นักวิชาการลั่นข้อกล่าวหากษิตหนักเกินไป พันธมิตรฯจวกตำรวจเหวี่ยงแห ไม่ตรงคำพูดนายกฯ

นักวิชาการลั่นข้อกล่าวหากษิตหนักเกินไป พันธมิตรฯจวกตำรวจเหวี่ยงแห ไม่ตรงคำพูดนายกฯ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นักวิชาการแสดงความคิดเห็นข้อกล่าวหา กษิต เป็นผู้ก่อการร้ายหนักเกินไป ชี้ปฏิบัติหน้าที่รมว.ต่างประเทศต่อไป จนกว่าศาลจะตัดสิน อดีตแนวร่วมพธม.ซัดตร.ตั้งข้อหาแบบเหวี่ยงแห ไม่เป็นไปอย่างที่นายกฯกล่าวไว้

ไกรศักดิ์ ป้องไม่ใช่คนพันธมิตร

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 ก.ค. นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคอีสาน กล่าวว่า ถือว่าไม่ยุติธรรมที่ตำรวจจะมากล่าวหาว่านายกษิตเป็นผู้ก่อการร้ายหรือกบฏ ทั้งที่นายกษิตเป็นเพียงแขกรับเชิญบนเวทีพันธมิตร ไม่มีพฤติกรรมรุนแรงและไม่ใช่แกนนำพันธมิตร ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยุติธรรมที่จะมากล่าวหาว่านายกษิตและแกนนำพันธมิตร โดยเรื่องนี้ต้องดูในชั้นอัยการต้องวินิจฉัยด้วยความยุติธรรมแก่นายกษิตด้วย พร้อมกันนี้ ถือว่าไม่เข้าหลักกฎ 9 ข้อของนายกฯ เพราะเรื่องเกิดก่อนที่นายกษิตจะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี อีกทั้งการเคลื่อนไหวของนายกษิตเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เป็นการใช้สิทธิของประชาชนคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการบริหารประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ

นายกษิตไม่ได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีในโควต้าของพันธมิตร และนายกษิตก็ไม่ใช่คนของพันธมิตร แต่หากในอนาคตนายกษิตต้องพ้นจากตำแหน่ง คนที่เหมาะสมที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนนั้นต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของนายกฯ เนื่องจากเป็นตำแหน่งนี้ต้องทำงานใกล้ชิดกับท่าน โดยมีหลายคนที่เหมาะสม เช่น นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก ที่เชี่ยวชาญงานด้านการต่างประเทศ หรือนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม. ก็มีความเหมาะสม สามารถเป็นรัฐมนตรีได้ทุกกระทรวง นายไกรศักดิ์กล่าว

นักวิชาการชี้กล่าวหาหนักเกิน

นายเจษฎ์ โทณะวณิก ที่ปรึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม กล่าวว่า มองว่าการตั้งข้อหาก่อการร้ายให้กับกลุ่มพันธมิตรเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงเกินไป แต่ต้องยอมรับว่าบ้านเราใช้ระบบกล่าวหา ที่ตำรวจมักแจ้งข้อกล่าวหาที่หนักไว้ก่อนเสมอ จึงอยากให้การตั้งข้อกล่าวหาไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนเหมาะสมแก่การตั้งข้อกล่าวหา แต่เมื่อถึงศาลแล้วศาลอาจเห็นว่าไม่ใช่การก่อการร้ายก็เป็นได้ ซึ่งอาจจะยกฟ้องเพราะเห็นว่าการชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญกำหนด หรือไม่ก็อาจเห็นว่าเป็นเพียงข้อหาที่ก่อความไม่สงบก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าการชุมนุมของพันธมิตรก่อนหน้านี้เป็นการชุมนุมใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด แต่หลังจากที่ยึดทำเนียบรัฐบาลและสนามบินแล้วทำให้เลยขอบเขตการชุมนุมและกระทำผิดกฎหมาย

ขณะนี้ในทางกฎหมายนายกษิตยังถือว่ายังสามารถปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีได้ เพราะกฎหมายบอกว่าการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีจะถูกศาลตัดสินให้ต้องโทษก่อน แต่หากมองในแง่ความสง่างามของการอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีนั้นก็เป็นเรื่องที่จะต้องคิดกันอีกทีว่า จำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบหรือไม่ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา นายเจษฎ์กล่าว

ไชยวัฒน์ ซัดตั้งข้อหาเหวี่ยงแห

นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย และอดีตแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 1 ในผู้ที่ถูกออกหมายเรียกในคดีบุกรุกสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง กล่าวว่า แปลกใจในข้อหาก่อการร้ายที่ทางตำรวจได้ออกหมายเรียก เพราะไปขึ้นเวทีในฐานะผู้รับเชิญให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชน ไม่ใช่ไปในฐานะแกนนำ การออกหมายเรียกเช่นนี้เป็นการเหวี่ยงแหเกินไป

นายกฯเคยประกาศว่าจะทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย การปล่อยให้มีการตั้งข้อกล่าวหาแบบเหวี่ยงแห ทำให้ไม่ตรงกับคำพูดของนายกฯที่เคยให้ไว้ เพราะหากทำกฎหมายให้เป็นกฎหมายการตั้งข้อหาแบบเหวี่ยงแหต้องเกิดไม่ได้ นายไชยวัฒน์กล่าว และว่า นายกฯ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ต้องให้คำตอบแก่เรื่องนี้ให้ได้ว่า เกิดปัญหาอะไรขึ้นกับการให้นโยบายของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ตั้งข้อกล่าวหาแบบนี้ ดังนั้นจำเป็นที่จะยื่นหนังสือเพื่อทวงถามโดยตรงไปยังนายกฯ ในฐานะที่กำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนถึงวันออกหมายเรียกในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้

คนรักแท็กซี่นัดขับไล่กษิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนอง การะเกด ผู้จัดรายการ วิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ ออกอากาศทางคลื่นเอฟเอ็ม 92.75 เมกะเฮิร์ตซ์ ได้ประกาศเชิญชวนคนเสื้อแดงให้มาร่วมชุมนุมที่กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 9 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. เพื่อขับไล่นายกษิต

ด้านนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไม่ได้หวังให้นายกษิตออกมารับผิดชอบ เหมือนที่นายกษิตประกาศไว้ เพราะจนถึงขนาดนี้นายกษิตก็ไม่ได้ทำตาม ที่พูดมีค่าแค่น้ำลายเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องไปคาดหมายกับสปิริตของนายกษิต เพราะเป็นเรื่องที่จิตสำนึกที่นายกษิตต้องพิจารณาว่า ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นตำแหน่งสาธารณะ ที่นายกษิตควรจะลาออกเพื่อพิสูจน์ตัวเองก่อนว่าผิดจริงหรือไม่

นายนพดลกล่าวว่า ส่วนที่มีคนเปรียบเทียบสปิริตของ พ.ต.ท.ทักษิณ กับนายกษิต นั้น เปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะคดี พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคดีที่เกิดจากการยึดอำนาจ และคดีต่างๆ ไม่ได้เป็นการทุจริต แต่คดีของนายกษิตเป็นข้อหาร้ายแรง เป็นข้อเท็จจริงที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศถึงขั้นเป็นคดีก่อการร้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook