ผอ.โรงเรียนดังกาฬสินธุ์ ยอมรับค้างหนี้ 15 ล้านจริง แต่จ่ายได้แค่ปีละล้าน

ผอ.โรงเรียนดังกาฬสินธุ์ ยอมรับค้างหนี้ 15 ล้านจริง แต่จ่ายได้แค่ปีละล้าน

ผอ.โรงเรียนดังกาฬสินธุ์ ยอมรับค้างหนี้ 15 ล้านจริง แต่จ่ายได้แค่ปีละล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผอ.โรงเรียนดังที่กาฬสินธุ์เปิดใจยอมรับตรงๆ ติดหนี้บรรดาผู้รับเหมาและยายแก้ว รวมเป็นเงินกว่า 15 ล้านจริง แต่เบิกจ่ายได้แค่ปีละล้าน ทำให้ต้องประนอมหนี้ไปทุกปี

จากกรณี นางวิจิตรา หรือ ยายแก้ว อายุ 51 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้าง ชาวกาฬสินธุ์ นำป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ซึ่งมีข้อความคล้ายกับเป็นการทวงหนี้ระบุว่า “ผอ.สั่งทำงาน งานเสร็จ ไม่มีเงินจ่าย ใครจะรับผิดชอบ” และ “ผอ.เห็นพวกเราเป็นคนไหม สงสารพวกเราบ้างหรือเปล่า” มาติดไว้บนสะพานลอยใจกลางเมืองกาฬสินธุ์

โดยหลังจากก่อสร้างปรับปรุงโรงเรียนแล้วเสร็จหลายโครงการ เวลาผ่านมานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ทางโรงเรียนกลับไม่ยอมจ่ายเงินจำนวน 5,200,000 บาท ทำให้ครอบครัวเป็นหนี้สิน ที่นาก็ถูกยึดไม่มีเงินจ่ายค่าแรงคนงานด้วย ตามข่าวที่รายงานไปแล้วนั้น

ล่าสุดในวันนี้ (28 ก.พ.) นายเอกรัฐ สารปัง ผอ.โรงเรียนกมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปัญหาหนี้สะสมที่มียอดสูงของโรงเรียนกมลาไสย เกิดขึ้นในช่วงปี 2558-2559 โดยมียอดหนี้ทั้งหมด 15,173,603 บาท ซึ่งเป็นหนี้ผู้รับเหมารวมทั้งบริษัทห้างร้านต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 20 ราย

แยกเป็น ค่าเช่าคอมพิวเตอร์ จำนวน 4,721,410 บาท และหนี้การจัดซื้อจัดจ้าง 10,452,193 บาท ซึ่งทางโรงเรียนได้ใช้หนี้ไปแล้วส่วนหนึ่ง โดยเป็นการใช้หนี้ค่าเช่าคอมพิวเตอร์ 3,964,653 บาท ปัจจุบันหนี้ค่าเช่าคอมฯเหลืออยู่ประมาณ 750,000 บาท

>> อดีต ผอ.โดนติดป้ายทวงหนี้กลางถนน ออกโรงแจงไม่เคยเบี้ยวเงิน "ยายแก้ว"

ซึ่งหลังจากที่ตนมารับตำแหน่งในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2559 ก็ได้หนี้การจัดซื้อจัดจ้าง ตั้งแต่ปี 2559-2561 รวมประมาณ 2,400,000 บาท เฉลี่ยประมาณปีละ 1,000,000 บาท โดยวิธีการจ่ายจัดสัดส่วนแบ่งเงินใช้หนี้ให้กับผู้รับเหมาและห้างร้านต่างๆ เท่ากัน ทำให้ทางโรงเรียนเหลือหนี้อยู่รวมทั้งหมดจำนวน 8,764,295 บาท

และในปี 2562 นี้ ทางโรงเรียนจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับคณะกรรมการสถานศึกษาเพื่อที่จะใช้เงินใช้หนี้จากปีละ 1 ล้านบาท เป็น 1.5 ล้านบาท ซึ่งวิธีการก็จะแบ่งเฉลี่ยจัดสัดส่วนเท่ากันเช่นเดิม

นายเอกรัฐ กล่าวต่ออีกว่า ปัจจุบันโรงเรียนกมลาไสยนั้นได้รับการจัดสรรรถประมาณปีละ 8,000,000 บาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวทางโรงเรียนจะต้องนำไปพัฒนาการเรียนการสอนให้สูงขึ้นอย่างเต็มศักยภาพเป็นหลัก รวมทั้งการจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ซึ่งหากเงินเหลือจึงจะสามารถนำมาใช้หนี้ที่เหลือค้างอยู่ได้ เพื่อไม่ให้กระทบการเรียนการสอนและการพัฒนาเด็กนักเรียนที่มีอยู่ปัจจุบันกว่า 2,200 คน

สำหรับกรณีของยายแก้วผู้รับเหมาที่ทางโรงเรียนเป็นหนี้อยู่นั้น ซึ่งทางยายแก้ว ถือเป็นผู้รับเหมาที่ทำงานก่อสร้างให้กับโรงเรียนกมลาไสยมาหลายปี โดยมีหนี้ในช่วงปี 2558-2559 ก่อนที่ตนมารับตำแหน่งจำนวน 38 รายการ เป็นเงินทั้งหมด 5,616,625 บาท ปัจจุบันทางโรงเรียนได้ใช้หนี้ให้กับยายแก้วไปแล้วประมาณ 3 แสนกว่าบาท

รวมทั้งได้ดำเนินการเยียวยาโดยให้ยายแก้วเข้ามาทำงานรับเหมาซ่อมแซมและก่อสร้างในปี 2561 ที่ผ่านมา งบประมาณ 576,705 บาท ซึ่งรวมกับการที่โรงเรียนใช้หนี้เป็น 917,705 บาท ทำให้ขณะนี้ทางโรงเรียนเป็นหนี้กับยายแก้วเหลือ 4,698,920 บาท

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมายายแก้วได้เข้ามาพบตนและติดตามเรื่องหลายครั้งมีบางครั้งนั่งร้องไห้ ซึ่งตนก็รู้สึกเห็นใจดังนั้นทางโรงเรียนเตรียมที่จะขอความอนุเคราะห์ไปทางศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ สพม.24 เจ้าหน้าที่ทหาร คณะกรรมสถานศึกษา และฝ่ายปกครอง เพื่อเป็นตัวกลางที่จะเชิญผู้รับเหมาและห้างร้านต่างๆรวมถึงตัวยายแก้วเข้ามาเจรจาหาทางออกร่วมกันในเร็ว ๆนี้

ทางด้าน นางวิจิตรา บุญรัตน์ หรือยายแก้ว กล่าวว่า ยืนยันว่าทางโรงเรียนเป็นหนี้ค่าก่อสร้างตนในช่วงปี 2558-2559 ในช่วง ผอ.คนเก่า ดำรงตำแหน่งอยู่ ไม่ต่ำกว่า 5.2 ล้านบาท และจนถึงปัจจุบันเวลาล่วงเลยผ่านมานานกว่า 3 ปีแล้ว ตนได้รับเงินใช้หนี้มาเพียง 3 แสนกว่าบาท จากยอดหนี้ 5 ล้านกว่าบาท

โดยการใช้หนี้ที่ทาง ผอ.โรงเรียน สามารถจัดสรรจำนวน 1 ล้านบาทต่อปีนั้น ก็ต้องหารเฉลี่ยกันของผู้รับเหมาและห้างร้านทั้งหมดที่มีอยู่กว่า 10 ราย ทั้งนี้หากทาง นายเอกรัฐ ผอ.คนปัจจุบัน บอกว่าโรงเรียนเหลือหนี้อยู่ประมาณ 8 ล้านบาท จากทั้งหมดที่เคยเป็นหนี้ 15 ล้านบาทนั้น ก็เท่ากับว่าครึ่งหนึ่งของยอดหนี้ทั้งหมดเป็นเงินของตนที่โรงเรียนค้างอยู่ เพราะปัจจุบันทางโรงเรียนเป็นหนี้ตนอยู่ 4,698,920 บาท

ดังนั้นจึงอยากให้ ผอ.ทั้งอดีตและปัจจุบัน ซึ่งคนหนึ่งเป็นคนว่าจ้างให้ทำงานในตอนบริหาร และอีกคนในฐานะ ผอ.ปัจจุบัน ที่มีอำนาจในการจ่ายเงิน มาหันหน้านั่งคุยปรึกษาหารือกันร่วมกับผู้รับเหมาทุกคนเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ เพราะช่วงนี้สิ้นเดือนแล้วตนต้องนำเงินไปจ่ายดอกเบี้ยที่นำบ้านที่นาไปจำนอง รวมทั้งค่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งตอนนี้ไม่มีเงินไปจ่ายเขา

ตนอยากขอความเห็นใจกับ ผอ.ทั้งสองคนด้วย รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นและให้มีความเป็นธรรมในการจ่ายหนี้ เพื่อให้พอที่จะมีเงินไปใช้หนี้และหมุนเวียนซื้อของ เพราะไม่ใช่ความเดือดร้อนเพียงตนคนเดียว ยังรวมถึงคนงาน และบริษัทห้างร้านอื่นๆ ด้วย

>> เปิดใจทั้งน้ำตา "หญิงรับเหมา" เจ้าของป้ายทวงหนี้ "ผอ." อ้างถูกเบี้ยวค่าจ้าง 5 ล้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook