กระหน่ำยิงปี1 เทคโนฯดุสิตดับคาโป๊ะแม่น้ำเจ้าพระยา!

หนุ่มปวช. เทคโนฯดุสิต ชะตาขาด ขณะนั่งเล่นริมน้ำ ถูกคนร้ายเดินเข้ามาหาเรื่อง-ถามหาสถาบัน ก่อนกราดยิงใส่ กระโดดลงน้ำแต่ไม่รอด คาดฝีมือคู่อริ

เหตุการณ์หนุ่มปวช.ถูกยิงขณะนั่งเล่นริมแม่น้ำเจ้าพระยารายนี้ถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 00.30 น. พ.ต.ท.เอกพล ทวิชวงค์ไชยกุล สารวัตรเวรพนักงานสอบสวนสน.ปากคลองสาน ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงที่บริเวณ ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กทม.จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุบริเวณโป๊ะท่าน้ำสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว อยู่ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าเ พบวัยรุ่นจำนวนกว่า 10 คนในสภาพเนื้อตัวเปียกปอนอยู่ในอาการตื่นตระหนกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ถูกกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด ยิงเข้าใส่จนต้องกระโดดหนีลงแม่น้ำเจ้าพระยาและเพื่อนที่มาด้วยกันถูกยิงได้รับบาดเจ็บส่วนเพื่อนอีกคนได้จมหายไปหลังจากที่กระโดดหนีตายลงไปในน้ำ

เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันงมหา พบร่างนายณัฐนนท์ หรือ ก้อง ศรีหาพล อายุ 16 ปี นศ.ปวช.ปี 1 แผนกช่างยนต์เทคโนโลยีดุสิต กม.9 รามอินทรา อยู่บ้านเลขที่ 39/27 หมู่ 2 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สภาพสวมใส่เสื้อยืดสีเขียว กางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าผ้าใบ บาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ที่สะบักหลังข้างขวา ทะลุราวนมข้างซ้าย ส่วนคนเจ็บนำส่งโรงพยาบาลวชิระไปก่อนหน้า ทราบชื่อนายพงศธร หรือเต้ คุ้มฤทธิ์ อายุ 16 ปี นศ.ปวช.ปี 1 แผนกช่างไฟฟ้า สถาบันเดียวกัน ถูกยิงเข้าที่บริเวณฝ่าเท้าเหนือนิ้วก้อยด้านขวา นำตัวส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าฯ

สอบสวนนายสถาพร ม่วงวัง อายุ 15ปี เพื่อนผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้รวมกลุ่มกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาเที่ยวซื้อของที่สนามหลวงก่อนจะไปนั่งเล่นจุดเกิดเหตุ นั่งได้ 10 นาทีมีกลุ่มวัยรุ่นซึ่งไม่เคยรู้จักมาก่อน เดินเข้ามา 3 คน ก่อนพยายามถามหาเรื่อง และถามว่าพวกตนเรียนอยู่สถาบัน ไม่ทันระหวังชายที่สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว รูปร่างกะทัดรัด ได้ชักปืนยิงเข้าใส่กลุ่มตนเอง เพื่อน ๆต่างพากันกระโดดน้ำหนีตายเอาตัวรอด

ต่อมานางวรรณี ศรีหาพล อายุ 38 ปี แม่ของนายณัฐนนท์ ได้เดินทางมาดูศพบุตรชาย พร้อมกับกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายขอเงินไปซื้อของ ไม่คาดคิดว่าจะมาถูกยิงเสียชีวิต เท่าที่ทราบไม่ได้มีปัญหากับใคร ก็พยายามย้ำให้ระมัดระวังตัว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเพื่อนผู้ตาย ก่อนประสานให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวเป็นการด่วน โดยสันนิษฐานว่าอาจจะมีการเขม่นกันมาก่อน หรือเป็นอริต่างสถาบัน อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียด ก่อนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้