มีกล้องไม่ต้องมีจ่า
ล็อกล้อ
กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เริ่มนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการทำงานสักระยะแล้ว
แต่ละเทคโนโลยีที่นำมาใช้ก็ได้ผลเป็นอย่างดี
อย่างรายงานผลการตรวจสอบระบบ SMS ในการใช้ตรวจสอบหมายจับ ก็ช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบบุคคลตามหมายจับ และสามารถจับกุมได้ผู้ต้องหาได้อย่างต่อเนื่อง
หรืออย่างกล้องเรดไลท์คาเมร่าที่นำมาใช้ตรวจจับผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง และทำผิดกฎจราจร โดยติดตั้งอยู่ในพื้นที่นครบาลแค่ 30 กว่าทางแยก
ในระยะเวลาแค่ 6 เดือน กล้องเรดไลท์คาเมร่าช่วยเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีแล้วถึง 271,641 ราย มีผู้มาเสียค่าปรับในอัตรารายละ 500 บาทแล้ว 80,563 ราย
ที่สำคัญยังได้ผลในทางจิตวิทยา ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ กระทำความผิดลดลง
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งเงินค่าปรับให้กทม.ไปแล้ว และกำลังทำเรื่องขอติดตั้งกล้องเรดไลท์คาเมร่าเพิ่มอีก 30 ตัว
แถมจะเพิ่มวิธีชำระค่าปรับให้ผู้ที่ทำผิด โดยใบสั่งที่มีบาร์โค้ดด้านล่างมุมขวา สามารถชำระได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศโดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 15 บาท
ส่วนการกำหนดความผิดคนที่ขับรถฝ่าไฟแดงที่มีคนโต้แย้งว่าถูกจับในขณะไฟเหลือง
ทางบช.น.ได้ออกมายืนยันเกณฑ์การพิจารณาว่า กล้องตรวจจับจะเริ่มภายหลังสัญญาณไฟเป็นสีแดง รถที่ขยับเกินแถบเส้นสีขาวในขณะที่เป็นไฟเหลืองกล้องจะยังไม่ทำงาน
แต่ในกรณีที่รถเกินแถบเส้นสีขาว แม้จะไม่ได้ขยับเกินแยกออกไป ก็อาจถูกจับกุมข้อหาจอดรถกีดขวางทางแยกได้
ส่วนใครที่คิดจะใช้ทะเบียนปลอม แก้ไขทะเบียน ปิดบัง ดัดแปลงเพิ่มเติม หรือไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เพื่อไม่ให้กล้องจับเลขทะเบียนได้หากฝ่าไฟแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะถือว่า มีความผิดข้อหาดัดแปลงแผ่นป้าย มีค่าปรับ 1,000 บาท สถานเดียว
ต่อไปมุขตลกที่ว่า เห็นไฟไม่เห็นจ่า อาจกลายเป็นแค่เรื่องเล่า เพราะมีกล้องมาทำหน้าที่แทนจ่า