นายกฯเปิดโครงการ ฉันรักประเทศไทย

นายกฯเปิดโครงการ ฉันรักประเทศไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.00 น. วันนี้ (5 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย โดยกล่าวถึงโครงการ ฉันรักประเทศไทย ว่า สิ่งที่สำคัญในการทำงานและแก้ปัญหาอย่างหนึ่งคือเรื่องของความเชื่อมั่น เรื่องของภาพลักษณ์ของประเทศ เพราะว่าช่วงที่รัฐบาลนี้เข้ามา ต้องยอมรับว่าภาพลักษณ์ของประเทศบอบช้ำพอสมควร ในเรื่องของความขัดแย้ง ในเรื่องของความรุนแรง การประท้วงชาวโลกเขาดูข่าวประเทศไทยในช่วง 2-3 ปีหลัง เขาก็ไม่เห็นสิ่งดี ๆ เท่าไหร่ และตนก็ยอมรับว่าในช่วงเมษายนที่เกิดเหตุที่พัทยา ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ซ้ำเติมตรงนั้นเข้าไป เพราะฉะนั้น เราก็พยายามว่าทำอย่างไร ตนได้เดินทางไปต่างประเทศ คนที่เขารู้จักประเทศไทย เขาจะบอกว่าสิ่งที่เขาเห็นทางทีวี 2-3 ปีมานี้ มันไม่ใช่ประเทศไทยที่เขารู้จัก เขารู้จักคนไทยที่ต้อนรับเขาเวลาเขามาท่องเที่ยว เขารู้จักคนไทยที่ทำงานกับเขาเวลาเขามาลงทุน เขาได้สัมผัสกับอุปนิสัยใจคอ วัฒนธรรมไทย มันไม่ใช่อย่างนี้ เราก็คิดว่ามันต้องมารวมพลังคนไทยกัน

ยืนยันสิ่งที่ผมพูดตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่ง คือวันนั้นก็พูดเป็นภาษาอังกฤษกับชาวโลกด้วยว่า เป้าหมายของผมก็คือทำให้ชาวโลกหันกลับมามองประเทศไทยว่าเป็นเมืองยิ้ม เป็นเมืองของคนที่มีสิทธิเสรีภาพ และเป็นเมืองที่มีโอกาสในการที่จะทำมาค้าขายลงทุน เพราะฉะนั้น อันนี้ก็เป็นแนวคิดเบื้องต้น ผมคิดว่านอกเหนือจากการทำเรื่องภาพลักษณ์แล้ว ก็ทำให้เป็นเรื่องของการปลุกจิตสำนึก ปลุกระดมคนไทย ไม่ใช่ปลุกระดมไปประท้วงใคร ปลุกมาเพื่อจะบอกว่าจริง ๆ คนไทยส่วนใหญ่ขณะนี้ต้องการเห็นเมืองไทยที่สงบ เมืองไทยที่มีความเอื้ออาทร มีน้ำใจไมตรีให้กัน และเป็นเมืองที่ต้อนรับชาวโลก นอกจากนี้ยังมีการเปิดเว็บไซต์ชื่อว่า www.ilovethailand.org ซึ่งประชาชนสามารถส่งความคิดเห็น หรือ ข้อเสนอแนะต่าง ๆ เข้ามาในเว็บไซต์ได้ด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับนักการเมือง สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในการที่จะบ่งบอกถึงความรักประเทศ คือ ต้องเอาผลประโยชน์ของประเทศเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผลประโยชน์อะไรก็ตาม ต้องไม่เข้ามามีส่วนในการที่จะทำให้เราตัดสินใจในการทำงาน ทุกอย่างที่เราทำ ทุกอย่างที่เราคิด ทุกอย่างที่เราตัดสินใจต้องมุ่งไปที่ประโยชน์ของประเทศชาติ และบางครั้งบางทีประโยชน์ของประเทศชาติ อาจจะทำให้เรามีปัญหาในทางการเมืองหรืออะไรก็แล้วแต่ เราต้องยอมสละประโยชน์ของตัวเองในทางการเมืองตรงนั้น ตนว่าถ้านักการเมืองทำอย่างนี้ได้เป็นวิธีการที่ดีที่สุด แต่ว่าในฐานะบุคคลธรรมดาก็มีอีกหลายเรื่องที่เราทำได้ ชีวิตประจำวันต้องทบทวนดูว่ามีอะไรบ้างที่เราทำแล้วส่วนรวมจะดีขึ้น ตนคิดว่าถ้าเราสามารถระดมคนในประเทศให้มาคิดกันเรื่องนี้ได้มากขึ้น

เมื่อไม่นานมานี้มีการเอาเด็กเล็ก ๆ ไปค่าย เด็ก ป.1 ป. 2 และเขาเปิดโอกาสให้เขียนไปรษณียบัตรมาถึงผม ๆ ก็มานั่งอ่านดูก็สะท้อนใจ คือ เด็กจะมีพื้นฐานของการรักชาติอยู่แล้ว และจะบ่นว่าทำไมเมื่อไหร่เราจะเลิกทะเลาะกัน เมื่อไหร่เราจะเลิกวุ่นวาย ทำอย่างไรจะให้บ้านเมืองก้าวหน้า เขาก็คิดถึงอนาคตของเขา นี่ขนาดเด็กเล็ก ๆ อาจจะไม่ได้คิดลึกซึ้งอะไรมาก แต่มันเป็นพื้นฐานที่มีอยู่ เราก็อยากระดมตรงนี้ออกมา ในส่วนภาพลักษณ์ของประเทศอีกอย่างหนึ่งที่เราจะทำได้จากโครงการนี้ และผมจะพยายามทำคืออย่างเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีศิลปินนักร้องยอดนิยมเกาหลีมา เมื่อเขามาเราก็ถามเขา เขาบอกเขาก็รักเมืองไทย ถ้ารักเมืองไทยก็ช่วยเผยแพร่โครงการนี้ และจะมีอีกหลายโอกาสที่จะทำ นายกรัฐมนตรี กล่าว.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook