สาวสะอื้น ถูกทอมลวงเข้าม่านรูดก่อนข่มขืนยับ พ่อรับไม่ได้หลังเห็นสภาพลูก

สาวสะอื้น ถูกทอมลวงเข้าม่านรูดก่อนข่มขืนยับ พ่อรับไม่ได้หลังเห็นสภาพลูก

สาวสะอื้น ถูกทอมลวงเข้าม่านรูดก่อนข่มขืนยับ พ่อรับไม่ได้หลังเห็นสภาพลูก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาววัย 18 ปี โร่แจ้งความถูกสาวทอมพาเข้าม่านรูดก่อนข่มขืนกระทำชำเรา พ่อสุดช้ำเห็นสภาพลูกสาว ลั่นจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

จากกรณี คุณพ่อรายหนึ่งได้มีการร้องเรียนผ่าน เพจทนายคู่ใจ คลายทุกข์ ของทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ว่าลูกสาวอายุ 18 ปี ถูกสาวทอมลวงไปยังม่านรูดก่อนทำการข่มขืนกระทำชำเราในพื้นที่ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ คืนวันที่ 12 เม.ย.ต่อเนื่องจนถึงเช้าวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา 

ล่าสุด (15 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ น.ส.เอ(นามสมมติ) ผู้เสียหาย กับผู้เป็นพ่อ ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งในซอย บางทอง ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต  โดย นส.เอ(นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ได้เปิดร่องรอยที่ต้นคอให้ดู พร้อมเล่าว่า ตนเองรู้จักกับสาวทอมคนดังกล่าวที่ทำงาน โดยตนเองนั้นทำงานเพียง 10 กว่าวัน เพิ่งสนิทกับคนในที่ทำงาน

วันเกิดเหตุสาวทอมได้นัดไปนั่งหน้าหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต โดยสาวทอมบอกว่ามีเพื่อนที่รู้จักอีกคนไปด้วย ในเวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่ง สาวทอมได้ขับรถมารับที่หน้าปากซอยทางเข้าบ้าน จึงขึ้นรถไปด้วย เมื่อไปถึงก็นั่งอยู่ที่หน้าหาดป่าตอง

จากนั้นประมาณตี 2 ครึ่ง ได้เข้าไปที่ผับบาร์แห่งหนึ่งในซอยบางลา ซึ่งขณะนั้นพบรุ่นพี่สมัยเรียนอยู่ในผับด้วย ก็ได้เข้าไปทักทายและเต้นด้วยกัน พอผับปิดก็เดินออกมาด้านหน้าร้าน หลังจากนั้นสาวทอมที่ไปด้วยก็เดินมากระชากแขน และบอกว่าคืนนี้ไปนอนกับพี่นะ

แต่ตนเองบอกว่าไม่ไป เพราะอยากกลับบ้าน อยากกลับไปเจอพ่อกับแม่ แต่สาวทอมพูดรับปากจะไม่ทำอะไรตน ตนเองจึงเชื่อใจยอมไปด้วย จากนั้นสาวทอมได้พาไปที่ม่านรูดแห่งหนึ่งใกล้ทางเข้าเขื่อนบางวาด ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไปประมาณ 3 กม. ซึ่งขณะนั้นตนเองไม่ทราบว่าเป็นห้องอะไร

สาวทอมได้ชักชวนให้เข้าไปในห้อง พร้อมยืนยันอีกครั้งว่าจะไม่ทำอะไร ตนเองจึงยอมเข้าไป ทันทีที่เข้าห้องสาวทอมได้ขืนใจตัวเอง ด้วยพยายามขึ้นคร่อมตัว และกอดจูบ ก่อนจะถอดเสื้อผ้า และมีการใช้นิ้วและปากล่วงละเมิด ซึ่งตนเองพยายามขัดขืนแต่ไม่เป็นผล สาวทอมยังพยายามทำไปเรื่อยๆ จนตัวเองเริ่มเจ็บตัว จึงบอกไปว่าขอให้หยุด แต่สาวทอมไม่หยุด

ตนเองจึงผลักและรีบหยิบเสื้อผ้าก่อนวิ่งรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ แต่สาวทอมรีบมากันประตูไว้ ตนเองจึงต้องแกล้งพูดจาดีเพื่อขอใส่เสื้อผ้า ก่อนจะมานั่งพูดจากกันดีๆ เมื่อใส่เสื้อผ้าได้ตนเองก็รีบเอาทรัพย์สิน ทั้งโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ ก็รีบวิ่งออกมาข้างนอกและรีบโทรให้พ่อมารับ ซึ่งระหว่างนั้นสาวทอมได้พยายามขับรถตามมาเพื่อที่จะง้อให้ขึ้นรถ แต่ตนเองไม่ยอมขึ้นรถไป 

ทั้งนี้ นิสัยส่วนตัวของสาวทอมคนดังกล่าว ก่อนหน้าที่ได้ร่วมงานนั้นเป็นคนนิสัยดี ขี้เล่น แต่ไม่ทราบว่าที่เป็นเช่นนั้นเพราะต้องการทำแบบนี้กับตนหรือไม่ ซึ่งวันนั้นสาวทอมและตนเองก็ดื่มแอลกอฮอล์ แต่ตนเองนั้นไม่ได้ดื่มจนเมามากและยังมีสติ และต้องการกลับบ้านไม่ได้ต้องการไปนอนกับสาวทอม 

อย่างไรก็ตาม อยากจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเนื่องจากตนเองไม่ได้ยินยอมหรือเต็มใจ หลังเกิดเหตุสาวทอมได้พยายามโทรมาขอโทษ และบอกว่ารักและอยากดูแลตนเอง แต่ตนปฏิเสธ และขอให้เลิกยุ่ง ซึ่งตอนนี้ตนเองได้ออกจากงานแล้วเพราะไม่อยากไปเจออะไรแบบนี้อีก ตนเองคิดว่าปัญหาทั้งหมดเกิดจากความไว้ใจ จึงอยากฝากถึงสังคมว่า ไม่ควรไว้ใจคนอื่นมากไป

ด้าน นายบี (นามสมมติ) ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่าจากเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นตนเองและภรรยา รู้สึกสงสารลูก เพราะจิตใจย่ำแย่ เครียด ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร แต่ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นหน้าสาวทอมคนดังกล่าว

ก่อนเกิดเหตุในวันที่ 12 เม.ย. ตนเองนั้นได้ไปส่งน้องเอที่ทำงานและประมาณเที่ยงคืนก็ไปรับกลับบ้าน ซึ่งรอหน้าที่ทำงานประมาณ 10 – 15 นาทีก็รับกลับ ก็ถามกันปกติว่า เหนื่อยไหมเป็นไงบ้าง ก่อนจะแยกย้ายกันเข้านอน ก็ไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

กระทั่งมาทราบช่วงดึกว่าลูกสาวหายไป จากนั้นก็ไปหาที่ทำงานอีกครั้งแต่ก็ไม่มี กระทั่งตี 3 น้องเอโทรมาบอกว่าไม่เป็นไร อยู่กับเพื่อนที่ป่าตอง จึงสบายใจว่าอีกประเดี๋ยวลูกคงกลับ ต่อมาในเวลาประมาณ 09.00 น.ของวันที่ 13 เม.ย. น้องเอโทรมาบอกว่าให้ไปรับ ตนเองจึงรีบขับรถจยย.ไปรับ

เห็นน้องเอครั้งแรก พบว่าน้องมีสภาพอิดโรย ไม่มีเรี่ยวแรง ขึ้นคร่อมจยย.แทบไม่ไหว ก่อนจะกอดเอวแน่น ตนเองคิดแล้วว่าต้องเกิดอะไรขึ้นบางอย่าง แต่ไม่ได้ถามก่อนรีบพากลับบ้านและคิดว่าให้ภรรยาเป็นคนคุย ก่อนจะทราบความจริง ซึ่งขณะนี้ตนเองอยากดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ถึงแม้ว่าคนทำจะเป็นสาวทอม แต่เมื่อรังแกลูกของตน ตนเองก็รับไม่ได้ 

โดยเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (14 เม.ย.) ตนและลูกสาวได้เดินทางไปพบ ร.ต.อ.นิพนธ์ เต็มสังข์ รองสารวัตร(สอบสวน).สภ.กะทู้ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับสาวทอมรายดังกล่าวแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำก่อนทำการบันทึกถ้อยคำ

ก่อนทำหนังสือส่งตัวเพื่อให้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะรอผลการตรวจร่างกายจากแพทย์อย่างเป็นทางการ ก่อนจะออกหมายเรียกคู่กรณีมาสอบปากคำ หากพบว่ากระทำผิดจริงก็จะแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ พ.ต.อ.จักรวรรดิ์  บุญทวีกุลสวัสดิ์ ผกก.สภ.กะทู้ กล่าวว่าคดีนี้ หลังจากที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ตนเองได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเรียกตัวสาวทอมมาสอบสวน รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หากผลการสอบสวนเป็นอย่างไรก็จะดำเนินการไปตามรูปคดี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ จะดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook