ชุลมุนศพสลับกัน-ตั้งสวดผิดงาน เผยลางสังหรณ์เทียนหน้าโลงล้ม 2 ครั้ง

ชุลมุนศพสลับกัน-ตั้งสวดผิดงาน เผยลางสังหรณ์เทียนหน้าโลงล้ม 2 ครั้ง

ชุลมุนศพสลับกัน-ตั้งสวดผิดงาน เผยลางสังหรณ์เทียนหน้าโลงล้ม 2 ครั้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลางสังหรณ์ เทียนเล่มใหญ่ตั้งหน้าโลงศพล้ม 2 ครั้ง ทั้งที่ไม่มีลมพัด กระทั่งรถหน่วยกู้ชีพวิ่งมาขอเปลี่ยนศพ จึงรู้ว่าศพที่อยู่ในโลงไม่ใช่ญาติ โชคดีที่รู้ก่อนยังไม่เผา ขณะญาติผู้ตายทั้งสองศพเผยไม่ติดใจเอาเรื่อง แต่ฝากเจ้าหน้าที่ให้รอบคอบมากกว่านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (13 ต.ค.) ได้รับแจ้งจากชาวบ้านโนนมาลัย หมู่ 4 ต.หินเหล็กไฟ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ว่ามีเหตุการณ์ศพสลับกันโดยที่ญาติผู้เสียชีวิตไม่รู้ จนเกือบเผาผิดศพ คือ น.ส.อ้อม อายุ 47 ปี ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว กับ นางละม่อม อายุ 75 ปี ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคชรา

ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 202 บ้านโนนมาลัย ก็พบชาวบ้านจำนวนหนึ่งจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเจอเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวมาก่อน 

จากการสอบถาม นายศักดิ์ดา อายุ 58 ปี พี่ขายของ น.ส.อ้อม เล่าว่า หลังจากน้องสาวเสียชีวิต ทางญาติก็ได้เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาล เวลาประมาณ 5 โมงเย็นของวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ดูแลจัดการเรื่องศพแจ้งว่าดำเนินการแต่งศพให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ญาติรับกลับไปได้เลย

ซึ่งตอนนั้นศพอยู่ในสภาพห่อผ้าขาวมิดชิด ญาติจึงไม่ได้เอะใจเปิดดูหน้าศพ จากนั้นก็เอาเข้าโลงเย็นทันที และเมื่อมาถึงบ้านก็ตั้งศพเพื่อไว้ประกอบพิธีสวดอภิธรรมตามประเพณี ซึ่งก็ญาติและเพื่อนบ้านมากราบไหว้ศพตามปกติ

กระทั่งตอน 1 ทุ่มเศษๆ มีรถเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ อบต.วังเหนือ ขับมาจอดหน้าบ้านแล้วบอกว่าศพสลับกันมาขอเปลี่ยนศพ ก็รู้สึกตกใจจึงได้ไปเปิดดูศพที่อยู่ในโลงก็พบว่าไม่ใช่ศพของน้องสาวตนเอง แต่เมื่อดูศพที่รถกู้ชีพปรากฏว่าเป็นศพของน้องสาวจริง จึงได้เปลี่ยนศพกัน 

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางญาติไม่ได้ติดใจจะเอาเรื่องอะไร แต่อยากให้ทางโรงพยาบาลที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องศพ ได้รอบคอบมากขึ้นมากกว่านี้ และอยากให้มีการติดชื่อศพให้ชัดเจนเพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก และหากเป็นไปได้ญาติที่ไปรับศพควรจะเปิดดูศพก่อนด้วย เพราะถ้าหากเผาศพไปแล้วก็ไม่รู้จะแก้ไขยังไง

ด้าน นายสุวิทย์ อายุ 39 ปี หลาน น.ส.อ้อม ผู้เสียชีวิต เล่าว่า พอมาคิดย้อนหลังก็มีเหตุการณ์ที่น่าจะเป็นลางสังหรณ์หรือสัญญาณที่ป้าอาจจะบ่งบอกอะไรสักอย่าง เพราะเทียนเล่มใหญ่ที่จุดไว้หน้าโลงล้มลงถึง 2 ครั้ง ทั้งที่ไม่มีลมพัด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อยากให้ทางโรงพยาบาลรอบคอบมากขึ้นกว่านี้ เพื่อจะได้ไม่ผิดพลาดขึ้นอีก

ขณะที่ นายพิสิทธิ์ อายุ 37 ปี ลูกชายของนางละม่อม ที่ศพสลับกัน เล่าว่า หลังจากแม่เสียชีวิตวันที่ 10 ต.ค. เวลาประมาณ 5 โมงเย็น ทางครอบครัวได้ติดต่อรถกู้ชีพ อบต.วังเหนือ เพื่อไปรับศพที่โรงพยาบาล

ซึ่งวันนั้นมีศพออกมาไล่เลี่ยกัน 3 ศพ ซึ่งแต่ละศพก็ถูกห่อด้วยผ้าขาวมิดชิด แต่ไม่มีชื่อติดไว้ที่ศพ เพียงเจ้าหน้าที่แจ้งว่าดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยแล้วสามารถรับศพไปได้เลย  จากนั้นก็ทยอยนำศพขึ้นรถ ซึ่งแม่ของตนเป็นศพที่ 3 ที่นำขึ้นรถก็ไม่ได้เอะใจอะไร

กระทั่งเมื่อนำศพไปถึงวัดปลัดปุ๊ก ต.วังเหนือ เพื่อจะประกอบพิธีรดน้ำ สัปเหร่อที่วัดก็ได้เปิดศพออกดูก็แจ้งกับญาติว่าไม่ใช่ศพของแม่เป็นศพของคนอื่น ต่างก็ตกใจเพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ จึงได้กลับไปสอบถามที่ รพ. จึงทราบว่าศพสลับกันกับศพของหญิงวัย 47 ปีที่บ้านโนนมาลัย จึงได้ไปขอเปลี่ยนศพคืน 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องศพ เพราะไม่ติดชื่อให้เรียบร้อย โชคดีศพที่สลับกันอยู่ไม่ไกลมากนักไม่อย่างนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก และสัปเหร่อเปิดดูศพ เพราะหากเผาไปแล้วก็ไม่รู้จะทำยังไง

ทั้งนี้ ศพของผู้เสียชีวิตทั้งสองรายที่ศพสลับกัน ทางญาติได้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพไปแล้วเมื่อวานนี้ 12 ต.ค.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook