ชนสนั่น! รถทัวร์อ้างสิบล้อเปลี่ยนเลนเบรกไม่ทัน ผู้โดยสารแฉขับส่าย-เปิดเพลงดังลั่น

ชนสนั่น! รถทัวร์อ้างสิบล้อเปลี่ยนเลนเบรกไม่ทัน ผู้โดยสารแฉขับส่าย-เปิดเพลงดังลั่น

ชนสนั่น! รถทัวร์อ้างสิบล้อเปลี่ยนเลนเบรกไม่ทัน ผู้โดยสารแฉขับส่าย-เปิดเพลงดังลั่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 14 ม.ค. 62 ร.ต.อ.นพดล ภูสำรอง รอง สว.สอบสวน สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารชนท้ายรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในรถ บนถนนพหลโยธินขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 70 ต.ชะแมบ อ. วังน้อย จ. พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำอุปกรณ์ตัดถ่างไปให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ

ที่เกิดเหตุพบรถทัวร์ปรับอากาศ สายกรุงเทพ-หล่มสัก-วังโป่ง หมายเลขทะเบียน 10-1050 เพชรบูรณ์ สภาพหน้ารถด้านซ้ายพังยับเยิน ภายในรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บอัดติดอยู่ในตัวรถ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งใช้อุปกรณ์ตัดถ่างช่วยเหลือออกมา นำส่งโรงพยาบาลวังน้อย ทราบชื่อต่อมา นายศักวัฒน์ เกิดทุ้ย อายุ 38 ปี เป็นพนักงานประจำ มีบาดแผลบริเวณศีรษะและขาข้างขวาหัก ห่างออกไปเล็กน้อยพบรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70-7949 สมุทรสาคร ที่บริเวณด้านท้ายรถแถบขวามีร่องรอยถูกชนได้รับความเสียหาย มีนายสุทธิพงษ์ มากไธสง อายุ 29 ปี เป็นคนขับ

สอบถามนายสมยศ ตาแล อายุ 35 ปี คนขับรถทัวร์ ทราบว่า อยู่ระหว่างพาผู้โดยสารมาเต็มคันรถมาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อไปส่งที่กรุงเทพมหานคร เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุตนเองขับรถอยู่ในเลนขวา รถบรรทุกเกิดเปลี่ยนเลนกะทันหัน ทำให้เบรกไม่ทันจึงพุ่งชนท้ายทำให้กระเป๋ารถได้รับบาดเจ็บ ส่วนผู้โดยสารไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ทางด้าน ร.ต.อ.นพดล ภูสำรอง รอง สว. (สอบสวน) สภ.วังน้อย กล่าวว่า จากการสอบถามนายสุทธิพงษ์ อายุ 29 ปี คนขับสิบล้อ ทราบว่าได้ขับรถมาจาก จ.ยโสธร เพื่อมุ่งหน้าไป จ.นครปฐม ตอนนั้นวิ่งอยู่เลนกลาง แล้วจู่ๆ รถโดยสารก็พุ่งชนท้ายเลยโดยตนก็ไม่ทราบว่าด้วยสาเหตุใด ส่วนทางด้านรถโดยสารได้มีผู้โดยสารมาเต็มคันแต่ทุกคนไม่ได้รับบาดเจ็บ จากการสอบถามผู้โดยสารเล่าว่าคนขับรถโดยสารคันดังกล่าวขับรถเร็ว วิ่งส่ายไปมาและเปิดเพลงเสียงดังในรถ ตั้งแต่เริ่มออกมาจาก อ.วังโป่ง พอมาถึงจุดเกิดเหตุก็มาพุ่งชนท้ายรถ 10 ล้อดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้อย จะนำตัวคนขับรถโดยสารและรถบรรทุก 10 ล้อ ไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ และไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook