เลือกตั้ง 2562: ใครเป็นใคร ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

เลือกตั้ง 2562: ใครเป็นใคร ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

เลือกตั้ง 2562: ใครเป็นใคร ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากภาพข่าว จากกระแสข่าว แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคการเมือง เหมือนจะชัดเจนทั้งหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ 100% เสียทีเดียว โดยเฉพาะ 2 ก๊กใหญ่ “พลังประชารัฐ” ที่ใครๆ ก็รู้มาเนิ่นนานว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” คือ เบอร์ 1 แน่นอน เพียงแต่ “บิ๊กตู่” เองเท่านั้น ที่ยังไม่ชัดเจนซักที เนื่องจากหลายปัจจัยโดยเฉพาะเรื่องข้อกฎหมายและธรรมาภิบาล เพราะอาจจะสั่นคลอนตำแหน่งที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน รวมถึงภาพลักษณ์การเป็น หัวหน้า คสช. ด้วยนั่นเอง จึงทำให้มีชื่อของ “เฮียกวง-สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” โผล่มาอีกคน ว่าอาจจะอยู่ในแคนดิเดต รวมถึงชื่อของ “อุตตม สาวนายน” หัวหน้าพรรค แต่ดูแล้ว 2 ชื่อที่มาแจมทีหลัง คงเป็นเบอร์รองเท่านั้น ตัวจริงเสียงจริงที่จะส่งคงไม่มีทางเปลี่ยนไปจาก “พล.อ.ประยุทธ์” อย่างแน่นอน

ส่วนก๊กที่ 2 “เพื่อไทย” แชมป์เก่านั้น แรกเริ่มเดิมทีหลังมีการแยกตัวของแกนนำบางส่วนไปอยู่ “ไทยรักษาชาติ” ก็มั่นใจว่า “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” จะได้รับการโปรโมตให้เป็นแคนดิเดต เบอร์ 1 อย่างแน่นอน ประกอบกับการนำทัพลงหาเสียง แต่แล้วความไม่ชัดเจนก็เกิดขึ้นเมื่อ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” อดีตรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีกลายเป็นกระแสให้พูดถึง และผลโพลก็มีคะแนนดีต่อเนื่อง จึงทำให้ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าระหว่าง “สุดารัตน์” หรือ “ชัชชาติ” ใครจะเป็น ตัวจริง และใครเป็นตัวหลอกหรือ เพื่อไทย ยังมีชื่อที่ 3-4-5 ซ่อนไว้อีก รอเปิดตัวเมื่อถึงเวลา ป้องกันการถูกโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม

ต่อกันที่ “ประชาธิปัตย์” ที่บางคนมองเป็นตัวแปร บางคนมองเป็นพรรคหลักในการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง ค่ายสีฟ้านี้ชัดเจนมาตั้งแต่ต้นว่า “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” จะเป็นชื่อที่ได้รับการเสนอเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน และก็ไม่มีท่าทีว่าจะส่งคนอื่นๆ ร่วมด้วย แม้จะมีหลายคนเรียกหา “ชวน หลีกภัย” อยู่บ้างพอสมควรก็ตาม ไม่ต่างอะไรจากพรรคสีน้ำเงิน “ภูมิใจไทย” ก็ชัดเจนว่าจะเสนอชื่อ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคเพียงคนเดียวเช่นกัน หรือแม้แต่ “ชาติไทยพัฒนา” ก็เสนอ “กัญจนา ศิลปอาชา” ทายาทมังกรการเมือง ที่มาสืบสานงานต่อจากพ่อมาร่วมลุ้นเช่นกัน

จะว่าไปแล้ว ด้วยกติกาที่ออกแบบมาให้แต่ละพรรคเสนอชื่อ 3 แคนดิเดตได้นั้น แต่หากเอาเข้าจริงเมื่อเข้าสภาแล้ว คนที่จะมีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อต่อที่ประชุมรัฐสภาได้ พรรคนั้นจะต้องได้ ส.ส. อย่างน้อย 5% หรือมี 25 ที่นั่ง จึงทำให้เชื่อว่าไม่น่าจะมีพรรคอื่นมีลุ้นในตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี นอกเหนือจาก 5 พรรคนี้ไปได้ ส่วนตัวจริงของ พลังประชารัฐ” จะเป็นไปตามนี้หรือไม่ แล้ว “เพื่อไทย” จะฟันธงที่ใคร เร็วๆ นี้ คงได้รู้กัน...

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook