เลือกตั้ง 2562: "สุดารัตน์" ยังหวัง "บิ๊กตู่" มาร่วมดีเบต-ให้กำลังใจ "ธนาธร" สู้คดี

เลือกตั้ง 2562: "สุดารัตน์" ยังหวัง "บิ๊กตู่" มาร่วมดีเบต-ให้กำลังใจ "ธนาธร" สู้คดี

เลือกตั้ง 2562: "สุดารัตน์" ยังหวัง "บิ๊กตู่" มาร่วมดีเบต-ให้กำลังใจ "ธนาธร" สู้คดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"สุดารัตน์" ไม่สนใจ พลังประชารัฐ ขอ กกต. ให้ "พล.อ.ประยุทธ์" ช่วยหาเสียง รับอยากให้ร่วมดีเบตกับแคนดิเดตนายกฯ พร้อมให้กำลังใจ "ธนาธร" บอกให้อดทนใช้ความจริงในการต่อสู้คดี

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงช่วย นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขต 13 บางกะปิ-วังทองหลาง (เฉพาะแขวงพลับพลา) บริเวณชุมชนมัสยิดหัวหมากน้อย ถนนรามคำแหง 68 และสุเหร่าลำสาลี ถนนกระเทพกรีฑา เขตบางกะปิ โดยได้พบกับผู้นำชุมชน ประชาชน และชาวมุสลิมในพื้นที่

พร้อมกล่าวถึงนโยบายการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่จะเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนลงคะแนนเสียงให้กับพรรคว่า พรรคมีนโยบาย 5 ด้านในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เน้นไปที่ประชาชนฐานราก ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ การช่วยเหลือเอสเอ็มอี การเพิ่มช่องทางการตลาด การสร้างรายได้ การแก้ไขข้อจำกัดกฎระเบียบที่เกี่ยวเนื่องกับการลงทุนลดอัตราภาษี และการประกอบธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพ และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ

ส่วนกรณีที่ กกต. อนุญาตให้ผู้นำท้องถิ่นสามารถลงพื้นที่หาเสียงร่วมกับผู้สมัครได้ คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ในหลักการและสิ่งที่ปฏิบัติมาในอดีต ผู้นำท้องถิ่นสามารถช่วยผู้สมัครหาเสียงได้อยู่แล้ว แต่เมื่อ กกต. มีคำสั่งห้าม และพบว่า มีผู้นำท้องถิ่นซึ่งเคยถูกมาตรา 44 ให้ยุติการปฎิบัติหน้าที่ไปช่วยผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐหาเสียงจากนั้น กกต. จึงอนุญาตให้ผู้นำท้องถิ่นช่วยผู้สมัครหาเสียงได้ จึงอยากตั้งคำถามและตั้งข้อสังเกตถึงบรรทัดฐาน และหลักการทำงานของ กกต.

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ จะยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐ สามารถลงพื้นที่หาเสียงได้นั้น เห็นว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ สวมหมวกถึง 3 ใบ ซึ่งที่ผ่านมาก็ลงพื้นที่พบปะประชาชนในนามนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด ซึ่งทุกคนก็ทราบดีว่าการลงพื้นที่ลักษณะนี้มีพฤติกรรมต่อการหวังคะแนนเสียงของพรรคการเมืองบางพรรค

ดังนั้น ตนเองจึงไม่รู้สึกแปลกใจหรือตกใจ หากพรรคพลังประชารัฐจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่หาเสียง แต่สิ่งที่ตนเองต้องการคือเรียกร้องไปยัง กกต. คือให้ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถร่วมเวทีดีเบตแสดงวิสัยทัศน์ กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองอื่นให้ได้ เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์จากผู้ที่จะมาบริหารประเทศในอนาคต

เพราะที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ มักอ้างเสมอว่าไม่สามารถมาร่วมได้ เนื่องจากกฎหมายห้ามไว้ แต่ตนเองเห็นว่าเมื่อกฎหมายในการหาเสียงให้ใช้รูป พล.อ.ประยุทธ์ ในการหาเสียงได้ ก็ต้องให้ พล.อ.ประยุทธ์มาร่วมเวทีดีเบตได้

ส่วนกรณีพรรคอนาคตใหม่จะถูกดำเนินคดีกรณีวิพากษ์วิจารณ์ คสช. นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ทุกพรรคเตรียมใจว่าจะต้องรับมือกับอำนาจรัฐ และกลไกที่ไม่ถูกต้องมาข่มขู่คุกคามอยู่แล้ว ดังนั้น จึงอยากให้กำลังใจ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และพรรคอนาคตใหม่ ขอให้อดทน และใช้ความจริงในการต่อสู้ ซึ่งหวังว่าจะได้รับความยุติธรรม และอยากฝากไปยังผู้มีอำนาจว่าสังคมไทยไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบ หรือความอยุติธรรม จึงอยากให้คำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย

ขณะเดียวกัน ฝากไปยัง กกต. ควรจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยบริสุทธิ์ ยุติธรรม มีความเป็นกลาง ปราศจากการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เพราะหากการเลือกตั้งในรอบ 7 ปี ที่ประชาชนฝากความหวังไว้ หากเกิดปัญหาจะยิ่งเป็นการทำร้ายประชาชน และประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องของความเชื่อมั่นในสายตาคนไทย และสายตาโลก

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำหนังสือทาบทาม 194 คน ที่จะมาเป็น ส.ว. คุณหญิงสุดารัตน์ ฝากถึงคนที่จะมาเป็น ส.ว. ว่าการเข้ามาทำหน้าที่โดย ไม่ได้มาจากอำนาจของประชาชน เมื่อมาแล้วก็ต้องทำงานให้เต็มที่ และควรให้ความสำคัญกับเจตนารมณ์ของประชาชน หากประชาชนมอบความไว้วางใจให้กับผู้แทนจากพรรคการเมืองใดก็หวังว่า ส.ว. จะไม่ทำอะไรที่สวนทางกับความรู้สึกของประชาชน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook