หนุ่มขายน้ำมันเครื่องควบกระบะฝ่าสายฝน เสียหลักตกข้างทางบาดเจ็บสาหัส 4 ราย

หนุ่มขายน้ำมันเครื่องควบกระบะฝ่าสายฝน เสียหลักตกข้างทางบาดเจ็บสาหัส 4 ราย

หนุ่มขายน้ำมันเครื่องควบกระบะฝ่าสายฝน เสียหลักตกข้างทางบาดเจ็บสาหัส 4 ราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มขายน้ำมันเครื่องวัย 32 ปี ควบรถกระบะฝ่าสายฝนกลางดึกพารุ่นน้องกลับบ้านที่ชัยภูมิ ถนนลื่นเสียหลักรถตกข้างทาง หวิดตายหมู่ยกคัน ต้องใช้เครื่องตัดถ่างงัดประตูรถนำร่างออกจากตัวรถนานนับชั่วโมง จึงนำร่างออกจากตัวรถได้ทั้งหมด บาดเจ็บสาหัสทั้งหมด 4 ราย

วันนี้ (16 กุมภาพันธ์ 62) เมื่อเวลา 23.15 น. พ.ต.ท.ธนะสิทธ์ อุดมพรวรชัย รอง สารวัตร. (สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์กระบะเสียหลักพุ่งตกลงไปข้างทาง บริเวณโค้งบ้านคำน้อย หมู่ที่ 5 ตำบลห้วยต้อน อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ

ซึ่งเป็นถนนหมายเลข 2159 สายชัยภูมิ-หนองบัวแดง หลัก กม.ที่ 23-24 จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ ที่เกิดเหตุพบรถกระบะอีซูซุ 4 ประตู สีฟ้า ป้ายทะเบียน ฆห4308 กรุงเทพมหานคร เสียหลักพลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้าอยู่ภายในป่าหญ้าข้างทาง

ในที่เกิดเหตุยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 4 รายติดอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างงัดประตูรถเร่งช่วยชีวิต เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่จึงให้การช่วยเหลือทั้ง 4 รายออกจากซากรถได้ และได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลชัยภูมิเป็นการด่วนเนื่องจากทั้ง 4 รายมีอาการบาดเจ็บสาหัสมาก

สอบถามไปยังนายจิรศักดิ์ อายุ 25 ปี ผู้ที่นั่งมาในรถยนต์กระบะคันเกิดเหตุ ที่ยังพอพูดได้เล่าว่าขณะตนและนายอนุศิษฏ์ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์กระบะคันเกิดเหตุ ทำงานเป็นคนขายน้ำมันเครื่องอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา

วันนี้ตนและพี่ ๆ ได้นัดกันเพื่อที่จะกลับบ้าน ที่อยู่อำเภอเกษตรสมบูรณ์ พอมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง และมีฝนตกลงมาเล็กน้อยพื้นผิวถนนเปียก

ทำให้รถยนต์กระบะที่นั่งมาเสียหลักตกลงไปข้างทาง จนทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสถึง 4 รายดังกล่าว โดยคนขับมีอาการบาดเจ็บหนักสุด ศีรษะเปิดรอบทิศและยังไม่ได้สติเป็นตายเท่ากัน

พ.ต.ท.ธนะสิทธ์ อุดมพรวรชัย ได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะเดินทางไปดูผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 ราย ที่โรงพยาบาลชัยภูมิ ก่อนที่จะรอให้คนเจ็บทั้ง 4 รายหายดี จึงจะเชิญตัวมาสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook