นักธุรกิจหนุ่มถูกจับ "ฉี่ม่วง" บังคับเซ็นสารภาพ โรงพยาบาลตรวจซ้ำไม่พบสารเสพติด

นักธุรกิจหนุ่มถูกจับ "ฉี่ม่วง" บังคับเซ็นสารภาพ โรงพยาบาลตรวจซ้ำไม่พบสารเสพติด

นักธุรกิจหนุ่มถูกจับ "ฉี่ม่วง" บังคับเซ็นสารภาพ โรงพยาบาลตรวจซ้ำไม่พบสารเสพติด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(30 ต.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชัย อายุ 38 ปี นักธุรกิจขายส่งกล้วยหอม ,อาจารย์สอนพิเศษให้กับมหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา และยังเป็นผู้รับเหมาไฟฟ้า พร้อมกับว่าที่ร้อยตรี ชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความ นำหลักฐานผลตรวจเลือดจาก รพ.รามาธิบดี ให้ผู้สื่อข่าวดู เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ว่าในร่างกายไม่มีสารเสพติดใดๆ เพื่อสะท้อนถึงกรณีการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ตั้งด่านแล้วเรียกตรวจปัสสาวะ ปรากฎว่าผลออกมาเป็นสีม่วงทั้งที่ไม่ได้เสพยาเสพติดแต่อย่างใด และจากการส่งปัสสาวะตรวจอย่างละเอียดที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) ผลออกมาก็ไม่มีสารเสพติด วอนขอความเป็นธรรม และตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม และเตรียมฟ้องกลับ

โดยนายสมชัย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน ผต 2565 สงขลา กลับจากส่งกล้วยหอมให้กับลูกค้า ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และขณะขับรถเพื่อจะเดินทางกลับจังหวัดพัทลุง เมื่อมาถึงจุดตรวจบริเวณถนนเลี่ยงเมือง ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านจุดตรวจ และเมื่อขับเข้าด่านเจ้าหน้าที่ได้ให้ตนเองลงไปตรวจปัสสาวะ ก็ได้ให้ความร่วมมือได้นำปัสสาวะใส่แก้ว และเมื่อนำไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ ได้ให้ไปนั่งรอและนำปัสสาวะไปตรวจโดยที่ตนเองไม่เห็นขั้นตอนการตรวจ

ขณะที่ตัวเองกำลังเดินไปนั่ง และเจ้าหน้าที่ได้เดินถือแก้วปัสสาวะไปพร้อมตะโกนบอกว่า ”คืนนี้ไม่ได้กลับบ้านแน่ ต้องนอนโรงพัก” จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มาควบคุมตัวไปพร้อมกับผู้ที่ถูกควบคุมตัวอีก 2 คน ไปที่ป้อมเพื่อทำบันทึกจับกุม แต่ผู้ที่ควบคุมตัวอีก 2 คนที่มาด้วยนั่งด้านนอก ส่วนตนเองเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวอยู่ภายในป้อม และเจ้าหน้าที่ได้นำบันทึกจับกุมมาให้ตนเองเซ็นรับสารภาพ แต่ตนเองไม่ยอมเซ็น แต่ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้บอกว่า ”ให้เซ็นไปก่อน เดี๋ยวเรื่องไม่จบ” จึงได้จำใจเซ็นเพราะความกลัวและเป็นห่วงความปลอดภัยตัวเอง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปตรวจหาสารเสพติดที่ รพ.สุราษฎร์ธานี ผลตรวจออกมาก็พบว่า มีสารเสพติดมากกว่า 1 พันนาโนกรัม ต่อ มิลลิกรัม ตนเองจึงได้ขอตรวจใหม่อีกครั้งที่โรงพยาบาล แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยินยอม ก่อนควบคุมตัวเข้าห้องขัง สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี จึงได้ประสานญาติให้มาช่วยประกันตัว ในวงเงินประกันตัว 5 หมื่นบาท หลังได้ประกันตัว พ.ต.ท.มนต์ชัย แมนเมือง สารวัตร(สอบสวน)ได้ทำการสอบปากคำ แต่ตนเองได้ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา

เจ้าหน้าที่ถามว่าไม่เชื่อผลทางวิทยาศาสตร์เหรอ ตนก็ตอบว่าเชื่อ แต่ไม่เชื่อว่าเป็นฉี่ของตน และได้ขอให้พนักงานสอบสวนตรวจปัสสาวะใหม่อีกครั้ง พนักงานสอบสวนจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมมาร่วมตรวจปัสสาวะใหม่ ต่อหน้าอีกครั้ง ปรากฎผลเบื้องต้น ไม่เจอสารเสพติดแต่อย่างใด จึงเกิดความขัดแย้งกับผลของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม และได้นำปัสสาวะที่ตรวจใหม่ส่งตรวจ ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) อย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนให้เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งกว่าจะได้กลับออกจาก สภ.เมือง ใช้ระยะเวลาตั้งแต่ด่านตรวจจนออกจาก สภ.เมือง นานกว่า 5 ชั่วโมง เมื่อกลับถึงบ้านได้ตรวจเลือดของตัวเองอีกครั้ง ในวันที่ 8 ต.ค.62 ที่ห้องแล็บเทคนิคการแพทย์พัทลุง และส่งตรวจอย่างละเอียดที่ รพ.รามาธิบดี ในวันที่ 9 ต.ค. เพื่อยืนยันว่าไม่ได้เสพยาเสพติด

ซึ่งในวันนี้ผลออกมาก็ไม่พบยาเสพติดในเลือดแต่อย่างใด และในวันนี้ได้เดินทางไปยังสภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อเข้าพบ พ.ต.ท.มนต์ชัย แมนเมือง สารวัตร(สอบสวน) เจ้าของคดีเพื่อขอทราบผลตรวจปัสสาวะที่ได้ส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) ปรากฎว่าผลรับรองการตรวจ ก็ไม่พบว่ามีสารเสพติด 

ทั้งนี้ตนเองยืนยันว่าไม่เคยเสพยาเสพติด และจะดำเนินการฟ้องร้องเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง เพราะตนเองทำธุรกิจหลายอย่างแต่กลับต้องมาถูกกลั่นแกล้งจากทางเจ้าหน้าที่ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

ทางด้าน พลตำรวจตรีฐากูร เนตรพุกกณะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับทราบเรื่องเบื้องต้นแล้ว พร้อมสั่งการ ให้ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีรายงานเรื่องดังกล่าวมายังตนเอง และสั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวแล้ว 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook