ตื่นตา! ลูกฉลามวาฬโผล่ทะเลบ้านกรูด ห่างจากฝั่งแค่ 300-400 เมตร
ลูกฉลามวาฬโผล่กินแพลงก์ตอนและลูกปลาที่ทะเลบ้านกรูด ห่างจากฝั่งแค่ 300-400 เมตร นักท่องเที่ยวที่ออกไปตกปลาตื่นเต้นดีใจอย่างหนัก ขณะที่ ไต๋บอล เจ้าของเรือ เผยปีนี้เจอไม่น้อยกว่า 10 ครั้ง และเคยเจอพร้อมกันเป็นคู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (6 ต.ค.) นายนาวี จิตรวัตร หรือ ไต๋บอล เจ้าของเรือโชคนาวีสมุทร อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ต.ค.) ได้พานักท่องเที่ยวที่เป็นนักตกปลา ชาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งจองเรือไว้ จำนวน 4 คน ลงเรือออกทะเล เพื่อจะออกไปตกปลาที่แนวปะการังเทียม
โดยก่อนออกไปตกปลา ตนได้ไดร์หมึกเพื่อทำเหยื่อตกปลา บริเวณชายฝั่งบ้านกรูด-บ้านดอนสำราญ ห่างฝั่งไม่เกิน 300-400 เมตร น้ำลึกไม่แค่ไม่กี่เมตร ปรากฏว่ามีลูกฉลามวาฬ ความยาวแค่ 2-3 เมตร น้ำหนักไม่เกิน 300 กิโลกรัม ว่ายเข้ามาที่เรือประมงของตนเอง สร้างความตื่นเต้นดีใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ไม่เคยเห็นฉลามวาฬใกล้ชิดขนาดนี้ โดยต่างถ่ายภาพและคลิปวีดีโอของลูกฉลามวาฬเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วยดีใจ ขนาดตนเห็นฉลามวาฬบ่อยครั้งในทะเลบางสะพาน ตนยังรู้สึกดีใจที่ได้เจอ
โดยพบว่าพฤติกรรมของลูกฉลามวาฬตัวนี้ จะอ้าปากกินแพลงก์ตอน ลูกหมึกและลูกปลาขนาดเล็ก ที่เรือกับเปิดไฟล่อสัตว์น้ำไว้ โดยว่ายน้ำหากินบริเวณเรือของตนนานเกือบ 1 ชั่วโมง ก่อนจะว่ายน้ำจากไป โดยช่วงที่เจอลูกฉลามวาฬนี้คลื่นลมสงบ น้ำนิ่ง และอากาศดีมาก
ไต๋บอล กล่าวเพิ่มเติมว่า เฉพาะปีนี้ ตนเจอฉลามวาฬ ประมาณ 10 ครั้ง มั่นใจว่าน่าจะมีฉลามวาฬ หากินอยู่ในบริเวณนี้ไม่น้อยกว่า 6 ตัว โดยจำแนกจากขนาดตัวที่ต่างกัน ตนเจอฉลามวาฬตั้งแต่ทะเลบ้านกรูด ถึง บ่อทองหลาง ในปีนี้เจอบ่อยมาก ทั้งนี้เคยเจอตัวใหญ่ ความยาวไม่น้อยกว่า 6 เมตร เจอพร้อมกันเป็นคู่ อยู่ห่างจากฝั่งราว 3 ไมค์ทะเล ระดับน้ำลึกประมาณ 18-20 เมตร
และเคยเจอตัวเล็ก เป็นลูกฉลามวาฬ ขนาดเท่าๆ กับที่เจอล่าสุดนี้ ว่ายน้ำเข้าไปหากินใกล้ฝั่งที่ท่าเรืออ่าวบ่อทองหลาง ซึ่งตนนำเรือไปจอดไว้ พบว่าลูกฉลามวาฬ ขนาด 2-3 เมตร เช่นเดียวกัน ว่ายน้ำใกล้ฝั่งเพื่อกินลูกปลาและแพลงก์ตอนจนเรียกได้ว่าท้องเกยทราย จึงยอมว่ายน้ำออกไป ไม่มีท่าทีที่จะตื่นกลัวคนที่เดินมาดูถ่ายรูปที่สะพานปลาดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ในช่วงนี้มีรายงานการพบฉลามวาฬ หากินในทะเล จ.ประจวบคีรีขันธ์ บ่อยครั้งมากกว่าที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ทช. ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลจุดที่พบการหากินของฉลามวาฬ แต่ละจุดของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรวบรวมข้อมูลทางวิชาการ สำหรับใช้เพื่อวางแผนการอนุรักษ์ อย่างยั่งยืนแล้ว
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวหรือชาวประมง ที่พบเจอฉลามวาฬหากิน ไม่ควรว่ายน้ำตามไปจับตัวเพื่อถ่ายภาพ หรือขับเรือไล่ตามเพื่อถ่ายภาพ เพราะถือเป็นการรบกวนการหากินของฉลามวาฬ อาจก่อให้เกิดอันตรายกับฉลามวาฬได้ เนื่องจากพฤติกรรมการว่ายขึ้นมาผิวน้ำและว่ายน้ำช้าๆ คือการเคลื่อนที่เพื่อหากินลูกปลาและแพลงก์ตอนตามธรรมชาติ