มีเว็บไซต์ประกาศขายยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ได้เข้มงวดในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว เพราะยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ถือเป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องมีการสั่งจ่ายโดยแพทย์ ขอเตือนประชาชนว่าขณะนี้ช่องทางในการได้รับยามีเพียงการสั่งจ่ายยาผ่านแพทย์ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ทุกแห่ง ส่วนคลินิกจะเริ่มต้นได้ประมาณกลางสัปดาห์หน้า และต้องเป็นคลินิกที่ผ่านการคัดเลือกจาก สธ.แล้ว โดยจะมีการขึ้นทะเบียนและมีป้ายรับรองของสธ.

ด้านนพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบเว็บไซต์ที่ขายยาโอเซลทามิเวียร์ พบว่าเกือบทั้งหมดเป็นเว็บไซต์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ และมีการขายยาหลายชนิดรวมอยู่กับกลุ่มยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เชื่อว่าประชาชนจะเข้าถึงยาเหล่านี้ได้ยากและมีแรงจูงใจในการซื้อมาใช้น้อย เพราะประเทศไทยมีช่องทางในการเข้าถึงยาได้อย่างรวดเร็ว ทั้งโรงพยาบาลขนาดใหญ่และกำลังจะมีการกระจายยาลงไปในระดับคลินิก ทำให้แรงจูงใจที่จะหาซื้อยามาใช้มีน้อย ไม่เหมือนกับยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศที่มีความต้องการทางเว็บไซต์มากกว่าเพราะเป็นยาที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่เกิดความอายจึงหันมาสั่งซื้อผ่านอินเตอร์เน็ตแทน

"การขายยาผ่านเว็บไซต์หากพบจะเข้าข่ายความผิดฐานโฆษณาไม่ได้รับอนุญาติซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ และหากพบว่าเป็นยาปลอมก็มีโทษอีกเช่นกัน ซึ่งจากการที่สธ.มีนโยบายกระจายยาในระดับคลินิก ทำให้จะมีการตรวจสอบการใช้ยาที่เข้มงวดมากกว่าเดิม โดยคลินิกต่างๆต้องปฏิบัติตามที่สธ.วางเกณฑ์ไว้ และหากตรวจพบว่าคลินิกแห่งใดลักลอบขายยาโดยที่ไม่ได้รับอนุญาติก็จะมีโทษหนักทั้งการขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาติ และต้องส่งเรื่องให้แพทยสภาเพราะเข้าข่ายผิดจริยธรรม" นพ.พิพัฒน์ กล่าว

ด้านนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ. กล่าวถึงกรณีมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุญาตให้ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หยุดงานพักอยู่กับบ้านได้ 5-7 วัน โดยไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์ ทั้งในส่วนของราชการและเอกชน ว่า เป็นการขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคหากเริ่มป่วยให้หยุดอยู่บ้าน และแยกของใช้ส่วนตัวจากคนในครอบครัว เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ซึ่งในส่วนงานราชการคงไม่มีปัญหาเรื่องการหยุดงาน เพราะรัฐอนุญาตให้หยุดงานได้ แต่ในส่วนของภาคเอกชน อาจจะมีปัญหาบ้าง ซึ่งหากบริษัท ห้างร้าน ใดไม่เข้าใจนโยบายเรื่องนี้ ไม่อนุญาตให้พนักงานหยุดงานได้ ให้แจ้งมาที่ สธ. ได้ทันที ตนพร้อมจะประสานทำความเข้าใจให้

"เรื่องนี้เป็นการใช้ความไว้ว่างใจกัน หากผู้ที่มีประวัติการทำงานไม่ดี หยุดงานบ่อย ก็อาจใช้เรื่องนี้มาอ้างหยุดงานพร่ำเพรื่อได้ ซึ่งมติครม. อนุญาตให้หยุดงานได้เฉพาะเมื่อป่วยต้องสงสัยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เท่านั้น ไม่รวมไข้หวัดทั่วไป ซึ่งแต่ละคนจะป่วยได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น หากมีการหยุดงานมากกว่า 1 ครั้ง ให้ต้องสงสัยว่าอาจจะไม่ได้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้ทันที ยกเว้น กรณีที่มีบุตรหลายคน และมีการป่วยไม่พร้อมกัน ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หยุดงานได้มากกว่า 1 ครั้งก็ได้ ดังนั้น เพื่อความสบายใจทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนายจ้างและพนักงาน ก็ควรมีใบรับรองแพทย์มายืนยัน" ปลัด สธ. กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook