หนุ่ม อบต. ขอโทษตบหน้าเด็กชาย 6 ขวบ อ้างบันดาลโทสะเตือนไม่ฟัง-แลบลิ้นใส่

หนุ่ม อบต. ขอโทษตบหน้าเด็กชาย 6 ขวบ อ้างบันดาลโทสะเตือนไม่ฟัง-แลบลิ้นใส่

หนุ่ม อบต. ขอโทษตบหน้าเด็กชาย 6 ขวบ อ้างบันดาลโทสะเตือนไม่ฟัง-แลบลิ้นใส่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่มีเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์รูปเด็กชายคนหนึ่งที่แก้มมีรอยแดงเป็นรอยนิ้วมือจนแก้มบวม แล้วมีข้อความว่า “ลูกใครใครก็รัก แค่รถบังคับพัง ต้องทำกันขนาดนี้เลยหรอ #โตแล้วทำเด็กเกินไปไหม” และได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า “พอดีน้องปั่นจักรยานเล่น พอดีถอยจักรยานไปเยียบรถบังคับของลูกสาวเขา พ่อเขาเลยตบเข้าค่ะ” 

>> อบต.ตบหน้าเด็กชาย 6 ขวบ จนร่วงจากจักรยาน ฉุนทำรถบังคับของลูกสาวพัง

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถาม นายแดง อายุ 52 ปี  ผู้เป็นพ่อของ ด.ช.เอ เล่าว่า “คนโพสต์ข้อความคือลูกสาวของตนซึ่งเป็นพี่ของ ด.ช.เอ (นามสมมติ) ในวันดังกล่าวที่ลูกโดนตบลูกร้องไห้กลับมาที่บ้าน ตนสอบถามครั้งแรกลูกไม่กล้าบอกว่าโดนตบ บอกว่ารถจักรยานล้ม แต่ก็มีคนมาบอกว่าลูกตนโดน นายนิรันดร์ อายุ 36 ปี ทำงานอยู่ที่องค์การบริหารส่วนตำบลจักรสีห์ ตบจนร่วงจากรถจักรยาน ตนโมโห ลูกใครๆ ก็รัก ทำไมทำรุนแรงขนาดนี้เพราะเป็นเด็กอายุแค่ 6 ขวบเอง จะตีก้นตีอะไรก็จะไม่เป็นอะไรเลย นี่ตบหัว ตบหน้าอย่างแรงจนแก้มบวม ตนจึงพาลูกไปโรงพยาบาล

แต่ด้วยความที่เป็นว่าเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันไม่อยากมีเรื่องอะไรต่อ ก็เลยบอกว่าขอค่ารักษาพยาบาลไปเพียง 1,000 บาท ด้วยความตั้งใจว่าจะเอาเงินหนึ่งพันนี้ไปซื้อรถบังคับใช้คืนจะได้จบๆ กันไป แต่ทาง นายนิรันดร์ ให้เพียงมา 500 บาท เท่านั้น ตนจึงไม่ขอรับและรอทาง นายนิรันดร์ มาหาเพื่อมาคุยกัน แต่ก็ไร้วี่แวว ตนจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสิงห์บุรี อีกอย่างคือ นางภุมรินทร์ รอดทรัพย์ ซึ่งเป็นภรรยาของ นายนิรันดร์ มีตำแหน่งเป็นสารวัตรกำนัน ได้มาแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กของลูกสาว ในข้อความที่บอกว่า “ถ้าใครรู้จักเด็กคนนี้หรือครอบครัวนี้ก็จะรู้ว่าเป็นไง” ตนมีความรู้สึกว่าเหมือนเป็นการดูถูกครอบครัวของตน จึงต้องการดำเนินคดีเพื่อต้องการให้ นายนิรันดร์ และภรรยา มาคุยกัน ขอโทษกัน ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งหนึ่ง

ล่าสุด (6 ม.ค.63) เวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อคู่กรณี คือ นายนิรันดร์  ได้เล่าว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 27 ธันวาคม 2562 เวลา 17.30 น. ตนเข้าเวรทำงานจึงเอาลูกสาวไปอยู่ที่ทำงานด้วย แล้วตนเพิ่งซื้อรถบังคับให้ลูกเป็นของขวัญปีใหม่ เพิ่งซื้อให้ไม่เกินครึ่งชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวตนก็เล่นอยู่ที่ลานปูนหน้า อบต. ก็มีกลุ่มเด็กๆ ที่อยู่แถวนี้ซึ่งรู้จักและคุ้นเคยกันดีได้มาขี่จักรยานเล่นอยู่โดยมี ด.ช.เอ อยู่ด้วย พอเห็นลูกสาวตนเล่นรถบังคับ ก็มาขี่รถจักรยานไล่ตามรถบังคับ เราก็ต่อว่าไปครั้งหนึ่งว่าอย่าเล่นแบบนี้ เดี๋ยวมาชนรถพัง เลยบอกให้ลูกสาวของตนมาเล่นใกล้ๆ ตนก็นั่งเก้าอี้ดูอยู่ เด็กๆ ก็ยังขี่รถจักรยานมาไล่รถบังคับอีก

บังเอิญรถบังคับหยุด แต่รถจักรยานที่ ด.ช.เอ ขี่หยุดไม่ทันล้อรถก็เลยทับรถบังคับจนพัง ตนก็รู้สึกโมโหเพราะเพิ่งซื้อให้ลูกสาวไม่ถึงครึ่งชั่วโมงและเตือนเด็กๆ ไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่เชื่อเลยไปตบหัวทีหนึ่งแต่ ด.ช.เอ หลบทันเลยโดนศีรษะแบบเฉี่ยวๆ แล้ว ด.ช.เอ ก็หันมาบอกว่า “หนีดีกว่า” แล้วก็หันมาแลบลิ้นใส่ตน ตนจึงบันดาลโทสะตบเข้าไปที่หน้าหนึ่งที แล้ว ด.ช.เอ ก็ลงจากรถจักรยานมานั่งร้องไห้ ตนก็เลยไปดูว่าเจ็บตรงไหน โดนตาหรือเปล่า ตอนนั้นก็รู้สึกผิด จนพ่อของ ด.ช.เอ คือ นายแดง มาหาที่บ้านตนก็ขอโทษ และ นายแดง ก็ขอค่ารักษาพยาบาล 1,000 บาท แต่ตอนนั้นตนมีเงินติดตัวอยู่ไม่ถึงหนึ่งพัน ก็เลยให้ นายแดง ไป 500 บาท แต่ นายแดงไม่ขอรับและบอกว่าจะไปแจ้งความ ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ ตนก็สำนึกผิดในความขาดสติของตนและอยากขอโทษสังคมและสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องราวแบบนี้อีก

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook