นศ.ผูกคอดับปริศนา

นศ.ผูกคอดับปริศนา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ตายคาบ้านสามี แม่ไม่เชื่อฆ่าตัว ขอตร.พิสูจน์ซ้ำ

น.ศ.สาวนครศรีฯ ตายปริศนาคล้ายผูกคอตายกับขื่อในโรงโต๊ะสนุ้กเกอร์บ้านสามี ขณะที่สามีหายไปเที่ยวกับเพื่อนทั้งคืน ส่วนพ่อสามีปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น เพราะออกไปกรีดยางกลับมาก็พบเป็นศพแล้ว แต่แม่น.ศ.สาวกลับไม่เชื่อขอตร.อายัดศพพิสูจน์ เพราะพบพิรุธหลายอย่าง เช่น ผูกคอตายแต่ลิ้นกลับไม่จุกปาก ฯลฯ และไม่เชื่อพ่อแฟนลูกสาว เพราะฝนตกหนักมาหลายวัน ไม่มีใครออกไปกรีดยาง

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 12 ก.ค. พ.ต.ต.วีระชาญ ขุนชัยแก้ว สารวัตรเวร สภ.ทุ่งสง จ.นครศรี ธรรมราช รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายที่โรงสนุ้กเกอร์หลังบ้านเลขที่ 390 หมู่ 1 ต.เขาขาว อ.ทุ่งสง จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์เวร และมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์

เมื่อไปถึงที่โรงสนุ้กเกอร์พบศพน.ส.นาตยา บุญล้ำ อายุ 20 ปี เดิมอยู่บ้านเลขที่ 19/2 หมู่ 1 ต.บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.ทุ่งสง ใช้เชือกไนลอนผูกคอกับขื่อโรงโต๊ะสนุ้กเกอร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 ชั่วโมง สภาพลำคอช้ำ กระดูกคอหลุด แต่ลิ้นไม่จุกปากเหมือนคนผูกคอตายทั่วไป จากนั้นจึงร่วมกันชัน สูตรศพร่วมกับแพทย์อย่างละเอียดต่อไป

ทั้งนี้ จากการสอบปากคำนายจาบ แซ่เลี้ยว อายุ 46 ปี อาชีพทำสวนยางพารา พ่อของนายเอกชัย แซ่เลี้ยว อายุ 26 ปี สามีของน.ส.นาตยา ทราบว่า น.ส.นาตยาแต่งงานกับนายเอกชัย มาประมาณ 4-5 เดือน และมาพักอาศัยอยู่กับตน ก่อนเกิดเหตุนายเอกชัยออกไปเที่ยวกับเพื่อนตั้งแต่หัวค่ำที่ผ่านมา แล้วไม่ยอมกลับบ้านพัก ก่อนเกิดเหตุตนออกไปกรีดยางพาราตอนกลางดึก เวลาประมาณ 02.00 น.วันเดียวกัน กระทั่งกลับมาบ้านช่วงเช้าพบว่าน.ส.นาตยาผูกคอตายที่โรงสนุ้กเกอร์แล้ว จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ส่วนสาเหตุคาดว่าน.ส.นาตยาลูกสะใภ้น้อยใจนายเอกชัยที่ออกไปเที่ยวทั้งคืนโดยไม่ยอมกลับบ้าน ปล่อยให้อยู่ตามลำพังจึงผูกคอตายเพื่อเป็นการประชด

อย่างไรก็ตามนางเสาวนีย์ บุญล้ำ อายุ 45 ปี แม่ของน.ส.นาตยา ซึ่งเดินทางมาดูศพลูกสาว เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันเดียวกัน และสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติหลายอย่าง รวมทั้งได้ดูภาพถ่ายศพขณะเสียชีวิต จึงมั่นใจว่าลูกไม่ได้ฆ่าตัวตายแน่ จึงแจ้งให้ตำรวจพิสูจนศพอย่างละเอียดอีกครั้ง

นางเสาวนีย์กล่าวว่า ตนเห็นความผิดปกติมาตั้งแต่ลูกยังไม่เสียชีวิต และไม่เชื่อว่าลูกสาวผูกคอตาย แต่เป็นการฆาตกรรม เพราะจากการสังเกตเชือกที่ใช้ผูกสั้นมาก และผูกคอไม่เหมือนกับศพทั่วไปที่ผูกคอตาย ที่สำคัญคนผูกคอตายลิ้นต้องจุกปาก แต่น.ส.นาตยาลิ้นอยู่ปกติ เชื่อว่าคนที่ มาให้การว่าลูกของตนผูกคอตายนั้นให้การเท็จ นอกจากนี้เมื่อคืนวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ อ.ทุ่งสง มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ชาวสวนยางออกไปกรีดยางไม่ได้

ก่อนหน้านี้ลูกมาบอกว่าไม่อยากจะอยู่กับสามีแล้ว เพราะสามีทำธุรกิจผิดกฎหมาย กลัวว่าถ้าถูกตำรวจจับกุมแล้วลูกสาวจะถูกจับกุมด้วย จึงอยากกลับมาอยู่บ้าน และยังพบสมุดบัญชีเงินฝากของลูกเป็นสมุดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง มีเงินหมุนเวียนเดือนละ 4-5 หมื่นบาท จึงเป็นไปไม่ได้ว่าทำอาชีพกรีดยางพาราจะมีเงินหมุนเวียนถึงขนาดนี้ นางเสาวนีย์กล่าว และว่า ตนสงสัยว่าหลังจากลูกสาวโทรศัพท์มาบอกว่าอยากจะกลับมาอยู่ที่บ้าน อาจจะทำให้ฝ่ายสามีทราบ และไม่พอใจ จึงมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง ก่อนจะมีการฆาตกรรมเพื่อปิดปาก ตนจึงมาร้องเรียนตำรวจให้นำศพน.ส.นาตยาลูกสาวไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง เผื่อว่าจะได้หลักฐานสำคัญมาประกอบคดี เพราะทั้งตนและญาติไม่เชื่อว่าน.ส.นาตยาผูกคอตายเองแน่นอน

ด้านพ.ต.ต.วีระชาญ ขุนชัยแก้ว สารวัตรเวร สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของคดีได้บันทึกปากคำนางเสาวนีย์และเดินทางไปอายัดศพที่บ้านของนายเอกชัย ก่อนจะนำไปเก็บไว้ที่ร.พ. ทุ่งสงเพื่อส่งพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) ในวันที่ 13 ก.ค. ซึ่งหากพบว่าเป็นการฆาตกรรมก็จะสอบสวนจับกุมคนร้ายต่อไป

ด้านนายจิรยุทธ พุทธศรี รองนายก อบต. บางจาก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ญาติสนิทของน.ส.นาตยากล่าวว่า ไม่มีใครเชื่อว่าน.ส.นาตยาผูกคอตาย เพราะนิสัยใจคอของน.ส.นาตยาเป็นคนร่าเริง ฐานะทางบ้านก็ถือว่าอยู่ในขั้นดี ตนและญาติจะดำเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดเพราะ น.ส.นาตยาเป็นญาติสนิทกับตน เราจะไม่ยอมให้เด็กต้องเสียชีวิตเปล่าๆ และเชื่อว่าเป็นการฆาต กรรมแล้วนำศพไปแขวนคอเพื่ออำพรางให้ตำรวจหลงประเด็น จึงขอร้องเรียนตำรวจให้สอบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อเอาคนที่ใจคอเหี้ยมโหดมารับโทษต่อไป

(กรอบบ่าย)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook