อบต.ตบหน้าเด็กชาย 6 ขวบ จนร่วงจากจักรยาน ฉุนทำรถบังคับของลูกสาวพัง

อบต.หนุ่มตบหน้าเด็กชาย 6 ขวบ จนร่วงรถจักรยาน โมโหทำรถบังคับลูกตัวเองพัง พี่สาวโพสต์ถามแรงเกินไปไหม ขณะที่พ่อเผยแจ้งความแล้วและอยากให้มาคุยกัน

จากกรณีที่มีเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์รูปเด็กชายคนหนึ่งที่แก้มมีรอยแดงเป็นรอยนิ้วมือจนแก้มบวม แล้วมีข้อความว่า “ลูกใครใครก็รัก แค่รถบังคับพัง ต้องทำกันขนาดนี้เลยหรอ #โตแล้วทำเด็กเกินไปไหม” และได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า “พอดีน้องปั่นจักรยานเล่น พอดีถอยจักรยานไปเยียบรถบังคับของลูกสาวเขา พ่อเขาเลยตบเข้าค่ะ” 

ต่อมาก็ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายแสดงตนว่าเป็นภรรยาของผู้ชายที่ตบหน้าเด็กชายในรูป มาแสดงความคิดเห็นว่า “ถ้าไม่มีใครโทรก็จะตอบให้นะคะ  คือว่าลูกสาวอยากได้รถบังคับ พ่อก็เลยซื้อให้เป็นของขวัญปีใหม่ให้ทั้งๆ ที่ลูกไม่เคยเรียกร้องขอของเล่นเลยเพิ่งขอเป็นชิ้นแรก พอซื้อมาลูกสาวก็เอามาเล่น

แต่มีเด็กกลุ่มหนึ่งขี่จักรยานเพื่อที่จะไล่ทับรถบังคับที่ลูกสาวเล่นอยู่ พ่อมันเห็นเลยให้มาเล่นให้ห่างจากที่รถจักรยาน พอถอยห่างมาแล้วก็ยังตามมาปั่นไล่เหยียบอีก จนพลาดปั่นไปเหยียบเข้าจริงๆ พ่อเด็กก็เลยดุเด็กคนนั้น แต่แทนที่จะสลดหรือหนีไปเล่นที่อื่นกลับแลบลิ้นปลิ้นตาใส่พ่อเด็กในทำนองว่า ข้าไม่กลัวแกหรอกประมาณนี้

พ่อของเด็กก็เลยบันดาลโทสะลงไปแต่ก็ไปตกลงกันที่บ้านของเด็กที่โดนตบแล้วคุยกันเขาเรียกค่าเสียหายเราตกลงให้ แต่เราก็ขอต่อรอง เขาไม่ยอมจะไปแจ้งความ ถ้าใครรู้จักเด็กคนนี้หรือครอบครัวนี้ก็จะรู้ว่าเป็นไง”

ล่าสุด (6 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อโทรศัพท์สอบถามไปยัง นางสาวมัณฑนา อายุ 22 ปี ผู้โพสต์เรื่องดังกล่าว เล่าว่า ตนเป็นพี่สาวของเด็กชายที่โดนตบ น้องของตนชื่อ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 6 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3

โดยเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2562 เวลาประมาณ 17.30 น. ที่ผ่านมา ด.ช.เอ (นามสมมติ) น้องของตนก็ได้ไปขี่จักรยานเล่นกับเพื่อนๆ ที่สวนสาธารณะของ อบต.จักรสีห์ และมี ด.ญ.บี (นามสมมติ) เล่นรถบังคับอยู่ใกล้ๆ และน้องของตนขี่จักรยานถอยหลังมาทับรถวิทยุบังคับของ ด.ญ.บี จนพัง

ด.ญ.บี ได้ไปฟ้องพ่อ คือ นายนิรันดร์ อายุ 36 ปี ทำงานอยู่ที่องค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่ง เมื่อนายนิรันดร์มาถึงก็ตบ ด.ช.เอ เข้าที่ศีรษะ 1 ครั้ง และที่แก้ม 1 ครั้ง อย่างแรงจนร่วงจากรถจักรยานดังกล่าว บริเวณแก้มมีรอยนิ้วมือจนแก้มบวมไปข้าง

ด้าน นายแดง อายุ 52 ปี ผู้เป็นพ่อของ ด.ช.เอ เล่าว่า ในวันดังกล่าวที่ลูกโดนตบลูกร้องไห้กลับมาที่บ้าน ตนสอบถามครั้งแรกลูกไม่กล้าบอกว่าโดนตบ บอกว่ารถจักรยานล้ม แต่ก็มีคนมาบอกว่าลูกตนโดนนายนิรันดร์ตบจนร่วงจากจักรยานเลย

ตนโมโหมาก ลูกใคร ใครก็รัก ทำไมทำรุนแรงขนาดนี้ เพราะมันเป็นเด็กอายุแค่ 6 ขวบเอง จะตีก้นตีอะไรก็จะไม่เป็นอะไรเลย นี่ตบหัว ตบหน้าอย่างแรงจนแก้มบวมโย้เลย ตนจึงพาลูกไปโรงพยาบาล แต่ด้วยความที่เป็นว่าเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันไม่อยากมีเรื่องอะไรต่อ

ก็เลยบอกว่าขอค่ารักษาพยาบาลไปเพียง 1,000 บาท ด้วยความตั้งใจว่าจะเอาเงินนี้ไปซื้อรถบังคับวิทยุใช้คืนจะได้จบๆ กันไป แต่ทางนายนิรันดร์ให้เพียงมา 500 บาท เท่านั้น ตนจึงไม่ขอรับ และรอทางนายนิรันดร์มาหาเพื่อมาคุยกัน แต่ก็ไร้วี่แวว ตนจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองสิงห์บุรี

อีกอย่างคือ นางภุมรินทร์ ภรรยาของนายนิรันดร์ มีตำแหน่งเป็นสารวัตรกำนัน ได้มาแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กของลูกสาว ในข้อความที่บอกว่า “ถ้าใครรู้จักเด็กคนนี้หรือครอบครัวนี้ก็จะรู้ว่าเป็นไง” ตนมีความรู้สึกว่าเหมือนเป็นการดูถูกครอบครัวของตน จึงต้องการดำเนินคดีเพื่อต้องการให้นายนิรันดร์และภรรยามาคุยกัน ขอโทษกัน ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งหนึ่ง

ขณะที่ ด.ช.เอ และเพื่อนๆ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ตนและเพื่อนๆ ไปขี่รถจักรยานเล่นที่สวนสาธารณะของ อบต.จักรสีห์ และขี่รถไล่กันเล่นตำรวจจับขโมย และตอนนั้นมี ด.ญ.บี ซึ่งเป็นลูกสาว นายนิรันดร์ เล่นรถบังคับอยู่ในบริเวณนั้น และเห็นรถบังคับวิ่งมาชนท้ายล้อรถของ ด.ช.เอ แต่ ด.ช.เอ ไม่เห็นและได้ถอยรถมาจนทับรถบังคับพัง และ ด.ญ.บี วิ่งกลับบ้าน สักพัก นายนิรันดร์ ก็เดินมาตบหัว ด.ช.เอ และตบหน้า ด.ช.เอ จนร่วงรถจักรยานแล้ว ด.ช.เอ ก็ร้องไห้กลับบ้านไป