สาวเตือนภัยสายบุพเฟต์ เจอพิษ "แมงดาถ้วย" เกือบตาย แชทเถียงกับร้านไฟลุก!

แฟ้มภาพ

สมาชิกเฟซบุ๊ก Yadpirun Pikul ได้โพสต์เตือนภัย หลังจากไปกินอาหารบุพเฟต์ร้านใกล้มหาวิทยาลัย เพื่อนของตนกินแมงดาทะเลไป 2 ช้อน หลังจากนั้นก็มีอาการแน่น และเริ่มหายใจไม่สะดวก ลิ้นชา แขนชา จึงมีการแชทถามร้านว่า แมงดาที่อยู่ในร้านเป็นแมงดาประเภทใด และได้รับคำตอบว่าเป็น แมงดาถ้วย โดยเป็นแมงดาที่ได้รับการเตือนว่า จะเกิดพิษได้ในช่วงหน้าร้อน 

"ช่วยกันแชร์หน่อยและเตือนทุกคนด้วย ร้านนี้อยู่ใกล้มหาลัยเรามาก เมื่อวานเราไปกินบุฟเฟ่ต์กับเพื่อน ซึ่งเป็นการกินครั้งที่ 2 ในรอบครึ่งเดือน เราประทับใจในความสดของอาหารและบริการ แต่เมื่อวานเป็นจุดเปลี่ยนของเราและเพื่อนที่จะไม่กลับไปที่ร้านนี้อีกเป็นอันขาด

เพื่อนเราอยากลองกินไข่แมงดาทะเล จึงนำมาย่าง 1 ตัว และตักกินไปเพียง 2 ช้อน ซึ่งกินเสร็จเวลาประมาณ 2 ทุ่ม หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที เพื่อนเรามีอาการแน่น คิดว่าเกิดจากการกินเยอะเกินไป จึงได้ซื้อยาแอร์เอ็กซ์มารับประทาน จากนั้นเรานั่ง bts จากสยามมาลงหมอชิต เพื่อนเกิดอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวก และผ่านไปอีกซักพักเกิดอาการชาที่ลิ้นและแขน เพื่อนเราเริ่มคิดและหาสาเหตุ ซึ่งน่าจะเกิดจากไข่แมงดาทะเลที่กินเข้าไป

จึงทักไปถามทางร้านว่าใช้แมงดาชนิดใด ซึ่งได้คำตอบว่าใช้แมงดาชนิด ”ถ้วย” ซึ่งมันเป็นแมงดาที่ไม่สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย 100% แมงดาชนิดนี้มีพิษในตัว ซึ่งทางร้านได้ใช้คำพูดไม่สุภาพ ไม่แสดงความรับผิดชอบ บอกว่าเพื่อนเราแพ้อาหารทะเล แพ้กุ้งแพ้ปู พูดจาท้าทาย ประชดประชัน ว่าจะไปรู้ได้ไง ว่าใครจะแพ้ไม่แพ้อะไร ทำไมลูกค้าไม่สอบถามพนักงานเอง แย่แค่ไหนดูเอา ซึ่งจริงๆแล้วการที่เพื่อนเรามีอาการแน่นหน้าอกหายใจติดขัด ลิ้นชา แขนชา มันเกิดจากการ”ได้รับสารพิษ”จากไข่ของแมงดา ไม่ได้เกิดจากการ”แพ้อาหาร”

จากเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อนเราโชคดีที่กินเข้าไปแค่ 2 คำ เราขอเอาเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้ทุกคนระมัดระวังในการรับประทานแมงดาทะเล ถ้าไม่มั่นใจว่าเป็นชนิดไหน ไม่ควรรับประทาน (ที่ร้านตัดหางออก) เพราะเราไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่จะเจอร้านอาหารที่ไร้ความรับผิดชอบแบบนี้

ปล.เราได้รับการตอบกลับที่ไร้มารยาทและไม่มีความรับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น ก่อนสุดท้ายมีคนทักมาตามข้อความ"

สำหรับ  แมงดาทะเล ในประเทศไทยมีอยู่ 2 ชนิด คือ แมงดาถ้วย หรือ แมงดาไฟ หรือเห-รา (Carcinoscorpius rotundicauda ) เป็นแมงดาทะเลที่มีพิษจากสาร Tetrodotoxin เตตราโดท็อกซิน และ แมงดาจาน (Tachypleus gigas) ซึ่งเป็นแมงดาทะเลที่ไม่มีพิษ และชาวบ้านนำมาทำเป็นอาหารได้ โดยทั่วไป แมงดาถ้วย ตัวจะเล็กกว่า หางจะกลมและเรียบ ส่วนแมงดาจาน ตัวจะโตกว่า หางจะเป็นสามเหลี่ยม มุมด้านบนของสามเหลี่ยมจะเป็นรอยหยักชัดเจน

พิษจากการรับประทานไข่แมงดาทะเลนั้น จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการชาตามปาก แขนขา แล้วตามด้วยอาการอัมพาต หรืออาจเสียชีวิตจากการหยุดหายใจเนื่องจากกล้ามเนื้อหายใจไม่ทำงาน เพราะสารพิษ Tetrodotoxin หรือ Saxitoxin จะยับยั้งการทำงานของ Sodium Channel ในกล้ามเนื้อโดยตรง

ก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้เตือนประชาชนระวังการกินไข่แมงดาถ้วยหรือเห-ราช่วงหน้าร้อน เนื่องจากมีพิษรุนแรงเหมือนพิษปลาปักเป้า ความร้อนทำลายพิษไม่ได้ แนะหากมีอาการลิ้นชา ชารอบปาก อาเจียน หน้ามืด ให้รีบพบแพทย์

ศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี ระบุข้อมูลการทดสอบความเป็นพิษเบื้องต้น พบว่า แมงดาถ้วยที่พบในประเทศไทย บางตัวมีพิษ บางตัวไม่มีพิษ โดยทั่วไปพบว่ามีพิษประมาณ 30% แต่ไม่สามารถแยกตัวที่มีพิษกับตัวที่ไม่มีพิษจากลักษณะภายนอกได้ จากการสอบถามผู้ป่วย ส่วนใหญ่รับประทานแมงดาถ้วย สาเหตุที่รับประทานแมงดาถ้วย

>> เตือน! อย่ากินไข่แมงดาถ้วย (เห-รา) พิษแรงถึงขั้นเสียชีวิต