จำคุกตลอดชีวิต โจ๋ฆ่าสองยายหลาน ญาติผู้สูญเสียโล่งไม่อยากให้ประหาร

จำคุกตลอดชีวิต โจ๋ฆ่าสองยายหลาน ญาติผู้สูญเสียโล่งไม่อยากให้ประหาร

จำคุกตลอดชีวิต โจ๋ฆ่าสองยายหลาน ญาติผู้สูญเสียโล่งไม่อยากให้ประหาร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีมีคนร้ายก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ นางสนม อายุ 56 ปี กับ ด.ช.อรรถโกวิทย์ อายุ 11 ขวบ เหตุเกิดที่บ้านพัก หมู่ 3 ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ หลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องไปด้วย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 ก.ค.2561 ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาคือ นายวัชรพล หรือ โฟร์ อายุ 20 ปี

ล่าสุด (28 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 3 ศาลจังหวัดหล่มสัก ผู้พิพากษาได้ออกพิจารณาคดีดังกล่าว โดยมี นางพรพภา ซึ่งเป็นลูกสาวของนางสนม และเป็นแม่ของ ด.ช.อรรถโกวิทย์ ในฐานะโจทก์ร่วม พร้อมด้วย น้องสาวและน้องชายเข้าร่วมฟังคำพิพากษา โดยมีตัวแทนญาติของฝ่ายจำเลยเข้าร่วมฟังด้วย 1 คน

ทั้งนี้ ศาลได้พิจารณาและพิพากษาให้ประหารชีวิต นายวัชรพล หรือ โฟร์ แต่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต พร้อมทั้งชดเชยค่าเสียหายให้แก่โจทก์เป็นจำนวนเงินกว่า 600,000 บาท

ด้าน นางพรพภา ลูกสาวของนางสนม และเป็นแม่ของ ด.ช.อรรถโกวิทย์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ต้องขอขอบคุณศาลที่ได้ลงโทษผู้ที่ฆ่าแม่และลูกชายของตนเองให้ประหารชีวิต และการที่ศาลได้ลดโทษให้จำคุกตลอดชีวิต ตนก็เห็นว่าเป็นการสมควรแล้วที่ผู้ก่อเหตุจะต้องได้ชดใช้กรรมในเรือนจำต่อไป ซึ่งถ้าหากดวงวิญญาณแม่รับรู้ได้ก็คงไม่อยากให้มีการประหารชีวิต เพราะจะเป็นเวรกรรมต่อกันไปในชาติหน้า

>> บุกบ้านม่ายสาวใหญ่หน้าตาดี หลานชายโดดช่วยถูกฆ่าดับคู่ เหลือหลานสาวรอด

>> รวบแล้ว คนร้ายฆ่าโหด 2 ยายหลานคาบ้าน อ้างหวังแค่ทรัพย์แต่เหยื่อตื่นมาเจอ

>> ทำแผนฆ่าโหดยายหลาน หวิดถูกรุมประชาทัณฑ์ ลูกชายเหยื่อลั่น "อย่าคิดว่าลุงมึงใหญ่"

คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ก.ค.2561 ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้คือ นายวัชรพล หรือ โฟร์ อายุ 20 ปี ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนก่อเหตุช่วงบ่ายวันที่ 24 ก.ค.2561 ตนได้ไปหาเพื่อนรุ่นพี่ที่ตลาดขายส่งผักสี่แยกพ่อขุนผาเมือง หลังจากนั้นจึงได้ร่วมกันเสพยาบ้าด้วยกัน

จนกระทั่งค่ำได้ขอยืมรถจักรยานพร้อมไขควงของเพื่อนรุ่นพี่ เพื่อจะนำไปซ่อมรถจักรยานยนต์ของตนเองที่จอดเสียอยู่ที่บ้านพัก จากนั้นจึงปั่นจักรยานผ่านมาที่หน้าบ้านนางสนมและเห็นว่าไม่มีคนอยู่ กระทั่งดึกจึงเดินขึ้นไปบนบ้านโดยใช้ไขควงงัดขอบอลูมีเนียม และถอดกระจกข้างประตูหน้าบ้านปลดล๊อกกลอนประตู

จากนั้นเข้าไปในบ้านเพื่อขโมยทรัพย์สิน ขณะค้นหาทรัพย์สินอยู่นั้น นางสนม ตื่นขึ้นมาเปิดไฟพอดี โดยนางสนมได้ตะโกนถามว่าเข้ามาในบ้านทำไม ตนจึงกระโดดเข้าไปใช้มือปิดปากนางสนมเอาไว้ไม่ให้ตะโกน แต่ก็ถูกนางสนมกัดมือจนเป็นรอยแผลที่ในฝ่ามือขวา

ขณะเดียวกัน ด.ช.อรรถโกวิทย์ ที่นอนอยู่ในห้องนอนได้ยินเสียงต่อสู้กัน จึงตื่นและวิ่งไปนำมีดมาถือไว้ในมือ พร้อมใช้เก้าอี้พลาสติกฟาดใส่ตนจนเก้าอี้หัก ตนจึงหันไปแย่งมีดจาก ด.ช.อรรถโกวิทย์ เมื่อแย่งมีดได้จึงกระหน่ำฟันและแทงจน ด.ช.อรรถโกวิทย์ ล้มลง ส่วนนางสนมได้ดึงกระชากผมของตนเองจากด้านหลัง

แต่เมื่อเห็นหลานชายถูกแทงจนล้มฟุบ จึงวิ่งไปที่หน้าบ้านเพื่อจะเปิดประตูเรียกคนช่วย ตนจึงตามไปจ้วงแทงนางสนมแบบไม่ยั้งมือ เพื่อเป็นการฆ่าปิดปาก เนื่องจากนางสนมและหลานชายรู้จักตนเองเป็นอย่างดี หลังจากนางสนมล้มฟุบลง ตนจึงคว้าสร้อยคอจากคอนางสนม และหยิบโทรศัพท์มือถือของเด็กชายอรรถโกวิทย์ติดมือไปด้วย

ก่อนกระโดดหนีทางหน้าต่างหลังบ้าน และขี่จักรยานหลบหนีข้ามลำคลอง แต่น้ำเชี่ยวทำให้จักรยาน,สร้อยคอทองคำและโทรศัพท์มือถือจมน้ำหายไป ภายหลังหนีกลับเข้าไปบ้านและทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ดังกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook