ดัน''รัฐสภา''ต้นแบบสถานที่ปลอดเชื้อหวัด09
นายพิทูร กล่าวว่า เนื่องจากในวันที่ 1 สิงหาคม เป็นวันเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะมี ส.ส. ส.ว. เจ้าหน้าที่ และประชาชนเข้ามาติดต่อสภาจำนวนมาก จึงมีการระดมทำความสะอาดเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดสมัยประชุมสภา เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า รัฐสภาเป็นจุดปลอดเชื้อ และเพื่อให้เกิดต้นแบบของหน่วยราชการในการเฝ้าระวังจากเชื้อไข้หวัด
ด้าน นพ.กำจร ตติยกวี อาจารย์ประจำภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะคณะกรรมการบริหารแผนและนวัตกรรมของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า เชื้อของไข้หวัด 2009 เมื่อออกจากร่างกายแล้ว จะสามารถอยู่ได้นาน 2-6 ชั่วโมง เมื่อผู้ป่วยเอามือสัมผัสกับสิ่งต่างๆ จะกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อ โดยพบว่ามีอยู่ 7 แหล่งที่สำคัญที่ต้องรักษาความสะอาดเป็นพิเศษคือ ลูกปิดประตูและมือจับ โทรศัพท์ แป้นคอมพิวเตอร์ ราวบันได โต๊ะ ปุ่มกดลิฟท์ และห้องน้ำ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่สงสัยว่าป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ คือ เป็นไข้ร่วมกับไอ หรือเจ็บคอ ให้อยู่กับบ้านเพื่อลดการแพร่เชื้อ เพราะผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง สามารถดูแลตัวเองที่บ้านได้ด้วยการพักผ่อน แต่ผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงคือ อายุน้อยกว่า 2 ปี หรือมากกว่า 65 ปี มีภาวะเสี่ยงด้านสุขภาพ เช่น หญิงตั้งครรภ์ โรคอ้วน หอบหืด หัวใจ เบาหวาน เมื่อเป็นไข้สูงถึง 38 องศาขึ้นไป ร่วมกับไอจาม ควรรีบพบแพทย์ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากแถลงข่าวเสร็จสิ้น เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้นำพนักงานรักษาความสะอาดระดมทีมทำความสะอาดบริเวณห้องประชุมรัฐสภาด้วยแอลกอฮอล์ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ของนายกรัฐมนตรีและ ส.ส. รวมถึงห้องผู้สื่อข่าวด้วย.