เสื้อแดงยก3เหตุผลลุยถวายฎีกาขออภัยโทษแม้ว เผยตระกูลชินวัตรเคยคิด แต่ไม่ได้ดำเนินการ

เสื้อแดงยก3เหตุผลลุยถวายฎีกาขออภัยโทษแม้ว เผยตระกูลชินวัตรเคยคิด แต่ไม่ได้ดำเนินการ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เสื้อแดง เดินหน้าทูลเกล้าถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษแม้ว อ้าง 3 เหตุผลต้องทำพิษศก.-ยุติธรรมไม่มีมาตรฐาน-ปฏิวัติ พายัพ เผยตระกูลชินวัตรเคยคิด แต่ไม่ได้ดำเน้นการ ถือเป็นความเห็นปชช.ที่รักอดีตนายกฯอยากให้กลับประเทศ เสื้อแดงลุยแจกแบบฟอร์มถวายฎีกา

แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงหรือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เปิดแถลงข่าวการรวบรวมรายชื่อประชาชน ยื่นถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 กรกฎาคม ที่ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว กรุงเทพฯ

นายวีระกล่าวว่า การชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ระหว่างที่คนเสื้อแดงกำลังฟังการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งระบุว่าการอยู่ต่างประเทศยาวนานทำให้เหงาและคิดถึงบ้าน ประชาชนที่มาฟังกำลังประสบวิกฤตเศรษฐกิจเลยเกิดอารมณ์ว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจน่าจะทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ ตนได้เคยเสนอความคิดนี้ตั้งแต่การชุมนุมคนเสื้อแดงที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ย่านหัวหมาก กรุงเทพฯ และวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี จากนั้น ทิ้งไว้เพื่อรอฟังความคิดเห็นประชาชน ต่อมาเมื่อเห็นปฏิกิริยาจากประชาชนก็รับที่จะเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ

ลั่นไม่ถึง1ล้านคนไม่ทูลเกล้าฯ

ต่อมามีเสียงคัดค้านจากปฏิบักษ์และฝ่ายตรงข้าม แต่ไม่สำคัญเท่ากับความคิดเห็นที่แตกต่างของคนเสื้อแดงกันเอง เรายังยืนยันว่ายังทำงานร่วมกันได้ หากกลุ่มใดเห็นด้วยก็ดำเนินการ แต่กลุ่มใดไม่เห็นด้วยก็อยู่เฉยๆ แต่เมื่อใดที่ถึงจุดสำคัญของเรื่องประชาธิปไตย นปช.ทุกหน่วยก็จะมาร่วม นายวีระกล่าว และว่า พวกตนทั้ง 3 คนในกลุ่มความจริงวันนี้ขอรับเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษมาดำเนินการ อยู่ในระหว่างการพิมพ์คำขอพระราชทานอภัยโทษ พร้อมแบบฟอร์มรายละเอียดผู้ที่จะมาร่วมเซ็นชื่อ ที่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ที่มาร่วมลงชื่อเป็นคนที่มีอยู่จริง มั่นใจว่าภายในวันที่ 2 กรกฎาคม น่าจะพร้อมที่จะแจกจ่ายให้ผู้สนใจจะร่วมลงชื่อทั้งล้านคน หากเสียงตอบรับไม่ถึง 1 ล้านคน พวกตนไม่กล้านำขึ้นทูลเกล้าฯแน่นอน

ยก3เหตุผลถวายฎีกาขออภัยโทษแม้ว

นายวีระกล่าวว่า เนื้อความที่จะนำกราบบังคมทูลฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อาศัยเหตุ ประการที่ 1.จะบอกถึงความทุกข์ของพสกนิกร อันเนื่องจากปัญหาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ 2.ปัญหาความทุกข์ของพสกนิกรที่เกิดมาจากความเดือดร้อนจากกระบวนการยุติธรรมที่ไม่เป็นมาตรฐน ซึ่งที่เป็นรูปธรรมชัดเจนคือ พ.ต.ท.ทักษิณ และ 3.สรุปที่มาของปัญหาทั้ง 2 ปัญหานี้มาจากปฐมเหตุการยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549 เพราะได้ทำให้เกิดผลกระทบต่อบ้านเมือง ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างรุนแรง เพราะนอกจากการยึดอำนาจแล้ว ในหลักการยังเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไปสู่การปกครองของเผด็จการทหารที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แล้วยังกระทบต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน คือเมื่อเศรษฐกิจโลกถดถอยประเทศไทยไม่สามารถตั้งรับได้เท่าที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีศักยภาพ แต่เนื่องจากขาดคนมีความรู้ความสามารถ จึงทำให้เดือดร้อนกว่าที่ควรจะเป็น ด้วยสาเหตุดังกล่าวเราจึงกราบบังคมทูลฯองค์พระประมุข เพื่อรับทราบและหนทางที่จะบรรเทาทุกข์ในจิตใจของประชาชน

พวกเราเห็นว่าการพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่พิพากษาให้จำคุก 2 ปี ซึ่งเราเห็นว่าเป็นกระบวนการยุติธรรมที่ไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรม ถ้ามีพระกรุณา พ.ต.ท.ทักษิณก็จะได้กลับบ้านมาเป็นพสกนิกรคนหนึ่ง มาเป็นข้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อร่วมแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งแห่งที่ แต่ถ้าได้ให้คำปรึกษาก็เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและสามารถแก้ความทุกข์ของพสกนิกร ดังนั้น จึงถวายฎีกามาเพื่อพระราชวินิจฉัย ดังนั้น จะเป็นประการใดก็เป็นพระราชวินิจฉัย

นายวีระกล่าวว่า ส่วนที่มีคนบอกว่าเป็นการกดดันพระมหากษัตริย์นั้นตนก็ต้องบอกว่า คนเหล่านี้จะมาตัดสิทธิประชาชนที่จะพึ่งพิงองค์พระประมุขได้อย่างไร และคนเหล่านี้จะรู้น้ำพระทัยองค์พระประมุขได้อย่างไร และสุดท้ายผู้ที่ทูลเกล้าฯถวายฎีกานั้นสำเร็จสมประสงค์ก็มาก ไม่สำเร็จก็มีอยู่ แต่ก็ไม่เคยมีความขัดข้องหมองใจ เพราะด้วยความจงรักภักดีต่อองค์พระประมุข ซึ่งสุดแต่จะมีพระบรมราชวินิจฉัย เช่นเดียวกับคนเสื้อแดงที่จะพึ่งพิงองค์พระประมุขไม่ควรมีใครมาขัดขวาง เพราะจะเท่ากับปิดกั้นความจงรักภักดีระหว่างพสกนิกรกับองค์พระประมุข

นายวีระกล่าวว่า การดำเนินการรวบรวมรายชื่อประชาชน 1 ล้านคน จะเริ่มในวันที่ 2 กรกฎาคม แล้วกระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นไม่เกินวันที่ 30 กรกฎาคม หากเกินไปแล้วยังไม่สามารถรวบรวมรายชื่อประชาชนได้ครบ 1 ล้านคน ตนจะขอลามือและไม่ดำเนินการต่อ การดำเนินการแจกจ่ายแบบฟอร์มเป็นการดำเนินการของพวกเรากันเองและเครือข่ายคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกัน โดยไม่ได้พึ่งพาองค์กรหรือพรรคการเมืองไหน แต่หาก ส.ส.พรรคเพื่อไทย สนใจก็ให้ติดต่อมาที่แกนนำคนเสื้อแดง ในส่วนของพื้นที่กรุงเทพฯกำลังเตียมการที่จะหาสถานที่สำหรับประชาชนมาร่วมลงชื่อกันอยู่

จตุพรลั่นไม่ใช่พวกคลั่งคอมมิวนิสต์

ด้านนายจตุพรกล่าวว่า พวกเราต่อสู้โดยประกาศชัดเจนว่าศัตรูเรานั้นจะตั้งแต่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ลงมา แต่ยังถูกกล่าวหาเรื่องความไม่จงรักภักดี ซึ่งพวกเราได้พิสูจน์หมดทุกอย่างและเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจะดำเนินการในฐานะของ 3 เกลอความจริงวันนี้เท่านั้น แต่อยากเตือนกันในหมู่มิตรว่าหากไม่เห็นด้วยก็ไม่ควรมาให้สัมภาษณ์ให้ร้ายกัน โดยเฉพาะนายสุรชัย (แซ่ด่าน) ด่านวัฒนานุสรณ์ แนวร่วมคนเสื้อแดง อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคเพื่อไทย ที่ออกมาวิจารณ์การเคลื่อนไหวของพวกตนนั้น ก็ขอบอกว่าการที่ตนขีดเส้นว่าศัตรูเราคือตั้งแต่ พล.อ.เปรมลงมา เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนมาเป็นเหยื่อของสถานการณ์ ตนไม่ใช่พวกบ้าคลั่งคอมมิวนิสต์จนไม่รู้ว่าประเทศนี้ไปถึงไหนแล้ว ซึ่งตนไม่รู้ว่านายสุรชัยคิดอะไรอยู่

เผยตระกูลชินฯเคยคิดถวายฎีกา

ด้านนายพายัพ ชินวัตร น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวถึงกรณีที่คนเสื้อแดงมีมติทูลเกล้าฯถวายฎีกาเพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศว่า เป็นความเห็นของประชาชนที่รัก พ.ต.ท.ทักษิณ และอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับประเทศ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง แต่เป็นความเมตตาของประชาชนที่จะขอพระเมตตาจากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ การทูลเกล้าฯถวายฎีกาได้ทำกันมานาน ชาวบ้านที่ยากจนและถูกโกงที่ดินยังสามารถทูลเกล้าฯถวายฎีกาเพื่อขอความเป็นธรรมได้ ซึ่งประเด็นของ พ.ต.ท.ทักษิณก็เช่นเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ครอบครัวชินวัตรเคยมีแนวคิดที่จะทูลเกล้าฯถวายฎีกาช่วยพี่ชายหรือไม่ นายพายัพกล่าวว่า มีเพียงความคิดเท่านั้นที่ต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่ได้มีการดำเนินการ เมื่อถามว่า จะร่วมลงชื่อทูลเกล้าฯถวายฎีกาด้วยหรือไม่ นายพายัพกล่าวว่า ผมอยากลงชื่อมาก แต่อาจจะไม่สามารถลงชื่อได้ เนื่องจากสวมหมวกหลายใบจึงไม่อยากให้ทุกคนไขว้เขวและเข้าใจผิด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook