เปิดแล้ว Call Center สายด่วน ผบ.ทบ. ใช้บริการได้ไร้กังวล ยันทุกอย่างเป็นความลับ

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบกแถลงเปิดตัวศูนย์ Call center “สายตรง ผบ.ทบ.02-018-7330 ” อย่างเป็นเป็นทางการ เพื่อให้กำลังพลสามารถร้องทุกข์มาอย่างผู้บัญชาการทหารบก
ได้โดยตรง ที่ได้เปิดดำเนินการเมื่อวานนี้เป็นวันแรก ซึ่งเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาดำเนินการเป็น Call centerโดยจะมีการบันทึกการสนทนา เพื่อส่งไปยังผู้บัญชาการทหารบก พร้อมแนบ ชื่อ ยศ สังกัด
ใส่ซองปิดผนึก เพื่อประกันให้กำลังพลที่ร้องเรียนเข้ามาได้มั่นใจว่าทุกอย่างจะเป็นความลับอย่างแท้จริง

ส่วนเรื่องที่ถูกร้องเรียนเข้ามาผ่าน Call Center อาจจะมีการนำมาประเมินความสำคัญหากเรื่องใดที่มีผู้ร้องเรียนเป็นจำนวนมาก ก็จะถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ แต่ก็ขอเรียนไปยังผู้บังคับหน่วยทั่วประเทศ
ว่าไม่ต้องกังวล เพราะคนที่เป็นถึงผู้บัญชาการทหารบกและรองผู้บัญชาการทหารบก มีดุลพินิจเพียงพอที่จะแยกแยะได้ว่าเรื่องใดเป็นเรื่องจริง เรื่องใดเป็นเรื่องการกลั่นแกล้ง เพราะจะมีการกลั่นกรองผ่านเจ้าหน้าที่จากเอกชนที่มีประสบการณ์ ซึ่งหากประเมินแล้วพบว่าเรื่องร้องเรียนเป็นความจริง จะมีการโทรสอบถามไปยังผู้บังคับหน่วย และหากพบว่ามีมูลความจริงก็จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งในระหว่างการตรวจสอบ จะต้องมีการย้ายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกจากพื้นที่ เพื่อไม่ให้กระทบการสอบสวน จึงขอให้ประชาชนมั่นใจกองทัพบก เพราะผู้บัญชาการทหารบก มีเจตนาที่ดี อะไรที่เกินอำนาจของกองทัพบก ก็จะมอบให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ดำเนินการตรวจสอบต่อไป

รองผบ.ทบ.ยัน เปิดสายด่วนไม่ใช่ “ปาหี่”

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้ตนเองเดินสายทำความเข้าใจ ผู้บังคับหน่วย ให้ดูแลทุกข์สุขผู้ใต้บังคับบัญชา อย่าใช้ระบบเจ้าขุนมูลนาย เพราะแม้ว่าทหารจะต้องมีความเด็ดขาด เพื่อบังคับบัญชาการรบ แต่ปัจุบันจำเป็นต้องเพิ่มการเอาใจใส่ทุกข์สุขของผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งกองทัพบก มั่นใจว่า การดำเนินการทั้ง 2 ระบบควบคู่กันไป จะทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชา มีความมั่นใจมากขึ้น โดยยืนยันว่า การปรับเปลี่ยนในครั้งนี้เป็นการปรับตัวตามกระแสสังคม แต่ถ้าหากมีความจำเป็นต้องใช้ระบบบังคับบัญชาในการรบเมื่อสั่งก็ต้องไป ความเด็ดขาดต้องคงอยู่

พร้อมกันนี้ รองผู้บัญชาการทหารบก ระบุว่า การเปิดสายด่วน Call Center ผบ.ทบ.ไม่ใช่ “ปาหี่” ตามที่บางพรรคการเมืองโจมตี เพราะอะไรที่เริ่มต้นตั้งแต่จากเบอร์ 1 ย่อมเป็นเรื่องที่จริงจังทั้งหมด ขณะเดียวกัน ยังได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ความรุนแรงใน 2 -3 เหตุการณ์ที่ผ่านมา Lone wolf หรือ หมาป่าเดียวดาย อยู่ในความรับผิดชอบของ กอ.รมน. จะต้องศึกษา เหตุการณ์กราดยิงที่ จ.นครราชสีมา อย่างจริงจังเพื่อกำหนดบทบาทที่ชัดเจนของแต่ละหน่วยงาน พร้อมทั้งขอความเห็นใจจากสังคมว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีทหารเกี่ยวข้องเพียง 2-3 คน และมีผู้ลงมือเพียงคนเดียว แต่กำลังพลของกองทัพบกกว่า 2 แสนคน กำลังถูกตำหนิไปด้วย ทั้งที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนและจุดต่างๆ ทำหน้าที่ด้วยความเสียสละ
แต่ต้องมาพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งสิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดคือครอบครัวของกำลังพล จึงขอให้ประชาชนเมตตาให้กับคนที่ไม่เกี่ยวข้อง