นายกฯห้ามปิดข้อมูลผู้ป่วย ปชช.ตื่นแห่ไปรพ.ตรวจเชื้อ กพฐ.ห่วงปิดเรียนไร้เหตุผล ยอดหวัด09พุ่ง310

นายกฯห้ามปิดข้อมูลผู้ป่วย ปชช.ตื่นแห่ไปรพ.ตรวจเชื้อ กพฐ.ห่วงปิดเรียนไร้เหตุผล ยอดหวัด09พุ่ง310

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
อภิสิทธิ์สั่งห้ามปกปิดข้อมูลตัวเลขคนติดเชื้อ กรมการแพทย์หวั่นหวัด2009 ระบาดหนักเดือนก.ค.อาจทะลุหลักพัน ชี้ป่วยหนัก 10 ต้องตาย 1 คน สธ.เร่งทำคู่มือปกเขียว1ล้านเล่มแนะทางปกป้อง ปชช.ตื่นตระหนกแห่ไปรพ.ตรวจหาเชื้อ ทั้งที่ไม่เข้าข่าย เลขาฯกพฐ.ห่วงสถานศึกษาปิดเรียนไร้เหตุผล ยอดผู้ติดเชื้อยอดพุ่ง 310 ราย

เหยื่อหวัดพันธุ์ใหม่ยอดพุ่ง310

กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มอีก 109 คน มียอดรวม 310 คนทั่วประเทศ โดยเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มีผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มอีก 109 คน เป็นกลุ่มนักเรียน 84 คน ผู้ป่วยเดินทางจากต่างประเทศ 7 คน ผู้ป่วยในประเทศ 6 คน กำลังสอบสวน 7 คน และผู้ป่วยยืนยันเพิ่มเติมจากชลบุรี 5 คน รวม ผู้ป่วยสะสมตั้งแต่เดือนเมษายน-16 มิถุนายน ทั้งหมด 310 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่รักษาหายดีแล้ว ไม่มีเสียชีวิต เมื่อเปรียบเทียบกับไข้หวัดที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล ตั้งแต่ต้นปีพบผู้ป่วยไข้หวัดตามฤดูกาล 5,607 คน ไม่มีเสียชีวิตและในระยะ 4-5 เดือนต่อไปนี้ จะเป็นฤดูการระบาดของไข้หวัดตามฤดูกาล ทำให้อาจพบผู้ป่วยเพิ่มร้อยละ 20-30

นายวิทยากล่าวว่า มีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หลายจังหวัด ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลตัวเลขผู้ป่วยแก่สื่อมวลชน สธ. จะให้ข้อมูลเผยแพร่ประชาสัมพันธ์วันละ 1 ครั้ง ทุกจังหวัดหากพบผู้ป่วยให้รายงานไปที่สำนักระบาดวิทยาก่อนทุกวันเพื่อให้ข้อมูลเป็นไปในทิศทางเดียวกัน หลังจากนั้นจังหวัดสามารถให้ข้อมูลสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์มาตรการการควบคุมโรค

อภิสิทธิ์สั่งห้ามปกปิดข้อมูลตัวเลขคนติดเชื้อ

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้สอบถามรัฐมนตรีในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถึงกระแสข่าวเรื่องการหยุดรายงานเรื่องตัวเลขผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งรัฐมนตรีแจ้งว่า ทุกอย่างยังปฏิบัติเหมือนเดิม เพียงแต่จะรายงานเฉพาะคนที่ได้รับการยืนยันจากห้องปฏิบัติการณ์ และยังทำเหมือนกับประเทศอื่นๆ เมื่อถามว่า การรายงานตัวเลขทุกวันทำให้เกิดการตื่นตระหนก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริง ก็คือข้อเท็จจริง การปกปิดไม่มีประโยชน์ แต่คนที่รับข่าวสาร ต้องรู้ว่าความหนักเบาของโรคเป็นอย่างไร

แจกสมุดปกเขียวแนะนำ1ล้านเล่ม

นายมานิตย์ นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขจะทำสมุดปกเขียว 1 ล้านเล่ม แจกให้กับประชาชนและโรงเรียนต่างๆ เพื่อแนะนำแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ จะดำเนินการได้ภายใน 1-2 วัน อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ เหมือน กับไข้หวัดตามฤดูกาลทั่วไป และการแพร่ระบาดจะอยู่ในกลุ่มนักเรียน โรงงาน สถานที่ทำงานหรือสถานบริการต่างๆ ก็ได้ให้แนวปฏิบัติตัวโดยเฉพาะผู้ป่วยขอให้ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อถึงผู้อื่น ส่วนมาตรการการป้องกันแต่ละโรงเรียนนั้นจะให้แต่ละโรงเรียนพิจารณา โดยให้เด็กป่วยอยู่บ้านเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด

คาดก.ค.ป่วยมากสุดพุ่งหลักพัน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ กรุงเทพฯ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานเปิดอบรมแพทย์พยาบาล เรื่อง แนวทางการ วินิจฉัย ดูแลรักษา การให้ยาต้านไวรัสผู้ป่วย กรณีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 มีแพทย์ พยาบาล จากโรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศร่วมประชุมกว่า 500 คน

ในที่ประชุม รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิระดับ 11 กรมการแพทย์ สธ.กล่าวว่า จากข้อมูลประวัติศาสตร์การเกิดโรคระบาดใหม่ทั่ีที่ผ่านมา พบว่าโรคระบาดใหม่ที่เกิดขึ้นในแถบยุโรป สหรัฐอเมริกานั้น เชื้อไวรัสจะแพร่เข้ามาทวีปเอเชียใช้เวลาประมาณ 1-1.5 เดือน และจะระบาดต่อเนื่อง 12-13 เดือน จึงจะเข้าสู่ภาวะปกติ จนประชาชนมีภูมิต้านทานโรคหรือมีการพัฒนายารักษา และวัคซีนป้องกันโรคได้ สอดคล้องกับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ที่ระบาดในเม็กซิโก สหรัฐ เมื่อปลายเดือนเมษายน จนถึงขณะนี้เป็นเวลา 1 เดือนเศษ เชื้อเข้าสู่ไทยโดยติดจากนักท่องเที่ยว จนทำให้เกิดการติดเชื้อภายในประเทศ แต่โรคนี้ไม่รุนแรง มีอัตราเสียชีวิตต่ำเพียงร้อยละ 0.5 และมีอาการป่วยคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ระบาดตามฤดูกาลที่มีอัตราการเสียชีวิต ร้อยละ 0.75-1

ไทยจะพบผู้ป่วยมากขึ้นตัวเลขไต่ระดับมากขึ้น คาดว่าในเดือนกรกฎาคมจะมีผู้ป่วยมากที่สุด มีความเป็นไปได้สูงที่จะพบผู้ป่วยนับพันรายและอาจพบผู้เสียชีวิตได้ เพราะตามข้อมูลวิชาการพบว่าทั่วโลกมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ประมาณ 500-1,000 คนต่อปี ซึ่งในผู้ป่วย 1,000 คน จะมีอาการหนักต้องรักษาในโรงพยาบาล 10 คน ในจำนวนนี้จะต้องมีผู้เสียชีวิต 1 คน แม้ว่าจะได้รับการรักษาดีเพียงใดก็ตาม ดังนั้น สธ.มีหน้าที่จะต้องควบคุมสถานการณ์ให้กระทบต่อชีวิต เศรษฐกิจและสังคมให้น้อยที่สุด ให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตน้อยที่สุด เพื่อให้ระบบสาธารณสุขรองรับการรักษาผู้ป่วยได้ รศ.(พิเศษ) นพ.ทวีกล่าว

ปชช.ตื่นตระหนกแห่ตรวจเชื้อทั้งที่ไม่เข้าข่าย ขอให้เลิกงบฯหมด

รศ.(พิเศษ) นพ.ทวีกล่าวว่าขณะนี้มีประชาชนตื่นตระหนกต่อการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ แห่ไปขอตรวจหาเชื้อไวรัสที่โรงพยาบาลต่างๆจำนวนมาก หากไม่เข้าข่ายดังกล่าว แพทย์จะไม่ตรวจเชื้อและไม่ให้ยาต้านไวรัส เพราะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทราบว่าป่วยไข้หวัดใหญ่ด้วยสายพันธุ์ไหน เนื่องจากการรักษาพยาบาลไม่มีความแตกต่างกัน เว้นแต่กลุ่มเสี่ยงที่อาจจะมีอาการรุนแรง ซึ่งการตรวจเชื้อแต่ละครั้งเสียค่าใช้จ่ายกว่า 3,000 บาท สถานการณ์ของโรคที่เป็นอยู่ปัจจุบันไม่จำเป็นต้องตรวจเชื้อทั้งหมด ขอให้ประชาชนเลิกแห่มาขอตรวจเชื้อที่โรงพยาบาล

ด้าน นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าได้รับรายงานจากสำนักระบาดวิทยาว่างบประมาณในการตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการที่ตั้งไว้ 2 ล้านบาทต่อปี หมดแล้ว เนื่องจากต้องใช้ในการส่งตรวจเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในห้องปฏิบัติการ ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งมีประชาชนขอให้ตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่เป็นจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายในการตรวจเชื้ออยู่ที่ประมาณ 4,000 บาทต่อราย เร็วๆ นี้จะหารือกับนายวิทยา เพื่อของบกลางเพิ่มเติม

อเมริกาตายสูงเพราะไม่ความร่วมมือรัฐ

ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ลีเชวงวงศ์ ประธานกรรมการทุนวิจัยวัณโรคดื้อยา ศิริราชมูลนิธิ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวในการแถลงข่าวการรณรงค์ใช้หน้ากากอนามัยในโรงพยาบาล เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจและโรคติดต่ออุบัติใหม่ต่างๆ ถึงสาเหตุสหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่จำนวนมากว่า เพราะประชาชนไม่ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ โดยไม่ใส่หน้ากากอนามัยขณะนี้มียอดผู้ป่วย 17,000 คน เสียชีวิต 45 คน แต่มีข้อดีที่ชาวสหรัฐฯล้างมือบ่อยขณะที่ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมการใส่หน้ากากแต่ไม่ล้างมือ จึงอยากให้ใช้ข้อดีของทั้ง 2 ประเทศมาปฏิบัติ อย่างไรก็ตามผู้ที่เป็นไข้หวัดใหญ่ 1 ล้านคน จะเสียชีวิตเพียง 200 คน ถือว่าอัตราการตายต่ำมาก ขณะที่ ผู้ป่วยวัณโรคหากป่วย 1 แสน คนจะเสียชีวิต 12,000 คน

นพ.สมชัย นิจพานิช รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคติดต่อทางเดินหายใจที่สำคัญของไทย ได้แก่ วัณโรค ปอดบวม และ โรคไข้หวัดใหญ่ สถานการณ์ปี 2551 มีผู้ป่วยวัณโรค 25,248 ชีวิต 134 คน โรคปอดบวม มีผู้ป่วยทั้งหมด 136,585 คน เสียชีวิต 957 คน และ ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 20,881 คน เสียชีวิต 2 คน ส่วนในปี 2552 ตั้งแต่ 1 มกราคม-9 มิถุนายน 2552 ได้รับรายงานผู้ป่วยวัณโรคแล้ว 11,675 คน เสียชีวิต 64 คน โรคปอดบวม 48,659 คน เสียชีวิต 398 คน และผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ปกติที่ระบาดตามฤดูกาล 5,607ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

"กษมาห่วงปิดร.ร.ไร้เหตุผล

ด้าน คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่าสถานศึกษาหยุดการเรียนการสอนเพื่อทำความสะอาด และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวม 19 แห่ง แต่รู้สึกเป็นห่วงว่าการปิดโรงเรียนไม่ค่อยสมเหตุสมผล บางโรงเรียนไม่มีเด็กติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 แต่ปิดเรียนเป็นอาทิตย์ เช่น โรงเรียนมัธยมวัดมกุฎกษัตริย์ โรงเรียนสตรีวิทยา 2 โรงเรียนจันทร์หุ่นบำเพ็ญ ทางโรงเรียนประกาศปิดเรียน แต่ยังไม่มีการยืนยันการติดเชื้อ มีเพียงนักเรียนป่วยเป็นไข้หวัดเท่านั้น ดังนั้นได้แจ้งไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพันที่การศึกษา (ผอ.สพท.) ให้ทำความเข้าใจกับทางโรงเรียนว่าไม่ควรปิดโรงเรียนโดยพลการ แต่ให้หารือกับทางสาธารณสุขก่อน เพราะบางครั้งไม่จำเป็นต้องปิดทั้งโรงเรียนหรือปิดเพียง 2-3 วันก็พอแล้ว

ขณะที่นายสมลักษณ์ จันทร์น้อย ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิต มศว. ปทุมวัน ได้มีประกาศแจ้งนักเรียนและผู้ปกครองทราบว่า โรงเรียนจะขอหยุดการเรียนการสอนเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 - 22 มิถุนายน เริ่มเรียนวันอังคารที่ 23 มิถุนายนเป็นต้นไป เพื่อทำความสะอาดโรงเรียนให้ปราศจากเชื้อโรคอันเป็นอันตรายต่อนักเรียนและครู

ทารกอาร์เจนฯ ตายรายแรก

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระบุว่า ผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 เสียชีวิตรายแรกในอังกฤษ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน เป็นผู้หญิงชาวสกอตแลนด์ วัย 38 ปี เสียชีวิต หลังจากให้คลอดบุตรคนที่ 2 เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ต่อมาเด็กทารกเพศชายคนดังกล่าวก็เสียชีวิตลงที่แผนกกุมารเวชในโรงพยาบาลรอยัล อเล็กซานเดอร์ ในเมืองเพรสลีย์ แคว้นสกอตแลนด์ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน แต่เด็กทารกไม่ได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่แต่อย่างใด แต่เสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อนอื่น

ข่าวระบุว่า ที่ประเทศอาร์เจนตินาผู้ติดเชื้อเสียชีวิตรายแรกเป็นเด็กทารกอายุ 3 เดือน และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 89 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 733 คน 4 คน ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โดย 3 คน มีชีวิตอยู่ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จะระบาดอย่างรวดเร็วในทวีปอเมริกาใต้ช่วงฤดูหนาวนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook