"โรโกโก" มรดกทางวัฒนธรรม หลอมรวมศาสตร์เชิงศิลป์ยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 15

"โรโกโก" มรดกทางวัฒนธรรม หลอมรวมศาสตร์เชิงศิลป์ยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 15

"โรโกโก" มรดกทางวัฒนธรรม หลอมรวมศาสตร์เชิงศิลป์ยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 15
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประติมากรรม คือ งานปั้น แกะสลัก หล่อลงบนไม้ หิน โลหะ เพื่อให้เกิดรูปทรง 3 มิติขึ้น เพื่อสื่อถึงสิ่งต่างๆ สภาพสังคม วัฒนธรรม รวมถึงจิตใจของมนุษย์ ประติมากรรมเป็นแขนงหนึ่งของทัศนศิลป์ แบ่งเป็น 3 ประเภทคือ

1) ประติมากรรมนูนสูง คือ ประติมากรรมที่ไม่ลอยตัว มีพื้นหลัง ตัวประติมากรรมจะยื่นออกมาจากพื้นหลังค่อนข้างสูง ประติมากรรมที่เป็นลวดลายประดับตกแต่งด้วย เช่น ประติมากรรมปูนปั้นประดับกระจกหน้าบ้าน พระอุโบสถและวิหารต่างๆ ตลอดจนถึงการประดับตกแต่งสถาปัตยกรรมในปัจจุบัน เช่น ประติมากรรมที่ปั้นเป็นเรื่องราวหรือเป็นลวดลายประดับตกแต่งอาคาร ตกแต่งฐานอนุสาวรีย์ ตกแต่งสะพาน และสิ่งก่อสร้างต่างๆ เป็นต้น

2) ประติมากรรมนูนต่ำ คือ ประติมากรรมที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับประติมากรรมประเภทนูนสูง แต่จะแบนหรือบางกว่า ประติมากรรมประเภทนี้ไม่ปรากฏมากนักในอดีต ซึ่งมักจะได้แก่ ประติมากรรมที่เป็นลวดลายประดับตกแต่ง เช่น แกะสลักด้วยไม้ หิน ปูนปั้น เป็นต้น

3) ประติมากรรมลอยตัว ได้แก่ ประติมากรรมที่ปั้น หล่อ หรือแกะสลักขึ้นเป็นรูปร่างลอยตัวมองได้รอบด้าน ไม่มีพื้นหลัง เช่น รูปประติมากรรมที่เป็นอนุสาวรีย์ประติมากรรมรูปเหมือน และพระพุทธรูปลอยตัวสมัยต่างๆ ตลอดไปจนถึงประติมากรรมสำหรับประดับตกแต่ง เป็นต้น

แต่ในบทความนี้จะเน้นเฉพาะประติมากรรมลอยตัวคือ งานแกะสลักจากหินอ่อนของยุคสมัยโรโกโกเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นพิเศษ

คำว่าโรโกโกมาจากคำสองคำผสมกัน คำว่า rocaille จากภาษาฝรั่งเศส ซึ่งหมายถึงศิลปะการตกแต่งที่ใช้ลวดลายคล้ายหอยหรือใบไม้ และคำว่า barocco จากภาษาอิตาลี หรือที่เรียกว่า ศิลปะบาโรก ศิลปินโรโกโกจะนิยมเล่นเส้นโค้งตัวซีและตัวเอส (S และ C curves) แบบเปลือกหอย หรือการม้วนตัวของใบไม้เป็นหลัก และจะเน้นการตกแต่งประดิดประดอย ศิลปะโรโกโกถือกันว่าเป็นสมัยของศิลปะที่มีความสำคัญสมัยหนึ่งในประวัติศาสตร์ศิลปะตะวันตกซึ่งอยู่ในช่วงต้นถึงกลางของศตวรรษที่ 18 พัฒนามาจากศิลปะบาโรก

ศิลปะโรโกโกเริ่มขึ้นจากศิลปะการตกแต่งและศิลปะการตกแต่งภายใน ในรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส เมื่อปลายรัชสมัยการตกแต่งอย่างหรูหราแบบโรโกโกก็เริ่มเบาขึ้น มีเส้นโค้งมากขึ้น และลวดลายเริ่มเป็นธรรมชาติมากขึ้น ต่อมาศิลปะโรโกโกได้ขยายออกมาสู่งานสำหรับชนชั้นสูง ลักษณะอ่อนไหวและขึ้เล่นของโรโคโคทำให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตอย่างฟุ้งเฟ้อของรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 โดยแท้

ประติมากรรมของยุคโรโกโกจะเป็นสเกลเล็กๆ แทนที่จะเป็นรูปแกะสลักหินอ่อนใหญ่โตอย่างสมัยบาโรก แต่ถ้าเป็นประติกรรมหินก็จะเป็นประติมากรรมหินอ่อนที่ใช้ตกแต่งมีขนาดสูงเพียง 38 เซนติเมตร ลักษณะบ่งบอกถึงการเป็นส่วนหนึ่งของกรีก-โรมันสมัยฟื้นฟูศิลปะและวิทยาการจนถึงสมัยบาโรก ซึ่งนิยมแสดงออกในรูปแบบที่เลียนแบบจากธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความกลมกลืนกับคตินิยมของสมัยโรโกโก โดยเฉพาะทางด้านเรื่องราวและการจัดท่าทางที่มุ่งหวังทำให้เกิดความรู้สึกชื่นชมในสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้กับมนุษย์ ประติมากรรมส่วนมากเป็นเรื่องศาสนา ซึ่งสร้างถวายเทพเจ้าต่างๆ วัสดุที่นิยมใช้สร้างงานมักสร้างจากสำริดและหินอ่อน รูปทรงจะมีความเป็นมนุษย์มาก แสดงท่าทางการเคลื่อนไหวที่สง่างาม มีการขัดถูผิวหินให้เรียบ ดูคล้ายผิวมนุษย์ มีลีลาที่เป็นไปตามธรรมชาติมากขึ้น ทำให้ประติมากรรมกรีกจัดเป็นยุคคลาสสิก ที่ให้ความรู้สึกในความงามที่เป็นความจริงตามธรรมชาตินั่นเอง  

ประติมากรรมบนหินอ่อนจะอ่อนพลิ้วดูคล้ายจริง ประติมากรรมหินอ่อนแห่งยุคโรโกโกแสดงให้เห็นถึงความสามารถของศิลปินที่เนรมิตหินอ่อนให้ดูอ่อนช้อยมีชีวิตชีวาได้ดังในชีวิตจริง ซึ่งต่อมาก็มีศิลปินอีกเป็นจำนวนมากที่ได้แรงบันดาลใจจากประติมากรรมหินอ่อนของยุคโรโกโก ได้นิรมิตประติมากรรมหินอ่อนในสเกลที่ใหญ่กว่างานประติมากรรมของสมัยโรโกโกอีกเป็นจำนวนไม่น้อยเลย

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ "โรโกโก" มรดกทางวัฒนธรรม หลอมรวมศาสตร์เชิงศิลป์ยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 15

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook