เงินยังคามือ! ตำรวจบุกจับแก๊งทวงหนี้ ไล่เก็บดอกเบี้ยโหด 300%

เงินยังคามือ! ตำรวจบุกจับแก๊งทวงหนี้ ไล่เก็บดอกเบี้ยโหด 300%

เงินยังคามือ! ตำรวจบุกจับแก๊งทวงหนี้ ไล่เก็บดอกเบี้ยโหด 300%
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจบุกจับแก๊งทวงหนี้ รีดไถ่เหยื่อหนัก พบดอกเบี้ยกว่า 300% เหยื่อแฉกู้ 20,000 ได้จริงแค่ 18,000 ส่งดอกเบี้ยไปแล้ว 2 เดือน หนี้ไม่หมดสักที

(22 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจศรีวิชัย ในบังคับบัญชาของ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ดักรอและเข้าจับกุมแก๊งทวงหนี้ บริเวณถนนหมู่บ้านเมืองทอง ตำบลปากนคร อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ระหว่างที่ลูกหนี้ได้จ่ายเงินแล้ว จึงจู่โจมเข้าควบคุมตัวทันที โดยพบว่าเป็นแก๊งทวงหนี้ที่เข้ามาเก็บดอกเบี้ยของเหยื่อที่หลงเชื่อกู้เงินแทนผู้ต้องหา 7 คน เป็นทีมที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมไปเมื่อ 3 วันก่อนหน้านี้

ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเข้าจับกุมนั้น ลูกหนี้ที่เป็นหญิงรายหนึ่งได้พยายามต่อรอง หลังจากถูกข่มขู่ เนื่องจากมีเงินไม่พอจ่ายหนี้วันละ 1,000 บาท ขณะที่ผู้ต้องหาได้บังคับให้ไปหาเงินเพิ่มมาจ่ายให้ครบ โดยรับเงินที่มีเอาไว้ก่อน หลังจากที่รับเงินเจ้าหน้าที่ได้เข้าคุมตัว พร้อมกับเงินที่ยังอยู่คามือ ขณะที่ลูกหนี้เจ้าหน้าที่ได้ถูกกันตัวเอาไว้เป็นพยาน

ส่วนผู้ต้องหาทั้งคู่คือ นายชาลี อายุ 35 ปี และ นายชัยพร อายุ 33 ปี พร้อมกับเงินของกลางที่ได้จากการเก็บดอกเบี้ยรวม 23,400 บาท พร้อมทั้งตรวจยึดรถกระบะ ซึ่งเป็นรถที่ใช้ในก่อเหตุ โดยทั้งคู่ถูกแจ้งข้อหา เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ตาม พรบ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา 2560

ขณะที่ผู้ต้องหาให้การว่า ได้พักอยู่ใน จ.สุราษฎร์ธานี นายทุนที่ปล่อยเงินกู้ก็อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยทุกวันจะออกมาเก็บเงินจากลูกหนี้เป็นรายทางในทุกอำเภอที่ขับรถผ่าน โดยได้นัดลูกหนี้ที่หมู่บ้านเมืองทองในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชก่อนซึ่งจะไปเก็บเงินรายวันอีกหลายราย ปรากฏว่ารายนี้เงินไม่พอจ่ายรายวันจึงได้บอกให้ไปหา จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่เข้ามาปิดล้อมจับกุมได้

นายอำพล สังข์ทอง หัวหน้าชุด ฉก.ศรีวิชัย เปิดเผยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งให้ปฏิบัติการปราบปรามหนี้นอกระบบ ที่ขูดรีดดอกเบี้ยชาวบ้านอย่างน่าตกใจมากกว่า 300 เปอร์เซ็นต์ ลูกหนี้รายหนึ่งได้ให้ข้อมูลว่าได้ตกลงกู้เงินมา 20,000 บาท จะโดนหักวัน 2,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าสัญญาและค่าอื่นๆ แต่ได้เงินมาจริง 18,000 บาทเท่านั้น

หลังจากนั้นต้องมีภาระผ่อนส่งเป็นรายวัน วันละ 1,000 บาท โดยผู้เสียหายรายนี้ได้ทำการส่งมาแล้ว 2 เดือน หรือ 60 วัน เป็นเงิน 60,000 บาท แต่ปรากฏว่ายังมีหนี้คงเหลืออีก โดยที่ส่งไปนั้นเป็นดอกเบี้ย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก

นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า ในการจับกุมของเจ้าหน้าที่ได้มีความพยายามวิ่งเต้นเพื่อเจรจาต่อรองกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชได้สั่งให้ดำเนินคดีทุกรายด้วยทุกข้อหาที่พบการกระทำความผิด และให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook