สาวไทยวัย 23 ปี มีดแทงอกฆ่าตัวตายที่ฮ่องกง ประวัติเคยถูกส่งตัวกลับ-ติดคุกมาเลย์

เมื่อวานนี้ (5 เม.ย. 62) เวลาประมาณ 16.00 น. ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งบนถนน Tung Choi ในย่านมงก๊ก ได้มีสาวไทยอายุ 23 ปี ได้เข้าไปในร้านอาหารและได้หยิบมีดแล่ปลาเพื่อพยายามฆ่าตัวตาย โดยพนักงานในร้านได้พยายามห้ามปราม และพยายามวิ่งตามไปในซอยแต่ไม่ทัน พบอีกทีคือหญิงคนดังกล่าวใช้มีดแทงเข้าที่หน้าอกด้านซ้าย

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก็พบว่าเธอเสียชีวิตแล้ว จากการตรวจหลักฐานเบื้องต้น พบเพียงหนังสือเดินทางไทยที่ระบุว่าเธอเพิ่งเข้ามาฮ่องกงเมื่อเร็วๆ นี้ และไม่พบจดหมายหรือโน้ตใดๆ ที่เกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงกำลังทำการสืบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตต่อไป

จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กของผู้เสียชีวิต พบว่า เจ้าตัวโพสต์ข้อความและเช็คอินสถานที่ที่สนามบินฮ่องกงเมื่อ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า "ถึงแล้วหลังจากเคยโดนส่งกลับไทยมาเดือนพ.ย ที่ผ่านมาเราก็ได้เข้ามาอีกครั้ง5555 ผ่านสำเร็จไปด้วยดี" และยังเคยระบุในเฟซบุ๊กด้วยว่า 3 ปีที่แล้ว เคยติดคุก 4 วัน ระหว่างไปทำงานที่มาเลเซีย

ทั้งนี้ พบว่า เพื่อนของผู้เสียชีวิต ได้โพสต์ระดมทุนขอความช่วยเหลือเพื่อนำศพกลับไทย ข้อความระบุว่า...

"เพื่อนรัก เสียชีวิตที่ฮ่องกง โดนมีดเสียบหน้าอกศพอยู่ตรงตรกซอยถนนน่าสงสารมากไม่มีผู้พบเห็น ส่งโรงพยาบาลช้าเพื่อนทนพิษบาทแผลไม่ไหวและได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล เพื่อนเสียชีวิตที่ต่างแดนเป็นอะไรที่หดหู่ใจมากๆอยากนำศพเพื่อนกลับมาทำพิธีที่ไทยแต่ต้องใช้ทุนสูงมาก 600,000 บาท หรือถ้าใครมีช่องทางการส่งศพที่ราคาต่ำกว่านี้ช่วยบอกช่องทางทีนะคะ อยากขอความช่วยเหลือจากสถานทูตไทยและเพื่อนๆทุกคนระดมทุนช่วยๆกันเพื่อนำศพเพื่อนกับมาทำพิธีบ้านให้ครอบครัวและลูกได้เห็นหน้าแม่เป็นครั้งสุดท้ายเรา ขอความเมตตาทุกคนเห็นใจถือว่าทำบุญแก่ศพเพื่อนมนุษย์คนนึงได้กลับบ้านเกิดด้วยนะคะ เงินทุกบาททุกสตางค์จะนำไปช่วยศพเพื่อนให้ได้กลับมาบ้านเกิด" 

นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า หญิงสาวที่เสียชีวิตนั้นทำงานหาเลี้ยงครอบครัวเพียงลำพัง และมีลูกสาว 1 คน หากนำศพกลับไม่ทัน วันอังคาร (9 เม.ย.62) อาจต้องเดินทางไปทำศพที่ฮ่องกง 

อย่างไรก็ตาม ในโลกโซเชียลมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเข้าไปทำงานในฮ่องกงอย่างไม่ขาวสะอาดของหญิงสาวคนดังกล่าว แต่ในขณะเดียวกัน หลายคนก็แสดงความเห็นใจครอบครัวที่อยู่ข้างหลัง พร้อมระบุว่าเงินบริจาคนั้นให้ด้วยความเต็มใจ และหวังอยากให้ผู้ตายได้กลับแผ่นดินเกิดในวาระสุดท้าย