รายงานพิเศษ... มุกดาหาร รณรงค์ สร้างจิตสำนึกเพื่อสังคมไร้ควันบุหรี่

รายงานพิเศษ... มุกดาหาร รณรงค์ สร้างจิตสำนึกเพื่อสังคมไร้ควันบุหรี่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
จังหวัดมุกดาหาร เน้นสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง ให้ความรู้และรณรงค์ ลด ละ เลิก บุหรี่ ขณะที่เครือข่ายพระสงฆ์ลุ่มน้ำโขง ร่วมประกาศเจตนารมณ์ทำวัดต้นแบบปลอดบุหรี่ พร้อมสร้างจิตสำนึกเพื่อสังคมไร้ควันบุหรี่ ติดตามได้จากรายงาน ยุทธศาสตร์ เมืองมุกดาหาร ลด ละ เลิกบุหรี่ ได้เน้นแนวนโยบาย 10 ด้าน คือ การสร้างจิตสำนึกเพื่อต้องการให้ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ลด ละ เลิกบุหรี่ การรณรงค์ให้วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันพระ วันหยุดราชการ เป็นวันลด ละ เลิกบุหรี่ การเน้นช่วงเวลาทำงาน ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น. เป็นช่วงปลอดบุหรี่ การกำหนดพื้นที่ปลอดบุหรี่และบังคับใช้ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด การจัดงานเลี้ยงต้อนรับ การถวายหรือการให้ไม่ใช้บุหรี่ การร่วมกันป้องกันเด็ก เยาวชน ห่างไกลบุหรี่ สนับสนุนให้ทุกครอบครัวเป็นบ้านปลอดบุหรี่ สร้างความเข้าใจ ทัศนคติ ของประชาชนให้ปฏิบัติตามกฎหมาย และส่งเสริมประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ประพฤติปฏิบัติในศีลธรรม คุณธรรมทางศาสนา โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการช่วงแรก 5 ปี เริ่มในปี 2552 นี้ นายแพทย์สุใหญ่ หลิ่มโตประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ในบุหรี่มีสารก่อมะเร็งไม่ต่ำกว่า 42 ชนิด ผู้ใกล้ชิดที่มีคนในครอบครัวสูบบุหรี่ มีโอกาสเป็นมะเร็งปอดมากกว่าคนในครอบครัวที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 2 เท่า มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจ 3 เท่า และเสียชีวิตเร็วกว่าปกติถึง 4 ปี สำหรับคนทั่วไป ควันบุหรี่จะทำให้เกิดอาการเคืองตา ปวดศีรษะ คัดจมูก น้ำมูกไหล โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการหอบหืด โรคหัวใจ โรคหลอดลมอักเสบ ก็จะทำให้มีอาการของโรคเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เนื่องในวันที่ 31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร จึงได้ให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง ให้ความรู้และรณรงค์ ลด ละ เลิกสูบบุหรี่ และขอให้เป็นวันเริ่มต้นของผู้ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่ เพื่อคนที่คุณรัก ขณะที่พระมหาวรวุฒิ ปัญญาวุฑโฒ ประธานเครือข่ายพระสงฆ์ลุ่มน้ำโขง เล่าว่า ปัจจุบันปัญหาสังคมที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจากอบายมุข บุหรี่ สุรา ทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมา อีกทั้งมีข้อมูลจากงานวิจัยระบุด้วยว่า การติดบุหรี่ของเยาวชน เป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การติดอบายมุขและยาเสพติดอื่น นอกจากนี้ ในวัดเอง ทั้งพระ เณร ยังมีการสูบบุหรี่ ซึ่งได้มาจากญาติโยมที่นำมาถวาย ดังนั้น การร่วมประกาศเจตนารมณ์ทำวัดต้นแบบปลอดบุหรี่ จึงเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับชุมชน ทั้งนี้ การทำให้สังคมปลอดบุหรี่ควรเริ่มจากครอบครัว เนื่องจากเห็นตัวอย่างที่โยมพ่อของตน สูบบุหรี่มาเป็นเวลานานถึง 13 ปี และเพิ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดเมื่อไม่นาน จากเหตุการณ์ครั้งนี้ จึงเป็นเหมือนบทเรียนและเครื่องเตือนสติที่ตนต้องการสอนให้พุทธศาสนิกชนและเยาวชนเห็นความสำคัญของการเลิกบุหรี่ จากคำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2552 ที่ว่า บุหรี่มีพิษ ร่วมคิดเตือนภัย (Tobacco Health Warnings) ทำให้ได้ทราบว่า บุหรี่ นอกจากจะมีโทษมหันต์ต่อผู้สูบและคนใกล้ชิดแล้ว การสูบบุหรี่ในสถานที่ต้องห้ามตามกฎหมาย อาจทำให้ติดคุก หรือเสียเงินได้ ดังนั้น ถึงเวลาแล้ว ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกัน รณรงค์ให้ ลด ละ เลิก สูบบุหรี่ เพื่อสุขภาพของผู้สูบและคนรอบข้าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook