คดีตัวอย่าง
ล็อกล้อ
มีคดีตัวอย่างจากศาลอุทธรณ์ภาค 3 ที่กทม.ควรศึกษา และหามาตรการรองรับและป้องกันเอาไว้
โดยศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ในคดีแพ่ง หมายเลขแดงที่ 585/2548 ให้กรมทางหลวงชนบท ชดใช้ค่าเสียหายให้กับนายสุนันท์ สืบสิงห์ และบุตร 2 คน กรณีกรมทางหลวงชนบทกระทำโดยประมาท ไม่ซ่อมแซมถนนสายบ้านหนองตาด - บ้านดงเย็น หมู่ที่ 4 ต.โนนขวาง อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท
จนเป็นเหตุให้โจทก์ หรือนายสุนันท์พร้อมบุตร ที่ขี่รถจักรยาน ยนต์ โดยมีนางสติม สืบสิงห์ ภรรยา ซ้อนท้าย มาตามถนนสาย บ้านหนองตาด - บ้านดงเย็น เมื่อมาถึงบริเวณที่ถนนชำรุด ขาดการซ่อมแซม ซึ่งเป็นความประมาทของกรมทางหลวงชนบท ทำให้รถจักรยานยนต์ตกลงไปในช่องถนนขาด เป็นเหตุให้นางสติม ภรรยา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนนายสุนันท์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังพิการเป็นอัมพาต จนถึงปัจจุบัน
โดยศาลอุทธรณ์พิพากษาให้กรมทางหลวงชนบทชดใช้ค่าเสียหายกว่า 2 ล้านบาท ให้ 3 พ่อลูก หลังยื่นฟ้องประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ภรรยาเสียชีวิต สู้คดีมานานกว่า 7 ปี ขณะที่ตัวเองพิการเดินไม่ได้
คดีนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ของคดีแพ่งที่น่าสนใจคดีหนึ่ง ที่ประชาชนฟ้องร้องชนะหน่วยงานของรัฐ
โดยคดีในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่มีประชาชนมาฟ้องร้องต่อศาลน้อยมาก ซึ่งอาจเป็นเพราะประชาชนไม่รู้ว่าสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อหน่วยงานของรัฐได้
ที่ผ่านมาจึงเห็นกันแต่คดีที่หน่วยงานของรัฐฟ้องประชาชนที่ทำทรัพย์สินของทางราชการเสียหายมากกว่า
สำหรับกทม.ที่ดูแลฟุตปาธ และถนนหลายสาย และมีหลายจุดทั้งบนฟุตปาธ และถนนที่ชำรุด แต่ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม
ยังไม่นับเรื่องท่อระบายน้ำของกทม. ที่เกิดเหตุคนตกลงไปได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง
เมื่อการชำรุด โดยขาดการซ่อมแซม ถือเป็นความประมาท ตามมุมมองของกฎหมายอย่างนี้
กทม.คงต้องเอาใจใส่ในภารกิจนี้ให้ดี อย่าพลาดจนตกเป็นจำเลยโดยไม่จำเป็น