สิ้นท่า "บังหนิด" หึงโหดจุดไฟเผาแฟนสาวปางตาย หลังหนีคดีมา 17 ปี

สิ้นท่า "บังหนิด" หึงโหดจุดไฟเผาแฟนสาวปางตาย หลังหนีคดีมา 17 ปี

สิ้นท่า "บังหนิด" หึงโหดจุดไฟเผาแฟนสาวปางตาย หลังหนีคดีมา 17 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจกองปราบฯ รวบชายหนุ่มหนีคดีราดน้ำมัน-จุดไฟเผาแฟนสาวคาห้องพัก สาเหตุเพราะไม่พอใจถูกบอกเลิก

(3 ต.ค.) พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก. 5 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม แถลงข่าวการจับกุม นายคำรณ อายุ 39 ปี ชาว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน หลังจับกุมได้ที่ตลาดเทศบาลหนองหญ้าไซ ม.5 ต.หนองหญ้าไซ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวานนี้ (2 ต.ค.)

จากกรณีที่ น.ส.วรรณา อายุ 20 ปี (อายุของผู้เสียหายในขณะนั้น) ซึ่งเป็นนักศึกษา ปวส. ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยพาณิชย์ชื่อดังใน จ.นครศรีธรรมราช ได้ถูกคนร้ายทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม โดยคนร้ายได้ใช้ของแข็งตีเข้าที่กกหูซ้าย และจุดใช้น้ำมันราดจุดไฟเผาทั้งเป็นคาห้องพัก โดยเหตุเกิดภายในหอพักแห่งหนึ่ง หลังถนนสายอ้อมค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้เสียหายมีสภาพบาดแผลถูกไฟเผาตามตัว บาดเจ็บสาหัส

ต่อมาจากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้ที่ลงมือทำร้าย น.ส.วรรณา ก็คือนายคำรณ หรือ บังหนิด อดีตคนรัก พนักงานสอบสวนจึงเสนอต่อศาลขออนุมัติออกหมายจับ กระทั่งเมื่อประมาณต้นปี 2562

นางกอลิเย๊าะ อายุ 63 ปี มารดาผู้เสียหาย ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรม จ.กระบี่ ให้ติดตามจับกุมผู้ต้องหา เนื่องจากคดีผ่านมาประมาณ 17 ปี และใกล้หมดอายุความ ประกอบกับ ปัจจุบัน น.ส.วรรณา ยังลุกเดินไม่ได้ ต้องมีสภาพนอนติดเตียง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ได้สืบทราบว่า นายคำรณ หลบหนีไปพักอาศัยอยู่กับญาติ ที่ จ.สุพรรณบุรี จนมีภรรยาและลูกชาย 1 คน จึงได้วางแผนเข้าจับกุม จนพบผู้ต้องหาอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมนำตัวมาที่กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม เพื่อทำบันทึกจับกุม และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ. เนติ ระบุว่า ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนสาเหตุ เชื่อว่ามาจากปมหึงหวง เพราะ ขณะนั้น น.ส.วรรณา ได้พยายามตีตัวออกห่าง และบอกเลิกผู้ต้องหา จึงทำให้ผู้ต้องหาโมโห และลงมือทำร้ายผู้เสียหาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook