แยกวัดใจ รถเก๋งชนรถกระบะกลางสี่แยก ก่อนพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า

เมื่อเวลาประมาณ 3 นาฬิกา (15 พ.ค.2562) ที่ผ่านมา ร้อยตำรวจเอก สัญชัย  จงรักษ์ ร้อยเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองยโสธร ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถกระบะก่อนจะพลิกคว่ำและมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดคาอยู่ในรถ

โดยเหตุเกิดที่บริเวณสี่แยกบายพาสดอนมะยาง ตำบลตาดทอง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร จึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วยอาสาฯกู้ภัย ซึ่งในที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิรุ่นไทรทัลคันหมายเลขทะเบียน บธ-5516 ยโสธร

สภาพตอนท้ายรถมีร่องรอยเฉี่ยวชนและด้านข้างฝั่งซ้ายไปฟาดอัดติดอยู่กับเสาไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณหัวเกาะกลางสี่แยกจนทำให้รถได้รับความเสียหายยับเยินและมีคนขับทราบชื่อ นายอภิชาต  แก้วศิริ อายุ 46 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกแรงกระแทกจนหมดสติอยู่ในที่นั่งคนขับ

อาสาฯกู้ภัยต้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บออกจากซากรถแล้วนำตัวส่งไปรักษาอาการบาดเจ็บเบื้องต้นที่โรงพยาบาลยโสธรต่อไป ส่วนห่างออกไปประมาณ 10 เมตร ยังพบรถเก๋งคู่กรณียี่ห้อมิตซูบิชิรุ่นแอดทราดคันหมายเลขทะเบียน กฉ-659 ยโสธร

พลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้าและมีเศษชิ้นส่วนของรถกระจัดกระจายเต็มพื้นถนน โดยมี นายฤทธิชัย สุดแสน อายุ 26 ปี คนขับรถเก๋งซึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ

จากการสอบถาม นายฤทธิชัย  สุดแสน บอกว่า ตนกลับจากการไปต้อนรับนายในตัวเมืองยโสธรและกำลังจะเดินทางกลับบ้านที่บ้านสะเดา ตำบลตาดทอง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร โดยใช้เส้นทางถนนอรุณประเสริฐ จากทางโรงพยาบาลยโสธรมุ่งหน้าไปทางจังหวัดอำนาจเจริญ

แต่ในขณะที่ตนขับรถมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสี่แยกบายพาสดอนมะยาง ขณะนั้นสัญญาณไฟเป็นไฟกระพริบทั้ง 4 ด้าน ตนจึงขับรถผ่านสี่แยกอย่างรวดเร็วแต่ระหว่างนั้นได้มีรถกระบะคู่กรณีวิ่งมาตามถนนสายเลี่ยงเมืองจากทางฝั่งขวามือของตนผ่านสี่แยกเช่นกัน

จึงทำให้รถของตนพุ่งชนบริเวณตอนท้ายรถกระบะอย่างแรงจนทำให้รถกระบะเสียหลักและด้านข้างไปฟาดกับเสาไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณเกาะกลางสี่แยกจนทำให้คนขับรถกระบะได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ส่วนรถของตนก็เสียหลักพลิกคว่ำตีลังกาจนหงายท้องล้อชี้ฟ้าได้รับความเสียหายเช่นกัน แต่โชคดีที่ตนไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนคนขับรถทั้ง 2 คัน ให้ละเอียดอีกครั้งว่าใครผิดใครถูกก่อนจะได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินของทางราชการเสียหายต่อไป