ประวัติ พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกเพื่อไทย ที่ใครๆก็เรียกว่า "เด็จพี่"
ชื่อของ พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ กลับมาเป็นที่ปรากฏต่อหน้าสื่ออีกครั้ง หลังห่างหายจากวงการการเมืองไป จากการถูกตัดสินจำคุก 1 ปี จากกรณีหมิ่นประมาทประธานศาลรัฐธรรมนูญ แต่ล่าสุด เจ้าของฉายา "เด็จพี่" ได้กลับมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่บ่อยครั้ง วันนี้ Sanook News ขอพาทุกคนไปรู้จักกับเขากัน
ประวัติ พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
ดร.พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ มีชื่อเล่นว่า ตั้ม เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย อดีตโฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อดีตโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และอดีตนักแสดง
พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เกิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2504 ที่ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เป็นบุตรชายของนวบ (บิดา) และประถมาภรณ์ (มารดา) พร้อมพงศ์ มีชื่อเดิมว่า นิดพร ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น นพพร และพร้อมพงศ์ ในช่วงที่เป็นนักแสดง ตามลำดับ
ประวัติการศึกษา
พร้อมพงศ์จบการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนตะกั่วป่า "เสนานุกูล" สำเร็จปริญญาศึกษาศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง, ปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (การสื่อสารการเมือง) รุ่นที่ 2 ของมหาวิทยาลัยเกริก และปริญญาเอก คณะปรัชญา สาขาการบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยปทุมธานี
ชีวิตส่วนตัวเคยใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกับ พรพรรณ เชาวฤทธิ์ มิสทีนไทยแลนด์ ปี 2533 นักแสดงละครจักรๆ วงศ์ๆ โดยมีบุตรสาว 1 คน บุตรชาย 2 คน ปัจจุบันทั้งคู่แยกทางกันมาแล้วหลายปี
ชีวิตนักแสดง
หลังจากจบชั้น มศ.5 พร้อมพงศ์เดินทางเข้าศึกษาต่อในกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งรับจ้างทำงานทุกประเภท จนกระทั่งเพื่อนชวนไปเป็นนายแบบ และมีผลงานถ่ายแบบนิตยสาร เดินแบบแฟชั่นโชว์ ต่อมาจึงเข้ามาอยู่โมเดลลิ่งในสังกัดซี.เอส.พี. ของสรพงศ์ ชาตรี ซึ่งมีสมนึก เอี่ยวเจริญ ผู้จัดการส่วนตัวของสรพงศ์เป็นผู้บริหาร และเริ่มต้นชีวิตการแสดงจากการเป็นตัวประกอบ
จากนั้นจึงมีโอกาสแสดงเป็นพระเอกครั้งแรก ในภาพยนตร์เรื่อง เลดี้ฝรั่งดอง ในปี พ.ศ. 2527 แสดงคู่กับ จารุณี สุขสวัสดิ์ ถ่ายทำที่ประเทศออสเตรีย และเปลี่ยนมาใช้ชื่อในการแสดงว่า "พร้อมพงศ์" จากเดิมในช่วงที่เป็นนายแบบใช้ชื่อว่า นพพร โดยคำว่า "พร้อม" มาจากชื่อของพันคำ หรือ พร้อมสิน สีบุญเรือง ผู้เป็นเจ้าของค่ายสีบุญเรืองฟิล์มที่พร้อมพงศ์สังกัด และเป็นผู้ปลุกปั้น คำว่า "พงศ์" มาจากชื่อของ สรพงศ์ ชาตรี โดยเป็นการนำชื่อของผู้ปลุกปั้นสองคนมารวมกัน
ต่อมาจึงมีผลงานการเป็นพระเอกภาพยนตร์ไทยตามมาอีกหลายเรื่อง ภายใต้สังกัดและการผลักดันของสีบุญเรืองฟิล์ม ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดคือการเป็นพระเอกคู่ขวัญกับจารุณี สุขสวัสดิ์ ซึ่งเป็นนางเอกร่วมสังกัด โดยทางสีบุญเรืองจะอาศัยกระแสความนิยมในตัวจารุณีเป็นแรงส่งพร้อมพงศ์อีกทางหนึ่ง ภาพยนตร์ที่พร้อมพงศ์เป็นพระเอกมักจะมีการขึ้นชื่อ จารุณี สุขสวัสดิ์ นางเอกไว้ก่อน ทั้งคู่มีผลงานแสดงภาพยนตร์คู่กันเกือบ 20 เรื่อง เช่น เลดี้ฝรั่งดอง, เขยบ้านนอก, แม่ดอกรักเร่ เป็นต้น
พร้อมพงศ์ถือเป็นพระเอกคู่ขวัญของจารุณี เช่นเดียวกับทูน หิรัญทรัพย์, สรพงศ์ ชาตรี นอกจากนี้ยังเป็นนายแบบและพระเอกที่จัดว่ารูปร่างสูงมากในยุคนั้น ด้วยส่วนสูง 180 เซนติเมตร
จากนั้นจึงหันมาแสดงละครโทรทัศน์ และรับผลิตมิวสิกวิดีโอคาราโอเกะ พร้อมทั้งร่วมแสดง บทบาทการแสดงซึ่งเป็นที่รู้จักดีที่สุดคือ ละครโทรทัศน์ประเภทจักร ๆ วงศ์ ๆ จนกระทั่งได้รับรางวัลเมขลา ผู้แสดงนำชายละครสนับสนุนนิยายพื้นบ้านดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2534 จากเรื่อง ดิน น้ำ ลม ไฟ หรือ สี่ยอดกุมาร อันเป็นที่มาของฉายา ที่เทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัว อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เรียกว่า "เสด็จพี่" ซึ่งพร้อมพงศ์ตอบโต้ว่า จะเรียกเสด็จพี่ก็ได้ แต่อย่าเรียกเสด็จพ่อ
เส้นทางการเมือง
พร้อมพงศ์ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี พ.ศ. 2550 ที่จังหวัดพังงา เขต 1 ในนามพรรคพลังประชาชน แต่ไม่ได้รับเลือก ต่อมา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โฆษกกระทรวงวัฒนธรรม ที่ปรึกษากรรมาธิการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประธานคณะทำงานประชาสัมพันธ์กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และที่ปรึกษาประจำคณะอนุกรรมาธิการ กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ตามลำดับ ปัจจุบัน นายพร้อมพงศ์ดำรงตำแหน่ง โฆษกพรรคเพื่อไทย
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38
ต่อมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ศาลฎีกาพิพากษาให้เขาต้องโทษจำคุก 1 ปี จากกรณีหมิ่นประมาทนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ โดยไม่รอลงอาญา และเขาได้รับการพักโทษ ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ตามหลักเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ รวมระยะเวลาที่ต้องโทษในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เป็นเวลา 9 เดือน 16 วัน
หลังเงียบไปหลายปี 7 สิงหาคม พ.ศ. 2566 พร้อมพงศ์กลับมาออกสื่อเต็มตัวอีกครั้ง จากการตั้งโต๊ะแถลงโต้กลับข้อกล่าวหาของชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่มีต่อเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกพรรคเพื่อไทย
อัลบั้มภาพ 15 ภาพ