สาวใหญ่ออสซี่เฮ! เตรียมบินกลับปท.หลังรอลงอาญา 1 ปีคดีขโมยผ้าปูโต๊ะ

สาวใหญ่ออสซี่เฮ! เตรียมบินกลับปท.หลังรอลงอาญา 1 ปีคดีขโมยผ้าปูโต๊ะ

สาวใหญ่ออสซี่เฮ! เตรียมบินกลับปท.หลังรอลงอาญา 1 ปีคดีขโมยผ้าปูโต๊ะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลฯ พิจารณาคดียักยอกทรัพย์ผ้าปูโต๊ะในบาร์ สั่งปรับแหม่มแดนจิงโจ้ 1 พันบาท จำคุก 6 เดือน แต่รอลงอาญา 1 ปี เจ้าตัวขอบคุณผู้ว่าฯภูเก็ตใจดีจ่ายเงินแทน บินกลับออสเตรเลียคืนนี้ พร้อมมาเที่ยวเมืองไทยอีก ตร.ยันดำเนินคดีตามกระบวนการโปร่งใส

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว นางแอนนีซ สโมล นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย ในข้อหายักยอกทรัพย์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ ร้านออสซี่บาร์ ของบริษัท ออสซี่ บาร์ ป่าตอง จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 79 ซอยบางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยคุมขังอยู่ที่ สภ.กะทู้ 2 คืน และถูกยึดพาสปอร์ต ก่อนยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลจังหวัดภูเก็ต โดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นเงินสด 90,000 บาท ต่อมา นางสโมลร้องเรียนไปยังนายเควิน รัดด์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ให้ช่วยเหลือนั้น

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานคดีของนางสโมลว่า เดิมผู้ต้องหาต้องไปศาลจังหวัดภูเก็ตในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ ปรากฏว่า ได้ร่นมาเร็วขึ้นเป็นเวลา 14.30 น. วันที่ 20 พฤษภาคม โดยเป็นการพิจารณาคดียักยอกทรัพย์ คดีอาญาดำ เลขที่ 324/2552 ของนางแอนนีซ สโมล ที่บัลลังก์ 5 โดยศาลพิพากษาตัดสินให้จำคุก 6 เดือน ปรับ 1,000 บาท และรอลงอาญา 1 ปี ล่าสุด นางสโมลจะเดินทางกลับประเทศออสเตรเลียด้วยเครื่องบินของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เที่ยวบินที่ TG 224 เวลา 21.30 น. ออกจากท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต คืนวันที่ 20 พฤษภาคมนี้

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากนางสโมลเป็นอิสระ ได้เข้าสวมกอดนายดาร์เรน สโมล ผู้เป็นสามี และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ยินดีที่ทุกอย่างจบลงได้ด้วยดี และจะเดินทางกลับบ้านที่ประเทศออสเตรเลีย

"ท่านผู้ว่าฯ (นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต) กำลังรอรับพาสปอร์ตคืนมาให้ ท่านเป็นคนใจดี มีเมตตามาก ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร แต่คิดว่าอาจผสมผสานกันหลายอย่าง ทั้งทนายของฉันที่นี่ ที่ออสเตรเลีย รัฐบาลออสเตรเลีย และรัฐบาลไทย" นางสโมล กล่าวและว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า นายวิชัยได้รับโทรศัพท์จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เข้าช่วยเหลือและเป็นผู้จ่ายค่าปรับตามคำพิพากษาของศาล จำนวน 1,000 บาทแทนจำเลยอีกด้วย

ด้านนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ไม่รู้สึกเสียใจที่มีกรณีแบบนี้เกิดขึ้น แต่เสียใจตรงที่ว่า เจ้าของออสซี่บาร์เป็นชาวออสเตรเลีย ที่มาหากินในประเทศไทย แล้วยังทะเลาะกับคนชาติเดียวกัน ทำให้ประเทศชาติเสียหายและการมารายงานตัวที่ศาลในวันเดียวกันนี้ ตนมาดูแลอย่างใกล้ชิดและชำระเงินค่าปรับให้ด้วย 1,000 บาท คดีนี้กระทบกับภาพลักษณ์การท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต บ้าง หลังจากนี้ จะเชิญผู้ประกอบการสถานบันเทิงรวมทั้งผับ บาร์ต่างๆ ในพื้นที่หาดป่าตองทั้งหมด มาประชุมร่วมกันเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจการให้บริการนักท่องเที่ยวต่อไป

"ทางสถานทูตออสเตรเลียในไทยโทรศัพท์มาสอบถามข้อเท็จจริง ไม่ได้มีการกดดันเรื่องคดี โดยบอกให้ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย" นายวิชัยกล่าว

พ.ต.อ.ชนัตพล ยงบรรเจิด ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต กล่าวว่า นางสโมลยังสามารถกลับเข้ามาในประเทศไทยได้อีก ตนมีโอกาสพูดคุยกับนางสโมล ที่ยืนยันว่าถ้าลูกสาวหายจากอาการป่วยที่ประเทศออสเตรเลียแล้ว จะกลับมาเที่ยวเกาะภูเก็ตและประเทศไทยอีก สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น อาจตกใจบ้างแต่พอรับได้ เพราะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบของไทย

ด้านนายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อเช้าวันที่ 3 พฤษภาคม ตำรวจภูเก็ตจับกุมนางสโมล หลังค้นพบผ้าปูโต๊ะที่ถูกขโมยในกระเป๋าสะพายของนางสโมล ทั้งนี้ ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้จัดการร้านออสซี่บาร์ว่าผ้าปูโต๊ะถูกขโมย จากนั้น ตำรวจจึงควบคุมตัวนางสโมลไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบสวนเพิ่มเติม รวมทั้งจัดหาทนายความและล่ามแปลให้ตามกฎหมาย แต่นางสโมลปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด ขณะที่เจ้าของร้านไม่ยอมความ ตามคำบอกเล่าของร้าน ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผ้าปูโต๊ะของร้านซึ่งมีราคาประมาณ 4,000 บาทถูกขโมย

นายธฤต กล่าวว่า นางสโมลมีหลักทรัพย์ไม่เพียงพอที่จะยื่นประกัน ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจในห้องขังที่แยกไว้ต่างหากสำหรับสตรี และนำตัวนางสโมลไปขึ้นศาลจังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม โดยจัดหาทนายความให้ ซึ่งศาลอนุญาตให้ประกันตัว รวมเวลาที่นางสโมลถูกตำรวจควบคุมตัวไว้ 36 ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ตำรวจสามารถยื่นขอฝากขังได้รวมไม่เกิน 48 วัน คดีของนางสโมลดำเนินไปด้วยความโปร่งใสตามกระบวนการกฎหมาย โดยนางสโมลได้รับสิทธิต่างๆ ตามกฎหมาย

พ.ต.อ.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค ผกก.สภ.กะทู้ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กล่าวยืนยันว่า ตำรวจดำเนินการกับนางสโนล ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

ขณะที่ นายสีฟ วู้ด เจ้าของร้าน ออสซี่บาร์ กล่าวว่า เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ ซึ่งทางร้านจัดทำผ้าปูโต๊ะไว้สำหรับลูกค้าผู้ที่สนใจที่จะนำไปเป็นที่ระลึก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางพนักงานร้านแจ้งให้ตำรวจทราบ ตนเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร

นายภูริต มาศวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียมีพฤติกรรมค่อนข้างห่ามพอสมควร พอดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป มักจะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง ทำลายข้าวของในโรงแรมหรือร้านค้าเป็นประจำ ผู้ประกอบการต้องชาร์จค่าเสียหายอยู่บ่อยครั้ง กรณีของนางสโมลนั้น บอกยากว่า มีเจตนาหรือไม่เจตนา แต่อยากมองในมุมกลับบ้างว่า ถ้าคนไทยไปมีพฤติกรรมแบบนี้ที่ประเทศออสเตรเลีย ก็ต้องถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเอบีซีนิวส์ของออสเตรเลียรายงานว่า นายสตีเฟน สมิธ รัฐมนตรีต่างประเทศและการค้าของออสเตรเลียให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า ไม่ได้ดูดายแต่จำเป็นต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมของไทย แต่ยังเชื่อมั่นว่า เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยเร็วที่สุด

ด้านหนังสือพิมพ์เฮรัลด์ ซัน รายงานว่า ลูกๆ 4 คนของนางสโมล ออกมาอ้อนวอนด้วยน้ำตานองหน้า ขอร้องให้นายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ นำตัวผู้เป็นแม่กลับคืนมาโดยเร็ว ทั้งนี้ ซีแอน ลูกสาวคนโตวัย 12 ขวบ เป็นผู้กล่าวแทนน้องๆ ทั้งหมดว่า ตนต้องการแม่มากเป็นพิเศษเพราะมีกำหนดจะผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบในเร็วๆ นี้

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook