หนุ่มวัย 26 ตื่นเช้าขับรถไปทำงาน จู่ๆ ไฟไหม้ท่วมรถ รอดตายหวุดหวิด

ไฟไหม้รถยนต์หนุ่มวัย 26 ปี ตื่นเช้ารีบขับรถยนต์ไปทำงาน โชคร้ายไฟลุกพรึ่บเผาวอดห้องเครื่องยนต์ห้องโดยสาร โชคดีคนขับปลอดภัย

(31 ม.ค. 2562) เมื่อเวลา 05.30 น. ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ได้รับโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ สาเหตุเพราะไฟไหม้รถ ที่บริเวณทางหลวงสาย 24 สีคิ้ว-อุบลราชธานี ช่วงบ้านละลมระไซร์ ต.ปรือ อ.ปราสาท หลังได้รับแจ้งแล้ว ได้วิทยุประสานสถานีตำรวจภูธรปราสาท และสถานีตำรวจภูธรทุ่งมนเขต อ.ปราสาท ในพื้นที่รับผิดชอบ

จากนั้นได้แจ้งให้ พ.ต.ท.พิเชษฐ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวนเวรสถานีตำรวจภูธรทุ่งมน อำเภอปราสาท ประสานรถน้ำดับดำเพลิง เทศบาลนิคมปราสาท องค์การบริหารส่วนตำบลปรือ เจ้าหน้าที่อาสาสมาคมวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ จุด อ.ปราสาท เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ

ในพื้นที่บ้านบริเวณจุดกลับรถใกล้เคียงโรงสี ส.ชัยเจริญ ต.ปรือ อ.ปราสาท ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ส่วนบุคคลแบบแค๊ป ยี่ห้อ Isuzu รุ่น SLX สีบรอนซ์ ทะเบียน บธ1063 สุรินทร์ จอดไหล่ทาง มีไฟลุกท่วมทั้งคัน บริเวณด้านหน้ารถช่วงห้องเครื่องจนถึงห้องโดยสาร

ในเวลาต่อมารถน้ำจากเทศบาลนิคมปราสาท พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ได้ระดมน้ำฉีดดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีไฟ จึงสามารถดับไฟที่ลุกไหม้ได้ พบรถกระบะคันดังกล่าวเสียหายตั้งแต่ห้องโดยสารและห้องเครื่อง ส่วนหน้ารถทั้งหมด โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ทราบชื่อเจ้าของรถ คือนายวรธน อายุ 26 ปี เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าในขณะที่ตนเองขับรถออกจากบ้านเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.ออกจากตัวอำเภอปราสาท เพื่อมุ่งหน้าไปทำงานที่ แคมป์บริษัทถนอมวงศ์บริการ ตำบลปรือ อ.ปราสาท

พอมาถึงที่เกิดเหตุตนเองได้ยินเสียงลักษณะคล้ายไฟช็อตบริเวณหน้าห้องเครื่อง จึงจอดรถไหล่ทางและเปิดฝากระโปรงรถ พบจุดเกิดเหตุ ไฟเริ่มช็อตที่ด้านขวาใกล้แบตเตอรี่ ตนเองพยายามจะถอดขั้วแบตเตอรี่ แต่ถอดไม่ทัน

จากนั้นไฟได้ลุกท่วมบริเวณห้องเครื่องยนต์หน้ารถอย่างรวดเร็ว ตนเองจึงรีบขอความช่วยเหลือจากคนขับรถรถบรรทุกพ่วง ที่จอดนอนบริเวณดังกล่าว และโทรแจ้งสายด่วน 191

ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าให้การช่วยเหลือฉีดน้ำดับเพลิง จนเพลิงสงบลง สวนตนเองนั้น คาดว่าระบบสายไฟในรถยนต์อาจเกิดการเสื่อมสภาพ จนทำให้เกิดไฟช็อตและเกิดไฟลุกดังกล่าว

ซึ่ง พ.ต.ท.พิเชษฐ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรทุ่งมน อำเภอปราสาท ได้ทำการเข้าตรวจสอบและเก็บภาพและข้อมูลเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว และหลังจากนั้นจะได้เรียกคนขับรถมาสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อเหตุการณ์อุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป