กกต.พร้อมลงมติชี้ชะตา28 ส.ส.ปชป. ยกเว้น สดศรี ตีกลับอ้างไปจัดหมวดหมู่ใหม่ต้องเลื่อนอีก

กกต.พร้อมลงมติชี้ชะตา28 ส.ส.ปชป. ยกเว้น สดศรี ตีกลับอ้างไปจัดหมวดหมู่ใหม่ต้องเลื่อนอีก

กกต.พร้อมลงมติชี้ชะตา28 ส.ส.ปชป. ยกเว้น สดศรี ตีกลับอ้างไปจัดหมวดหมู่ใหม่ต้องเลื่อนอีก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เผย"สดศรี"สงสัยให้คณะอนุกรรมการไปจัดหมวดหมู่รายงานให้ใหม่ เพื่อความสบายใจ กกต.ที่เหลือต้องเลื่อนชี้ชะตา28 ส.ส.ปชป. "สุทธิพล"ชี้หุ้นกู้ไม่เข้าข่ายกระทำต้องห้าม

กกต.เลื่อนชี้ชะตา28 ส.ส.ปชป.

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้เลื่อนการวินิจฉัยการถือหุ้นของ 28 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่อาจต้องพ้นสมาชิกภาพ เนื่องจากเป็นหุ้นสื่อและสัมปทานรัฐ ที่เข้าลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 48 ประกอบมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญ ไปเป็นวันที่ 16 กรกฎาคม โดยนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.แถลงผลการประชุม กกต. เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ว่า กกต.ได้พิจารณากรณีนายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และอดีตรองโฆษกพรรคพลังประชาชน ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบการถือหุ้นของ ส.ส. 28 ราย และ กกต.มีมติให้เลื่อนการลงมติไปเป็นวันที่ 16 กรกฎาคม โดยให้ฝ่ายเลขาฯอนุกรรมการ ไปจัดหมวดหมู่บริษัท โดยยึดหลักที่ กกต.มีมติการพิจารณา ส.ว.ไปแล้ว ว่าบริษัทใดบ้างเป็นบริษัทสัมปทานรัฐ และถือลักษณะของหุ้นประเภทใดให้ชัดเจน

"การไม่ได้จัดหมวดหมู่ให้มีความชัดเจน ทำให้ กกต.เกรงว่า หากลงมติไปอาจจะไม่สอดคล้องกับที่เคยได้ลงมติครั้ง ส.ว.เอาไว้ และจะทำให้กลายเป็นสองมาตรฐาน จึงสั่งให้ฝ่ายเลขาฯกรรมการไต่สวน ไปจัดหมวดหมู่ ของบริษัทที่เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม ส.ส.เข้าไปมีหุ้น และจัดหมวดหมู่ว่า ส.ส.กลุ่มใดถือหุ้นต้องห้ามหรือไม่ แล้วให้นำกลับมารายงานให้ที่ประชุมทราบในวันที่ 16 กรกฎาคม" นายสุทธิพลกล่าว

หุ้นกู้ไม่เข้าข่ายกระทำต้องห้าม

ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก ส.ส.ถือหุ้นกู้ถือว่าไม่มีความผิดใช่หรือไม่ นายสุทธิพลกล่าวว่า ในชั้นของคณะกรรมการไต่สวน 16 ส.ว. ระบุไว้ว่าหุ้นกู้เป็นตราสารที่บริษัทต่างๆ เสนอขายให้กับผู้ลงทุนเพื่อกู้ยืมเงิน ไม่อยู่ในความหมายของรัฐธรรมนูญมาตรา 48 และมาตรา 265 ดังนั้น เมื่อ กกต.ระบุว่าจะยึดถือคำวินิจฉัยกรณี 16 ส.ว. ในการลงมติในส่วนของ ส.ส. จึงเท่ากับว่า หากผู้ใดถือหุ้นกู้ก็ไม่ถือว่ากระทำการต้องห้าม

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมครั้งนี้ กกต.เกือบทุกคนเห็นว่า รายงานที่คณะอนุกรรมการสรุปเสนอมามีความครบถ้วนชัดเจนและสามารถลงมติได้เลย ทั้งการพิจารณาว่าหุ้นใดต้องห้าม หรือใครถือหุ้นต้องห้ามบ้าง แต่นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง ได้ตั้งข้อสงสัย และต้องการให้คณะอนุกรรมการไปจัดหมวดหมู่ให้ละเอียดกว่านี้ ดังนั้น เพื่อความสบายใจ กกต.ที่เหลือจึงอนุมัติให้เลื่อนการพิจารณาออกไป สำหรับคำวินิจฉัย 16 ส.ว.นั้น ในขณะนี้ ประธาน กกต. และ กกต.ทุกคนได้ลงนามเรียบร้อยและคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะส่งถึงประธานวุฒิสภาได้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook