คืบหน้า นายแพทย์หนุ่มทิ้งจดหมายแล้วหายตัวไป ตร.เจอร่างผูกคออยู่ในโรงแรม

คืบหน้า นายแพทย์หนุ่มทิ้งจดหมายแล้วหายตัวไป ตร.เจอร่างผูกคออยู่ในโรงแรม

คืบหน้า นายแพทย์หนุ่มทิ้งจดหมายแล้วหายตัวไป ตร.เจอร่างผูกคออยู่ในโรงแรม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความคืบหน้ากรณี นายแพทย์หนุ่มจอดรถทิ้งไว้ริมแม่น้ำน่าน พร้อมจดหมายบอกลาญาติๆ ล่าสุดยืนยันพบเป็นศพในโรงแรมแห่งหนึ่ง สภาพผูกคอเสียชีวิต

จากกรณีการติดตามหาตัว นายแพทย์ภัททิย์ศักดิ์ อายุ 36 ปี แพทย์ประจำโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.พิจิตร ที่หายตัวไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยทิ้งจดหมายบอกลาญาติพี่น้อง ทิ้งไว้พร้อมกับโทรศัพท์มือถือและ รถจักรยานยนต์คู่ใจ ริมแม่น้ำน่าน ในพื้นที่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก

ในตอนแรกทางญาติพี่น้องของผู้สูญหายคาดว่า นายแพทย์คนดังกล่าวน่าจะคิดสั้น กระโดดแม่น้ำน่านเพื่อฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายการค้นหาร่างของทีมกู้ภัย ก็ยังไม่พบร่างของในแพทย์คนดังกล่าว จึงไม่มั่นใจว่าเป็นการกระโดดน้ำเพื่อฆ่าตัวตายจริงหรือไม่ ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (8 พ.ย.) ร.ต.อ.ณัฐพล อินทรเรืองศร ร้อยเวร สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนผูกคอเสียชีวิต อยู่ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ริมถนนสายเอเชีย อ.เมืองนครสวรรค์ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับแพทย์เวรโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนครสวรรค์ ก่อนจะร่างชายอายุประมาณ 35-40 ปี ใช้เชือกผูกคอตายอยู่ภายในห้องพัก

>> นายแพทย์วัย 36 ทิ้งจดหมายสั่งเสียก่อนหายตัว ตามเจอ จยย.จอดริมแม่น้ำ

ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการชันสูตรตรวจสอบศพในเบื้องต้น ก่อนนำส่งไปพิสูจน์อย่างละเอียดที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ โดยมีรายงานยืนยันล่าสุดว่า ศพชายที่พบนั้นก็คือ นายแพทย์ภัททิย์ศักดิ์ ที่หายตัวไปและที่ทิ้งจดหมายเอาไว้

ทั้งนี้มีพยานแวดล้อมระบุว่า พบเห็นผู้ตายนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์รับจ้าง เดินทางมาเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าว ตั้งแต่เมื่อช่วงสายของเมื่อวานนี้ (7 พ.ย.) ก่อนจะไม่พบอีก และมาทราบอีกทีว่าพบเป็นศพผูกคอตายไปแล้วล่าสุด

ทั้งนี้ พ่อแม่ของนายแพทย์ภัททิย์ศักดิ์ ได้เดินทางมาตรวจดูศพ ก่อนจะยืนยันว่าเป็นศพลูกชายที่หายตัวไปจริง จึงได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดสาเหตุที่ลูกชายคิดสั้นแต่อย่างใด

อีกทั้งในช่วงชันสูตรตรวจสอบสภาพศพที่โรงแรม ทางเจ้าของกิจการได้มีการให้พนักงานมาขอความร่วมมือกับผู้สื่อข่าวไม่ให้บันทึกภาพและกันไม่ให้เข้าไปภายในโรงแรม เนื่องจากเกรงว่าทางโรงแรมจะได้รับความเสียหาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook