เปิดใจ "พันธ์ยศ" เจ้าของบ้านที่ "เสี่ยบอย" ใช้ถ่ายคลิป ยืนยันมีหน้ากากไม่ถึง 200 ล้านชิ้น

เปิดใจ "พันธ์ยศ" เจ้าของบ้านที่ "เสี่ยบอย" ใช้ถ่ายคลิป ยืนยันมีหน้ากากไม่ถึง 200 ล้านชิ้น

เปิดใจ "พันธ์ยศ" เจ้าของบ้านที่ "เสี่ยบอย" ใช้ถ่ายคลิป ยืนยันมีหน้ากากไม่ถึง 200 ล้านชิ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"พันธ์ยศ" แจงยิบ อมหน้ากาก 200 ล้านชิ้น ชี้ "บอย" พูดโอเวอร์เรื่องตัวเลข ขอโทษทำให้คนไทยเดือดร้อน ส่งออกด้วยเจตนารมณ์ที่ดี อยากให้รายได้เข้าประเทศ

จากกรณี "นายบอย ไนท์มาร์เก็ต" หรือ "ศรสุวีร์" โพสต์คลิปโชว์ว่ามีหน้ากากอนามัยกักตุนเพื่อส่งออก 200 ล้านชิ้น หลายคนมุ่งไปที่ "คุณพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์" ประธานยุทธศาสตร์ พรรคภราดรภาพ ซึ่งเป็นนักธุรกิจ เพราะสถานที่ที่บอยไปถ่ายคลิปคือบ้านคุณพันธ์ยศ และอีกฝ่ายได้ทำธุรกิจกับจีน หลายคนพุ่งเป้าว่าเขาหรือเปล่าที่เอาหน้ากากอนามัยไปกักตุนไว้

รายการโหนกระแสวันที่ 10 มี.ค. "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ "คุณพันธ์ยศ" มาพร้อม "รศ.ดร. วีรชัย พุทธวงศ์" หรือ "อ.อ๊อด" ภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ และ "ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร"

คุณพันธ์ยศ สรุปหน้ากากอนามัยที่บอยไนท์มาเก็ตเอาออกมาเปิดเผย และไปโพสต์คลิปในสถานที่แห่งหนึ่ง ยอมรับมั้ยว่าเป็นโรงเก็บของของคุณ?

พันธ์ยศ : "ใช่ครับ เป็นที่บ้านเลย"

คุณรู้จักบอยได้ไง?

พันธ์ยศ : "มีผู้ใหญ่ท่านนึงแนะนำ เป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่รัฐมนตรี เนื่องจากท่านอายุมาก ก็ให้ผมช่วยดำเนินการประสานงานจัดหาหน้ากากอนามัย ช่วงตอนเริ่มต้น ตอนนั้นชาวจีนมาหาหน้ากากที่ไทย ตั้งแต่เดือน ม.ค ต่อเนื่องมาถึงก.พ. ช่วงอู่ฮั่นเลย"

ตอนนี้กฎหมายกำหนด หลัง 20 ก.พ. เขาควบคุม แต่คุณปล่อยตั้งแต่แรก?

พันธ์ยศ : "ใช่ครับ ตอนนั้นผมเหมือนตัวกลางมากกว่าระหว่างตัวแทนจากโรงงาน อีกส่วนช่วยจัดหาให้ โดยการสั่งซื้อต่างๆ ก็ผ่านออนไลน์ซะเป็นส่วนหนึ่ง แต่บางที่แพ็กกิ้งไม่ดี ไม่ได้มาตรฐานตามที่จีนต้องการ ก็เอามาแพ็กใหม่ ใส่กล่องใหม่ให้ดูเรียบร้อย"

ยืนยันตั้งแต่ม.ค.?

พันธ์ยศ : "ใช่ครับ ตั้งแต่ ม.ค. ต่อเนื่องถึง ก.พ."

คุณสั่งมาจากไหนเยอะขนาดนั้น?

พันธ์ยศ : "จริงๆ ไม่ได้เยอะมาก เท่าที่เห็นในคลิปบอยหลักหมื่นชิ้นเท่านั้นเองไม่ถึงแสนชิ้นด้วยซ้ำ"

คุณใช้คำว่าเท่าที่เห็น แต่คุณสั่งมาเองไม่ใช่เหรอ?

พันธ์ยศ : "ใช่ครับ บางทีสั่งมาก็แล้วแต่จำนวน คนต้องการเท่าไหร่ ผมก็ทำหน้าที่จัดหา บางทีแค่โทรไปเขาก็มาส่งแล้ว"

เอามาจากไหน?

พันธ์ยศ : "ทุกที่ครับ ส่วนใหญ่หามาจากออนไลน์ หลังๆ อยู่เฉยๆ ก็มีน้องๆ ที่เคยซื้อขายมาส่งที่บ้านเลย"

แผ่นเท่าไหร่?

พันธ์ยศ : "โห ทำตั้งแต่เริ่มต้น แผ่น 2 บาท 2.5 บาท จนถึง ณ ปัจจุบัน ราคา 15 บาท 15.5 บาท"

ส่งไปไหน?

พันธ์ยศ : "ส่วนใหญ่เป็นคนจีนที่จะมาหา ก่อนหน้านี้คนจีนทั้งนั้น ก็มีช่วงหลังๆ มีคนไทยที่ทราบว่าผมสามารถหาหน้ากากได้ ก็ติดต่อมาเป็นจำนวนมาก"

หนึ่งในนั้นคือบอย?

พันธ์ยศ : "หนึ่งในนั้นคือคุณบอย บอยนี่ติดต่อเป็นแค่ตัวแทน เป็นนายหน้า ติดต่อประสานงานจากชาวจีนเข้ามาให้มาซื้อกับผม"

คุณมีหน้าที่หาหน้ากากมาเก็บไว้?

พันธ์ยศ : "ไม่เรียกว่าเก็บ ไม่ได้กักตุน อาจเป็นเรื่องความเชื่อมั่นของคนจีนด้วย ในส่วนของผมทำธุรกิจไทยจีนมาโดยตลอด อาจเกิดความเชื่อมั่นตรงนี้ การที่มารับส่งสินค้าตรงนี้เขารู้สึกปลอดภัย"

บอยรับไปเท่าไหร่?

พันธ์ยศ : "คุณบอยเขาไม่ได้รับไป เขาอาจได้ในส่วนค่าคอมมิชชั่นจากจีน เรียกว่าเป็นค่าแรง ทั่วไปในวงการหน้ากากเขาเรียกว่าค่าคอมมิชชั่นกัน บางทีนายหน้าก็บวกราคาขึ้นไปเอง ถ้ามีนายหน้าหลายคน ราคาก็ถูกบวกทอดๆ กันไป"

บอยที่เราเห็นในคลิป เขาบอกมี 200 ล้านชิ้น อะไรทำให้เขาพูดแบบนั้น?

พันธ์ยศ : "ผมว่าน่าเป็นความเชื่อมั่นของเขา กรณีมีจำนวนมาก เขาคงมีทีมงานที่จะหาได้ เพียงแต่อาจพูดตัวเลขโอเวอร์ไปหน่อย ทำให้ทุกคนคิดว่ามีการกักตุนสินค้าเยอะขนาดนั้น แต่จริงๆ แล้วไม่มี ผมเชื่อว่าถ้ามีผมก็ต้องทราบ แต่นี่ไม่มี"

คุณยืนยันว่าบอยไม่ได้ขาย เป็นแค่นายหน้า?

พันธ์ยศ : "ใช่ครับ"

เขากินเปอร์เซ็นต์ยังไง จากแผ่นหรือเหมาเป็นลัง คุณจ่ายให้บอยด้วยมั้ย?

พันธ์ยศ : "คือด้วยครับ บางทีเรามีการทอนคืนกลับไปให้ ก็ไม่เท่าไหร่ บางทีก็ 10 20 25 สตางค์ แค่นี้เอง"

เขาไปหาพีท กับเล็ก ไอศูรย์ เขาประกาศใครมีหน้ากากให้ติดต่อมาขาย เป็นไปได้มั้ยส่งต่อให้คุณ?

พันธ์ยศ : "เป็นไปได้หมดทุกอย่าง ช่วงนั้นมีชาวจีนเข้ามาสอบถามเยอะมากมาย บางทีก็ให้เขาคุยเองไปเลย เราได้ค่าตอบแทนที่เป็นค่าแรงนิดหน่อย ส่วนใหญ่ให้เขาเจอกันโดยตรงมากกว่า"

หลังอู่ฮั่นทำอีกมั้ย?

พันธ์ยศ : "ม.ค. ทำอยู่ ส่วนก.พ. ก็ยังมีออเดอร์ที่ค้างอยู่ เรามีการทำสัญญาโดยการรับปากเอาไว้ ก็ดำเนินการให้ครบถ้วน"

รู้สึกยังไง ประชาชนมองว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หน้ากากในคนไทยเองที่ต้องใช้มันขาดแคลน เหมือนคุณได้กำไรบนคราบน้ำตาชาวไทย?

พันธ์ยศ : "ผมว่ามันเป็นเรื่องธุรกิจธรรมดา ตอนแรกเราไม่คิดว่าจะดราม่าขนาดนี้ เราทำธุรกิจโดยปกติใครๆ ก็ทำได้ แล้วปัจจุบันนี้ไม่ได้มีผมแค่คนเดียว ผมว่าทำกันหลักแสนหลักล้านคนด้วยซ้ำที่ทำธุรกิจหน้ากากอนามัย เพราะธุรกิจซบเซา ทุกอย่างขายไม่ได้เลย วันนี้คนหันมาขายหน้ากากอนามัยเพราะมันเป็นสินค้าที่ยังพอขายได้ ดังนั้นคนที่กระโดดเข้ามาสู่ธุรกิจนี้มีเป็นจำนวนมาก"

จะบอกว่าเศรษฐกิจตอนนี้ลำบาก มีแค่ธุรกิจหน้ากากกับเจลล้างมือ แอลกอฮอล์?

พันธ์ยศ : "ใช่ครับ"

แต่การส่งไปขายต่างประเทศ?

พันธ์ยศ : "ต้องบอกว่าก่อนหน้านั้น"

จะบอกว่าปัจจุบันนี้ไม่?

พันธ์ยศ : "ใช่ครับ เมื่อมีการระบาดในไทย ผมก็เตรียมตัวกับครอบครัวและทีมงาน ตอนไม่ระบาดในไทย ทุกคนมองตลาดต่างประเทศ แต่เราวางแผนว่าถ้ามีการระบาดในไทยเราต้องดูแลในไทยเราเป็นอันดับแรก เป็นเจตนารมณ์ตั้งแต่แรก"

บริษัทชื่ออะไร?

พันธ์ยศ : "เดิมทีก่อตั้งบริษัทไทยเฮลท์จำกัด ตอนนี้ปิดดำเนินการไปเป็นปีแล้ว"

มีเพจไทยแมสก์มั้ย?

พันธ์ยศ : "ไม่มีครับ เมื่อก่อนเคยมีเพจ แต่ไม่ได้ชื่อไทยแมสก์ ผมไม่เคยโฆษณาขายสินค้าใดๆ เนื่องจากสินค้าเป็นสินค้าที่ตอนแรกเราออกแบบแพ็กเกจจิ้งด้วยซ้ำ ตอนนี้เราไม่ได้ดำเนินการ หลังจากที่มีกฎหมายออกมา ซึ่งเราก็ต้องปฏิบัติตามเคร่งครัดอยู่แล้ว"

ส่งมากสุดกี่ชิ้น?

พันธ์ยศ : "ตอนนั้นก็คือหลักล้านชิ้น ส่งให้ตัวแทน เขาบอกเป็นตัวแทนเพื่อนำสินค้าตัวนี้ไปบริจาค แต่เราไม่รู้หรอกนำไปบริจาคจริงหรือไม่จริง หรือส่งออกต่างประเทศจริงหรือไม่ เพราะผมไม่ได้ติดตามต่อ เมื่อมีการรับสินค้า ดำเนินการชำระเงินเรียบร้อยก็ไม่ได้ติดตามต่อ"

เรื่องที่มาถึงตัวคุณ ทางการเขาต้องตรวจสอบ คุณยินดี?

พันธ์ยศ : "ยินดีให้ความร่วมมือในทุกข้อกล่าวหา"

ไม่ได้สนิทกับบอย?

พันธ์ยศ : "เขาก็พยายามเข้ามารู้จักในช่วงหลัง ไม่ถึง 1 เดือน ช่วงที่ผ่านมาเจอกันบ่อยหน่อย"

รู้สึกยังไง?

ทนายรณณรงค์ : "รู้สึกแย่ ทุกวันนี้หาซื้อหน้ากากไม่ได้ด้วย เรารู้อยู่แล้วว่ามีคนเอาไปทำกำไรที่ต่างประเทศ ถ้าเป็นไปได้ ธุรกิจตัวอื่นมีเยอะแยะไปหมด ไม่ต้องขายหน้ากาก ไม่งั้นต่อไปคนมีรายได้น้อยหาซื้อไม่ได้หรอก หมดปัญญาซื้อ โรคระบาดเป็นเรื่องจำเป็นยิ่งกว่าอาหารอีกนะ เป็นวัฏจักรในการวนลูป ผมเห็นเพื่อนผมบางคนก็ทำธุรกิจขายหน้ากาก บอกว่ากำไรหลักหมื่นหลักแสน ขายบนความหวาดวิตกของประชาชน พอไปดูหน่วยงานที่ดูแลกำกับ มีความเกี่ยวข้อง ก็บกพร่อง เป็นเดือนแล้วไม่เคยแก้ปัญหาอะไรเลย ปล่อยให้คนเอาหน้ากากไปขายจีน ได้กำไรเยอะๆ ทำให้ประเทศขาดแคลน เป็นดราม่าอยู่กระทรวงโน้นกระทรวงนี้ จริงๆ ถ้าแก้ปัญหาตั้งแต่ต้น พวกผมก็ไม่ต้องเดือดร้อน หมอก็ไม่ต้องเดือดร้อน โควิดแม้จะระบาดแต่เรามีอุปกรณ์ป้องกัน ทุกวันนี้มันหาอุปกรณ์ป้องกันไม่ได้"

บอยไนท์มาร์เก็ตบอกรู้เท่าไม่ถึงการณ์?

ทนายรณณรงค์ : "ผมไม่เชื่อว่าจะเป็นแบบนั้น ผมอยากเชื่อว่าสินค้าทุกตัวที่เอามาขาย ประกาศจะขาย คุณไปหามาจากไหน คนเอาสินค้ามาให้คุณไปได้มาจากไหน ในเมื่อกระทรวงพาณิชย์เขามีมาตรการป้องกันแล้ว  มันหลุดรอดจากโรงงานได้ยังไง มีคนติดต่อขอซื้อขายจากคุณไปกี่คน ขายราคาเท่าไหร่ คุณขายเกินราคาหรือไม่ ตรงนี้ต้องมีคำตอบมา"

เขาโดน พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ไปก่อน?

ทนายรณณรงค์ : "ตอนนี้หลักฐานยังไปไม่ถึง แต่ผมเชื่อว่าถ้ามีการสืบสวนต่อ มีการขยายผล ใครแอบเอาไปขายคนอื่นหรือเปล่า"

จะบอกว่าภาครัฐไม่ได้ควบคุมตั้งแต่แรก?

ทนายรณณรงค์ : "ใช่ครับ ถ้าควบคุมผมก็ไม่เดือดร้อน หมอก็ไม่เดือดร้อน  เขามีอุปกรณ์ป้องกันโควิดเต็มที่ ใครไปรักษาก็มีแจกด้วยซ้ำ พอมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ผมเสียใจมาก"

รู้สึกยังไงที่คนไทยหาหน้ากากอนามัยไม่ได้ เราอาจเป็นส่วนหนึ่งในการส่งไปต่างประเทศ?

พันธ์ยศ : "จริงๆ เราก็มีการเตรียมการไว้อยู่แล้ว ผมก็รู้สึกเสียใจส่วนหนึ่ง อย่างที่บอกการนำส่งออกไปต่างประเทศ ตอนแรกเราคิดว่าทจะทำให้มีรายได้เข้าประเทศด้วยซ้ำ เป็นโอกาสของประเทศไทยด้วยซ้ำ แต่เมื่อมีโรคระบาดและกฎหมายไม่เอื้ออำนวยให้ทำธุรกิจ หรือทำให้หน้ากากอนามัยมีมากพอกับประชาชน ก็รู้สึกเสียใจกับกฎหมายที่รัฐบาลออกมา"

เสียใจกับกฎหมายที่รัฐบาลออกมาควบคุมเหรอ ทำให้คุณไม่ได้ขายเหรอ?

พันธ์ยศ : "ไม่ใช่ หมายถึงสินค้าอยู่ที่อุปสงค์อุปทาน ดีมานต์ซัปพลายมากกว่า คือกฎหมายแค่เป็นการควบคุม ซึ่ง ณ ขณะนั้นราคามันไปไกลมากแล้ว แล้วสินค้ามันหายากมาก"

ตอนนี้มีเท่าไหร่?

พันธ์ยศ : "มีไม่ถึงหมื่นชิ้น"

จะรับผิดชอบด้วยการเอาไปแจก?

พันธ์ยศ : "แน่นอน ผมทำเป็นประจำอยู่แล้ว แค่ผมไม่ได้โพสต์บอก ผมเอาไปบริจาคอยู่แล้ว และมีบางหน่วยงานมารับที่บริษัท เพียงแต่ผมไม่จำเป็นต้องโพสต์บอกใคร"

อ.อ๊อด : "ต้นทุนคุณบอกว่าสองบาท แต่ที่ตามคลิปแหม่มโพธิ์ดำ คนนั้นเขาประกาศขาย 14 บาท ผมคิดว่าคุณไม่น่าได้ 2 บาทเพราะราคาที่เขาประกาศในคลิป 14.70 บาท ส่วนต่าง 12 บาทกว่าอยู่ที่เขาคนนั้นหรือเปล่า ที่สำคัญเฟซบุ๊กคนนั้นโชว์เครื่องจักร ผมไม่ทราบว่าถ่ายที่บ้านคุณที่กำลังผลิตแมสก์หรือเปล่า"

พันธ์ยศ : "ไม่ใช่ครับ บ้านผมไม่มีเครื่องจักร"

เรื่องเงินที่บอกว่าขาย 14.70 บาท?

พันธ์ยศ : "ผมเป็นแค่ตัวกลาง การซื้อมาขายไป ก็ดูตลาด ถ้าบวกเพิ่มได้อย่างมาก 10-20 สตางค์แค่นี้ มากสุดไม่เกิน 50 สตางค์เพราะเราไม่ใช่โรงงานโดยตรง ถ้าเป็นโรงงานโดยตรงแล้วนำไปขายราคานี้ก็จะได้กำไรมาก นี่คือประเด็นที่น่าจะมีความเข้าใจผิดกัน ไม่ได้กำไรมากขนาดนั้น"

อ.อ๊อดเอาอะไรมา?

อ.อ๊อด : "หน้ากากไม่รู้เอามาจากโรงงานไหน"

พันธ์ยศ : "อันนี้ถือว่าคุณภาพดี อีกอันมาจากเวียดนาม ส่วนใหญ่จะหนา และเห็นสี่ชั้นซะเยอะ ส่วนใหญ่จะเคลมว่ากันน้ำทั้งหมด"

เคยขายมั้ย?

พันธ์ยศ : "เคยมีครับ"

อ.อ๊อด : "หน้ากากอนาย มอก.ไทยต้องกันสารคัดหลั่ง ฉะนั้นต้องป้องกันน้ำได้ แต่ถ้าคนเอาแอลกอฮอล์ไปทำความสะอาด (ฉีดให้ดู) เทน้ำลงไปก็ทะลุเลย อยากจะฝากบอกประชาชนว่าตัวหน้ากากเขามีสารเคลือบ อย่าเอาแอลกอฮอล์ไปฉีด ไปล้าง ไวรัสจะมาจากสารคัดหลั่ง ไม่ใช่เดินไปดีๆ เราจะเป็นไข้หวัด มันต้องมีคนมาจามใส่ก่อน หรือจับอะไรมาป้ายจมูกตัวเอง ตัวกันที่หมอต้องการคือกันน้ำ เราเห็นหลายเพจบางเฉียบแล้วขาย 13 บาท หน่วยงานต้องไล่จับ แล้วคนบอกว่าแอลกอฮอลล์ 70 เปอร์เซ็นต์ฆ่าเชื้อ ฉีดมาปุ๊บหน้ากากคุณไปเลย โดนน้ำลายก็ซึมเข้าจมูก หรือคุณหมอโดนเลือดแล้วซึมเข้าไป มาตรฐานหน้ากากจะมี 3 อย่าง มีประเภททั่วไป กันความละเอียดสูง ตัวที่หมอใช้คือกันน้ำซึมผ่าน แต่ 3 อย่างต้องมีคือลวดโค้งงอ ที่เป็นดราม่านักการเมืองชื่อดัง ไม่มีตัวนี้ คุณพันธ์ยศมีครบมั้ย"

พันธ์ยศ : "ส่วนใหญ่ของผมจะซื้อที่มีลวดและสามชั้น เป็นลักษณะกันน้ำได้ เราดูก็รู้"

อ.อ๊อด : "ป้ายมูลนิธิไปไหน?

พันธ์ยศ : "ยังอยู่ แต่ขยับไปชั้น 2 เนื่องจากว่าคนเข้ามาแล้วป้ายล้มลงมา ก็ติดไว้ชั้น 2 แทน"

อ.อ๊อด : "ห้ามถ่ายภาพจริงมั้ย"

พันธ์ยศ : "ห้ามถ่ายภาพ เนื่องจากช่วงหลังมีคนนำภาพไปโพสต์และไปหลอกลวงคนอื่นก็มี มีมิจฉาชีพเข้ามา คือถ่ายได้ แต่แจ้งหน่อย ขออนุญาตหน่อย"

อ.อ๊อด : "ข้างบนมีเครื่องจักรมั้ย"

พันธ์ยศ : "ไม่มี ตร.เข้าไปแล้วเมื่อวาน นำหมายค้นตลิ่งชันเข้าไปตรวจพื้นที่ ก็อย่างที่บอกว่าเป็นบ้านพักอาศัย เพียงแต่ว่าช่วงดำเนินการเรื่องหน้ากากเป็นการชั่วคราว"

พี่รณณรงค์ยังไงต่อ?

ทนายรณณรงค์ : "ถ้าไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องหน้ากากได้ อธิบดีกรมการค้าภายในต้องพิจารณาตัวเองนะ ผมเดือดร้อนเป็นเดือนแล้ว ยังไม่ทำอะไรเลย"

เขาบอกทำมาหลายวันแล้ว?

ทนายรณณงค์ : "มันเกิดมาเป็นเดือนแล้ว ถ้านับเป็นสัปดาห์ 40 จะ 50 แล้ว ดูสิ พ่อค้ายังเอาไปขายที่จีนได้อยู่เลย ทำไมไม่ป้องกันตั้งแต่ก.พ. ควรพิจารณาตัวเอง สงสารหมอมากไปรักษาเขาแต่ไม่มีหน้ากากใช้ ต้องมารับบริจาค เพราะคุณไม่ทำการ ถ้าคุณป้องกันได้เราจะต้องมานั่งตรงนี้มั้ย ไม่มีใครอยากว่า พิจารณาตัวเองก็ดี"

วันนี้ยืนยันว่าคุณไม่ได้ส่งออกอีกแล้ว?

พันธ์ยศ : "ไม่มีส่งออกไปนานแล้ว จริงๆ แล้วหน้ากากในประเทศไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ไปอยู่ที่ไหนสักที่"

คุณรู้มั้ยว่า 200 ล้านชิ้นอยู่ไหน?

พันธ์ยศ : "ผมไม่แน่ใจ แต่ไม่ได้อยู่ที่ผมแน่นอน เพราะผมไม่ได้กักตุนหน้ากาก โอเคผมเคยเป็นผู้ค้าหน้ากาก หรือเป็นนายหน้าโบรกเกอร์คอยประสานงาน แต่แม้แต่ผมเองก็หาไม่ได้ ผมยังคิดวิธีการว่าไปรวบรวมจากออนไลน์มาดีกว่า"

เขาว่าคุณเป็นตัวเอ้ให้ตัวเล็กตัวน้อยกระจายขาย?

พันธ์ยศ : "ไม่ใช่ มีแต่ผมเอาจากตัวเล็กตัวน้อยมาบริหารจัดการให้"

จะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดยังไงดี วันนี้หน้ากากเราขาดแคลน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคุณส่งไปขายต่างประเทศ?

พันธ์ยศ : "ก็ต้องกราบขออภัย ถ้าเดือดร้อนเรื่องการส่งออกของผมในตอนแรก ด้วยเจตนารมณ์ที่ดีว่าเราอยากให้สินค้าประเทศไทยไปสู่ต่างชาติ ขยายเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้อย่างที่บอกถ้าผมเป็นผู้มีอำนาจในรัฐ คงใช้วิธีสนับสนุนให้คนไทยทำหน้ากากดีกว่า หรือขยายให้เกิดเป็นสินค้าเศรษฐกิจไปเลย มากกว่าออกมาตรการแค่เพียงการควบคุม"

ทนายรณณรงค์ : "กำไรดีมั้ย"

พันธ์ยศ : "ช่วงต้นกำไรธรรมดา เพราะของผมมันวันต่อวัน มันผ่านมือเฉยๆ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook