ครม.อนุมัติเงินกู้ให้เขมร1.4พันล้านสร้างถนนหมายเลข68

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล วัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม. ว่า ครม.อนุมัติงบประมาณ 1,400 ล้านบาท ให้สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (สพพ.) ดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศกัมพูชาสำหรับโครงการพัฒนาถนนหมายเลข 68 (กลอรันห์-สำโรง-โอเสม็ด) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 1.5 ต่อปี ระยะปลอดหนี้ 10 ปีแรก แต่ต้องชำระดอกเบี้ยทุกปีในวันที่ 20 พฤษภาคมและ 20 พฤศจิกายนของทุกปี โดยเริ่มชำระเงินต้นคืนตั้งแต่ปี 2562 สิ้นสุดในปี 2581 ซึ่งจากผลการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับโครงการดังกล่าวมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจร้อยละ 23.53 และจะกลายเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับการขนส่งสินค้าและบริการจากภาคอีสานตอนใต้ของประเทศไทยไปยังประเทศกัมพูชาและประเทศเวียดนาม และหลังการพัฒนาแล้วเสร็จจะทำใปริมาณการจราจรระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้าและบริการ ที่มีการคาดการณ์ว่าในปี 2558 จะมีการจราจร 4,633 คัน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 15,671 คันในปี 2576

"นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังสั่งให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)ไปพิจารณาผ่อนปรนเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาในจุดที่สามารถเปิดได้ ซึ่งทางสมช.รายงานว่าปัจจัยพิจารณาเปิดด่านมี 2 ข้อ คือ 1.เศรษฐกิจ และ 2.ความมั่นคง แต่ปัจจุบันปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องของความมั่นคงดังนั้นสมช.จะพิจารณาให้มีการเปิดด่านระหว่างกันได้ในบางจุดที่สามารถดำเนินการได้ นอกจากนี้ นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ยังอธิบายเสริมว่า มูลค่าซื้อขายระหว่างไทย-กัมพูชา สูงถึง 9 แสนล้านบาท ดังนั้นที่ประชุมครม.จึงมั่นใจว่า หากมีการดำเนินการในเรื่องให้เงินกู้ก่อสร้างถนน ละเปิดด่านระหว่างกันแล้ว จะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าขายระหว่างกัน และจะเป็นสัญลักษณ์ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ซึ่งการขอกู้เงินดังกล่าวทางกัมพูชาขอมาหบายรัฐบาลแล้ว แต่เพิ่งจะเสร็จเรียบร้อยในรัฐบาลปัจจุบันนายวัชระกล่าว

ด้านนายปณิทาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ครม.อนุมัติกรอบเจรจาในระดับมวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา และไทย-มาเลเซีย อีกด้วย ทั้งนี้ในปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาดีมาก มีการพูดคุยที่คืบหน้า ทั้งเรื่องชายแดน การค้า การเมือง