ตาช็อก! หลานชายวัย 12 ปี ถูกจับ เป็นหัวหน้าแก๊งปาหินมอเตอร์เวย์

ตาช็อก! หลานชายวัย 12 ปี ถูกจับ เป็นหัวหน้าแก๊งปาหินมอเตอร์เวย์

ตาช็อก! หลานชายวัย 12 ปี ถูกจับ เป็นหัวหน้าแก๊งปาหินมอเตอร์เวย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุณตาของเด็กชายวัย 12 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งปาหินใส่รถบรรทุก เผยหลานเป็นเด็กนิสัยร่าเริง ไม่เคยรู้ว่าก่อนว่ามีพฤติกรรมแบบนี้

จากกรณีเมื่อช่วงบ่ายของวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางพลีน้อย จ.สมุทรปราการ ได้นำกำลังเข้าจับกุม 5 โจ๋ ที่ก่อเหตุใช้ก้อนหินขนาดใหญ่น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม ใส่รถบรรทุก บริเวณถนนมอเตอร์เวย์ขาออกมุ่งหน้าชลบุรี หลักกิโลเมตรที่ 37 หมู่ 3 ต.คลองนิยมญาตา อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ทำให้กระจกหน้ารถจนแตก และคนขับรถบรรทุกได้รับบาดเจ็บ

ทั้งนี้ หัวหน้าแก๊งเป็นเยาวชนอายุเพียง 12 ปี นำทีมผู้ร่วมก่อเหตุอายุ 14-17 ปี ก่อเหตุ โดยทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง แต่ไม่ได้ประสงทรัพย์เพียงต้องหารแข่งกันโยนก้อนหินใส่หลังตู้คอนเทรนเนอร์ให้เกิดเสียงดังเท่านั้น

>> ตะครุบแก๊งปาหินมอเตอร์เวย์ ตะลึง หัวหน้าแก๊งอายุแค่ 12 ขวบ อ้างไม่ตั้งใจทำร้ายใคร

ความคืบหน้าล่าสุด (13 ส.ค.) เมื่อช่วงสายของวันนี้ พ.ต.ท.ศักย์ศรณ์ วรรณประเสริฐ รอง ผกก.สอบสวน สภ.บางพลีน้อย ได้ให้ผู้ปกครองพาตัว 5 ผู้ก่อเหตุ ทำการมาทำการสอบถามข้อเท็จจริงเบื้องต้นเกี่ยวกับพฤติกรรมการก่อเหตุอีกครั้ง ขณะที่ นายสิทธิโชค อายุ 63 ปี คุณตาของเยาวชนของหัวหน้าแก๊ง วัย 12 ปี ได้พาเยาวชนคนดังกล่าวเดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม

คุณตาสิทธิ์โชค ได้เล่าว่า ปกติน้องเอ (นามสมมุติ) ก็เป็นเด็กนิสัยร่าเริง เหมือนเด็กทั่วไป ไม่เคยก่อเรื่องที่จะไปตีไปต่อยกับใครเขาเลย ชอบเที่ยวไปตามเพื่อนเป็นปกติเหมือนเด็กทั่วไป น้องไม่เคยมีพฤติกรรมที่จะไปเป็นผู้นำใครเขา 

การที่น้องมาก่อเหตุตนก็ไม่รู้เรื่องเลย เพราะช่วงที่น้องก่อเหตุตนนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล น้องก็จะอยู่กับน้องชายของตน ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงเรียนที่น้องเรียนอยู่ โดยปกติน้องไม่เคยเล่นอะไรอันตรายเลย หลังเกิดเหตุพอทราบเรื่องตนรู้สึกตกใจ พ่อน้องได้แยกทางกันอยู่กับแม่น้อง และแม่น้องก็มาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ตนเลยต้องเอาน้องมาเลี้ยง

ทั้งนี้ คุณตาสิทธิ์โชค ยอมรับว่า หลานไม่ค่อยมีใครอบรมสั่งสอน เพราะตนเองต้องไปทำงานทุกวัน อยู่บ้านน้อย จึงไม่ค่อยได้ดูแลน้องเท่าไหร่ พร้อมอยากเตือนลูกหลานทุกคนว่าอย่าไปทำอย่างนี้เป็นเด็ดขาด เพราะนอกจากตัวเองจะเดือดร้อน ยังทำให้พ่อแม่ญาติพี่น้องเดือดร้อนไปหมด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook