"พันตรีเก๊" หลอกแต่งงานจนผู้หญิงท้อง ปอกลอกเงินหมดตัว-ทิ้งไปมีคนใหม่

"พันตรีเก๊" หลอกแต่งงานจนผู้หญิงท้อง ปอกลอกเงินหมดตัว-ทิ้งไปมีคนใหม่

"พันตรีเก๊" หลอกแต่งงานจนผู้หญิงท้อง ปอกลอกเงินหมดตัว-ทิ้งไปมีคนใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ได้มีเพจชุดเฉพาะกิจ-ต่อต้านทหารปลอม&ตำรวจปลอม ได้โพสต์ข้อความเล่าวีรกรรมของชายคนหนึ่งที่แอบอ้างว่าเป็นนายทหารยศพันตรี สังกัด มทบ.36 หลอกลวงหญิงสาวจนได้แต่งงาน ก่อนจะปอกลอกเงินจนหมดตัว และทิ้งไปแต่งงานใหม่ ทั้งที่ผู้หญิงกำลังตั้งท้อง จากนั้นได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบ น.ส.ธันยธรณ์ อายุ 37 ปี กำลังดูแลลูกสาววัย 11 เดือน กับ คุณยายหนูจันทร์ อายุ 78 ปี ผู้เป็นแม่

น.ส.ธันยธรณ์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ผู้ที่มาหลอกตนว่าเป็นทหารคือ นายราชัน สวัสดิ์รักษ์ ตนเคยเห็นเมื่อหลายปีก่อนเมื่อครั้งตนไปทำงานอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ผ่านมาหลายปีนายราชัน ได้ติดต่อพูดคุยกับตนผ่านทางเฟซบุ๊กและไลน์ โดยบอกว่าขณะนี้รับราชการเป็นทหารอยู่มณฑลทหารบกที่ 36 (มทบ.36) ค่ายพ่อขุนผาเมือง หลังจากนั้นนายราชันขอให้ตนลาออกจากงานกลับมาอยู่บ้านที่เพชรบูรณ์ พร้อมทั้งพาตนและครอบครัวไปดูบ้านและที่ดินที่นายราชันอ้างว่าเป็นของตนเอง ที่อำเภอคอนสารจังหวัดชัยภูมิ เมื่อกลับมาบ้านที่เพชรบูรณ์ก็ได้มีพิธีแต่งงานแบบเรียบง่ายผูกข้อต่อแขน โดยญาติของนายราชันมีเพียงพ่อคนเดียวเท่านั้น หลังจากอยู่กินกันระยะหนึ่งตนได้ตั้งท้อง นายราชันก็แทบไม่อยู่บ้านอ้างว่าต้องไปนอนที่ค่าย ต้องออกตั้งด่าน พร้อมทั้งขอให้ตนโอนเงินไปให้โดยอ้างว่าเป็นค่าตัดชุด เนื่องจากได้เลื่อนยศเป็นผู้กองแล้วบ้าง ต้องเอาเงินเข้าบัญชีเพื่อกู้เงินสวัสดิการต่างๆ บ้าง โดยบอกว่าเงินเดือนออกหรือเงินกู้ออกจะคืนให้ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้คืน โดยนายราชันอ้างว่าเอาเงินไปซื้อที่บ้าง ใช้จ่ายอื่นๆ บ้าง

พิธีผูกข้อมือของน.ส.ธันยธรณ์ กับนายราชัน

เมื่อตนท้องได้ประมาณ 6 เดือนได้กลับมาที่บ้านพร้อมกับบอกว่าขับรถไปกับผู้พันแล้วไปชนเด็กตาย ต้องใช้เงินประมาณ 6 หมื่นบาท แม่ของตนเกรงว่าลูกเขยจะติดคุกจึงได้เอาที่นาไปกู้เงินนอกระบบ จำนวน 60,000 บาท โดยต้องเสียดอกเบี้ยปีละ 10,000 บาท หลังจากได้เงินแล้วล่าสุดได้ส่งรูปแต่งเครื่องแบบนายทหารยศพันตรีมาให้ตนดู พร้อมทั้งบอกว่ากำลังทำเพื่ออนาคต จากนั้นก็ไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย ทราบข่าวว่าไปแต่งงานกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ตนจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.วิเชียรบุรี ในข้อหาหลอกลวง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัว แต่ในขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

น.ส.ธันยธรณ์ เล่าต่อว่า ตั้งแต่คบและอยู่กินกับนายราชันมา เงินเก็บที่ได้จากการทำงานที่จังหวัดชลบุรีหลายหมื่นบาทก็หมดไป รวมทั้งเงินฝากของแม่ตนเองที่ตนส่งมาให้และเก็บออมไว้ก็ถูกนายราชันหว่านล้อมขอยืมจนหมดเช่นกัน รวมแล้วตนกับแม่ถูกนายราชันหลอกสูญเงินไปแสนกว่าบาท ในขณะที่ตนตั้งท้องนั้นมีความเดือดร้อนมาก แทบไม่มีเงินใช้จ่ายเลยต้องอาศัยใช้เงินผู้สูงอายุของแม่ที่ได้เดือนละ 700 บาท และได้อาศัยจากการหยิบยื่นให้จากญาติบ้าง อาหารบำรุงสำหรับลูกในครรภ์แทบไม่ได้กินเลย ต้องไปซื้อถั่วเหลืองมาต้มน้ำกิน เคยคิดที่จะผูกคอตาย แต่ตนก็ห่วงแม่ที่อยู่คนเดียว ส่วนแม่ซึ่งสูงอายุและมีโรคประจำตัวคือเบาหวาน เมื่อเกิดเรื่องก็มีอาการเครียดจนเบาหวานขึ้นเกือบเสียชีวิตมาแล้ว โชคดีที่ตนมาพบและช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลได้ทัน ที่ตนออกมาเปิดเผยเรื่องราวในครั้งนี้ เพราะไม่อยากจะให้นายราชันไปหลอกลวงใครอีก และอยากจะให้หน่วยงานทหารที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีหรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนกับใครได้อีก

ด้านนางหนูจันทร์ อายุ 78 ปี แม่ของ น.ส.ธันยภรณ์ กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะที่ผ่านมาหวังจะฝากผีฝากไข้ไว้กับลูกเขยคนนี้ เพราะมาบอกว่ารับราชการเป็นทหาร มีการงานที่มั่นคง อีกทั้งเป็นคนที่พูดจาอ่อนหวาน จนทำให้ชาวบ้านรักและเชื่อใจทั้งหมู่บ้าน ไม่นึกว่าจะมาเป็นคนหลอกลวงเช่นนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook