โควิด-19 ไทยตายเพิ่มอีก 2 รวม 12 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 120 รวมสะสม 1,771 ราย

โควิด-19 ไทยตายเพิ่มอีก 2 รวม 12 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 120 รวมสะสม 1,771 ราย

โควิด-19 ไทยตายเพิ่มอีก 2 รวม 12 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 120 รวมสะสม 1,771 ราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ (1 เม.ย.63) เมื่อเวลา 11.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แถลงถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ว่า

ล่าสุด ข้อมูลในวันนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยมีผู้ป่วยเพิ่ม 120 คน เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 1,771 คน

info-covid-19-thailand-01-04-

โดย ผู้เสียชีวิต 2 ราย รายละเอียดดังนี้

1. ชาย อายุ 79 ปี มีโรคประจำตัว เบาหวานและไตวายเรื้อรัง เดินทางไปร่วมงานแต่งงานที่มาเลเซีย พบมีอาการปอดอักเสบ

2. ชาย อายุ 58 ปี เป็นนักธุรกิจ เดินทางมาจากอังกฤษ มีไข้ ไอ เสมหะ รอตรวจสอบว่ามีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เสียชีวิตหรือไม่

ทั้งนี้ รายละเอียดของผู้ป่วยใหม่ทั้ง 120 คน สามารถจำแนกได้เป็นดังนี้

1. สัมผัส/เกี่ยวข้องผู้ป่วยก่อนหน้า 51 ราย

1.1 สนามมวย 1 ราย
1.2 กลุ่มสถานบันเทิง 11 ราย
1.3 สัมผัสกับผู้ป่วยติดเชื้อ 38 ราย
1.4 งานทางศาสนาที่มาเลเซีย 1 ราย

2.กลุ่มผู้ป่วยอื่นๆ 39 ราย 

2.1 คนไทยกลับจากต่างประเทศ 6 ราย
2.2 พิธีกรรมทางศาสนา อินโดนีเซีย 16 ราย
2.3 ชาวต่างชาติ 2 ราย
2.4 อาชีพเสี่ยง 14 ราย
2.5 บุคลากรทางการแพทย์ 1 ราย

3. กลุ่มรอสอบสวนโรคเพิ่มเติม 30 ราย

สำหรับผู้ป่วย 120 คนใหม่ แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 43 คน สมุทรปราการ 23 คน ภูเก็ต 11 คน กระบี่ นนทบุรี ปทุมธานี บุรีรัมย์ สงขลา และชลบุรี 2 คน ฉะเชิงเทรา นครปฐม ศรีสะเกษ สมุทรสาคร สระบุรี หนองบัวลำภู อุบลราชธานี 1 คน และอยู่ระหว่างสอบสวน 24 คน

ผู้ป่วยกลุ่มใหม่ กรุงเทพฯ-นนทบุรี ในช่วง 3-4 วันนี้ ลดลงแต่ก็ยังสูงกว่าต้นเดือนมาก ส่วนต่างจังหวัดมีตัวเลขเยอะขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้ป่วยกระจายไป 60 จังหวัด ซึ่งยังกระจุกตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ 850 คน และยังมีคนที่ใกล้ชิดกับคนกลุ่มนี้อยู่ที่ยังสามารถแพร่เชื้อได้

สรุปแล้ววันนี้ ผู้ป่วยกลับบ้านได้เพิ่มอีก 74 คน รวมรักษาหายแล้ว 416 คน ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 1,343 ราย เสียชีวิตแล้ว 12 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 1,771 ราย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook