นายแพทย์วัย 36 ทิ้งจดหมายสั่งเสียก่อนหายตัว ตามเจอจยย.จอดริมแม่น้ำ

นายแพทย์วัย 36 ทิ้งจดหมายสั่งเสียก่อนหายตัว ตามเจอจยย.จอดริมแม่น้ำ

นายแพทย์วัย 36 ทิ้งจดหมายสั่งเสียก่อนหายตัว ตามเจอจยย.จอดริมแม่น้ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายแพทย์โรงพยาบาลเอกชน จ.พิจิตร ทิ้งจดหมายสั่งเสียก่อนขับรถหายไปจากบ้านพัก ญาติพบจดหมายออกตามหาจากสัญญาณโทรศัพท์จนพบรถจอดทิ้งไว้กับโทรศัพท์บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำยางเอน 

(7 พ.ย.) เมื่อเวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีญาติประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้องขอนักประดาน้ำ หน่วยกู้ภัยบูรพา ลงค้นหาผู้สูญหาย ที่คาดว่าจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย บริเวณสะพานวัดยางเอน จึงไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุบริเวณใต้สะพานวัดยางเอน ม.3 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พบนางสาวสุทธาวาส อายุ 30 ปี  ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (6 พ.ย.61) ช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. พี่ชายของตนคือ นายแพทย์ภัททิย์ศักดิ์ อายุ 36 ปี เป็นแพทย์ของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ใน จ.พิจิตร ได้หายตัวออกไปจากบ้านพักญาติติดต่อไม่ได้

จนกระทั่งทางครอบครัวได้พบจดหมายลักษณะข้อความเขียนเหมือนสั่งเสีย จึงได้ไปลงบันทึกไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก จากนั้นได้ตามสัญญาณโทรศัพท์มือถือของผู้สูญหาย ก็มาพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ หมายเลขทะเบียน ขฉษ-853 กาญจนบุรี จอดทิ้งไว้ที่บริเวณสะพานวัดยางเอน โดยมีหมวกกันน็อคห้อยไว้กับโทรศัพท์มือถือ ทางครอบครัวจึงคาดว่าผู้สูญหายอาจจะมีความเครียดเรื่องอะไรสักอย่างและอาจจะคิดสั้นมากระโดดแม่น้ำเพื่อฆ่าตัวตาย จึงประสานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

ด้านนายไมตรี อายุ 43 ปี เป็นเจ้าหน้าที่มาซ่อมสะพานอยู่บริเวณดังกล่าว ได้เล่าให้ฟังว่าช่วงเวลาประมาณ 22.00 น.(วันที่ 6 พ.ย.61) ตนได้ตกปลาอยู่บนสะพานดังกล่าว ตอนนั้นเบ็ดตนมีลักษณะเหมือนถูกชน จึงส่องไปลงไป ก็พบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังลอยคอว่าน้ำอยู่บริเวณดังกล่าว โดยไม่มีทีท่าขอความช่วยเหลืออะไร แต่เมื่อเห็นไฟของตนส่องไปโดนกลับรีบปล่อยตัวไหลลอยคอไปไกลกว่า 1 กิโลเมตรจนหลุดโค้งน้ำ ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนสักพักได้ยินเสียงสุนัขเห่าเป็นจำนวนมากเสียงดัง ตนจึงมั่นใจว่าชายคนนั้นขึ้นฝั่งไปเรียบร้อยแล้วเลยไม่ได้ติดใจอะไร ยังคิดว่าน่าจะเป็นขโมยที่ไปลักของชาวบ้านแล้วลอยคอหนีมาด้วยซ้ำ

ด้านหัวหน้าชุดนักประดาน้ำ หน่วยกู้ภัยบูรพา ได้บอกว่าจากการรับฟังข้อมูลของทางญาติ และผู้เห็นเหตุการณ์แล้ว ไม่สามารถสรุปได้ว่าผู้สูญหายจมน้ำจริงหรือไม่ และจมบริเวณจุดใด ทำให้ไม่สามารถมาร์กจุดในการค้นหาได้ ประกอบกับเป็นช่วงเวลาค่ำคืน และกระแสน้ำค่อนข้างเชี่ยวกราก ทำให้การค้นหาใต้น้ำอาจจะค่อนข้างมีอุปสรรค และไม่มั่นใจว่าจะพบร่างผู้สูญหายหรือไม่ จึงจำเป็นต้องยกเลิกภารกิจการค้นหาก่อน และในตอนเช้าจะร่วมกับทางผู้นำหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำเรือท้องแบนออกล่องเรือค้นหาอีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook