Sanook คลุกข่าวเช้า 28 มี.ค. 63 นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ติดโควิด-19-เด้ง "เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก"

Sanook คลุกข่าวเช้า 28 มี.ค. 63 นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ติดโควิด-19-เด้ง "เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก"

Sanook คลุกข่าวเช้า 28 มี.ค. 63 นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ติดโควิด-19-เด้ง "เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อัปเดตข่าวสารยามเช้า ประจำวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563 ติดตามสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 ล่าสุด,นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ติดโควิด-19,สั่งเด้ง "เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก,ผู้ว่าฯ กทม. สั่งปิดโต๊ะสนุกเกอร์-ห้องจัดเลี้ยงเพิ่ม และแพทย์ศิริราชคาดอีก 14 วัน ยอดผู้ป่วยโควิดพุ่งกระโดดถึง 2 พัน

สามารถติดตามอ่านและใช้บริการกดฟังเสียงอ่านข่าว หรือเนื้อหาต่างๆ บนเว็บไซต์ Sanook โดยสังเกตสัญลักษณ์รูปลำโพง แล้วให้ระบบ AI อ่านเนื้อหาให้ฟังได้อีกด้วย อย่าลืมติดตามฟังจนจบนะคะ

  • นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และรัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ ติดโควิด-19 ผลตรวจร่างกายเป็นบวก

นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร มีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในร่างกายเป็นบวก โดยมีการโพสต์ลงในทวิตเตอร์ว่าตนมีอาการของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (COVID-19) แต่ไม่รุนแรงมาก และเตรียมกักตัวเองในบ้านพักนายกรัฐมนตรี หรือบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง ในกรุงลอนดอน และยังคงทำหน้าที่ผู้นำรัฐบาลสหราชอาณาจักรในการจัดการกับวิกฤติโรคโควิด-19 ต่อไปผ่านการประชุมทางไกลด้วยวิดีโอ (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) นอกจากนี้ นายจอห์นสัน ยังกล่าวในคลิปที่แนบมากับโพสต์ว่า ตนขอขอบคุณทุกคนและทุกฝ่ายที่ร่วมกันต่อสู้กับการระบาดของโรคนี้

อีกทั้งล่าสุด แมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่าเขามีผลตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็นบวก โดยมีอาการไม่รุนแรงและกักกันตัวเองอยู่ในบ้านแล้วโดยหวังว่าจะได้ยุติการกักกันตัวเองในวันพฤหัสบดี (2 เม.ย.) ที่จะถึงนี้ และเสริมว่า “เราควรทำตามคำแนะนำเพื่อปกป้องระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) และชีวิต”

  • สั่งเด้ง "เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก" เปิดทางสอบปมสนามมวยแพร่เชื้อโควิด-19

รายงานข่าวจากกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) เปิดเผยว่า ภายหลังพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีคำสั่งแต่งตั้งพล.ท.อยุทธ์ ศรีวิเศษ เจ้ากรมกำลังพลกองทัพบกและคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาสอบสวน กรณีการจัดการแข่งขันชกมวยรายการใหญ่ “ลุมพินีแชมเปี้ยนเกียรติเพชร” ที่สนามมวยลุมพินี เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมานั้น ตามระเบียบแล้ว หลังจากนี้ผู้ที่มีชื่อรับผิดชอบเกี่ยวกับสนามมวยลุมพินี ในส่วนของกองทัพบก อาทิ พล.ต.ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ในฐานะนายสนามมวยลุมพินี และผู้เกี่ยวข้องจะต้องมารายงานตัว และให้เข้ามาช่วยราชการภายในบก.ทบ. เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการสอบสวนสามารถไปหารายละเอียด และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางพล.ต.ราชิตยังอยู่ระหว่างการรักษาตัวจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

ด้านแหล่งข่าวจากกองทัพบก กล่าวว่า ยืนยันกองทัพต้องดำเนินการตามระเบียบขั้นตอน เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นก็จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน ยืนยันว่าเราจะไม่ทำแบบปิดบังซ่อนเร้น

  • คณบดีแพทย์ศิริราชคาดอีก 14 วัน ยอดผู้ป่วยโควิด-19 พุ่งกระโดด จากกลุ่มกลับต่างจังหวัด

ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) ว่าในเวลานี้เราจะแยกคนไทยเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 คนไม่มีอาการ และไม่ได้เป็นกลุ่มเสี่ยง แนะนำไม่ต้องไปทดสอบอะไรเลย และไม่ต้องไปหาชุดทดสอบรวดเร็ว (แรพิดเทสต์) มาตรวจ เพราะไม่มีประโยชน์ นอกจากเสียเงินแล้วจะทำให้น้ำยาที่ต้องใช้ตรวจในคนจำเป็นไม่เพียงพอ โดยสิ่งที่ควรทำคือ การอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ซึ่งจะทำให้เชื้อแพ้เรา และทำเรื่องระยะห่างทางสังคม

กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มคนที่ไม่มีอาการ แต่เป็นคนกลุ่มเสี่ยง ซึ่งไม่ใช่แค่การมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง แต่รวมถึงสถานที่ที่มีการเจอผู้ป่วยด้วย ก็ให้เอะใจว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง กลุ่มนี้แนะนำให้ไปที่รพ. เพื่อทดสอบ หากผลเป็นลบ อย่าเพิ่งดีใจ เพราะหมายความว่า เวลาตอนนั้นบอกเป็นลบ สิ่งที่ต้องทำต่อคือกลับไปอยู่บ้านให้ครบ 14 วัน และมีระยะห่างทางสังคม แต่ถ้าตรวจแล้วผลบวกแสดงว่ามีไวรัสอยู่ในตัวแล้ว ก็ต้องอยู่ รพ. การตรวจยังคงเป็นการใช้วิธีพีซีอาร์ เพื่อยืนยันเชื้อเป็นหลัก แต่หากมีผู้ป่วยล้นรพ.จนรับไม่ไหว แรพิดเทสต์ที่มีความไวจะมีประโยชน์ เพราะหากผลเป็นบวก จะทำให้บุคลากรตรงนั้นต้องระวังทันที และผู้มาตรวจก็เข้าสู่กระบวนการตรวจยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่ามีไวรัสตัวนี้จริงหรือไม่

และกลุ่มที่ 3 คือกลุ่มที่มีอาการและเป็นกลุ่มเสี่ยง กรณีแบบนี้ขอให้ไป รพ. และทำการทดสอบด้วยวิธีหลักคือตรวจแบบพีซีอาร์ เพราะเสี่ยงแล้วต้องยืนยันว่าใช่หรือไม่ใช่ และทำการรักษา ดังนั้นต้องถามตัวเราว่าอยู่กลุ่มไหน

ซึ่งคาดว่าภายใน 2 สัปดาห์ เราจะพบตัวเลขผู้ป่วยกระโดดขึ้นอีกครั้ง จากกลุ่มที่เดินทางกลับจากต่างจังหวัด ที่มีการไปรวมตัวกันตามขนส่ง ถึงแม้จะใส่หน้ากาก แต่ก็อยู่รวมกันเป็นเวลานานและเดินทางในรถคันเดียวกันหลายชั่วโมง ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อ ทำให้อาจพบผู้ป่วยถึง 2 พันคน เมื่อถึงวันนั้นบุคลากรทางการแพทย์ของไทยอาจจะไม่เพียงพอ เพราะสัดส่วนในการดูแลผู้ป่วยปัจจุบันใน กทม.แพทย์ 1 คน ดูแลผู้ป่วย 800 คน แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัดโดยเฉพาะภาคอีสานแพทย์ 1 คนดูแลผู้ป่วยมากถึง 3,000 คน รวมถึงอุปกรณ์และผู้เชี่ยวชาญก็อาจจะมีน้อยหรือไม่พร้อม อาจทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงไปพร้อมกับจำนวนผู้ป่วย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook