หนุ่มเปิดใจเป็นจำเลยสังคม ถูกตราหน้าวิปริต พิสูจน์แล้วไม่ใช่คนในคลิปชำเราหมา

หนุ่มเปิดใจเป็นจำเลยสังคม ถูกตราหน้าวิปริต พิสูจน์แล้วไม่ใช่คนในคลิปชำเราหมา

หนุ่มเปิดใจเป็นจำเลยสังคม ถูกตราหน้าวิปริต พิสูจน์แล้วไม่ใช่คนในคลิปชำเราหมา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มเชียงใหม่เปิดใจหลังตกเป็นจำเลยสังคม ถูกกล่าวอ้างเป็นชายในคลิปกระทำชำเราสุนัข เก็บค่าสมาชิก 200 บาท ปฏิเสธลั่นไม่เคยทำ เป็นเพียงแค่คนรวบรวมคลิปเข้ากลุ่มเท่านั้น

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มองค์กรสวัสดิภาพสัตว์ หรือ Watchdog Thailand จังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าตรวจค้นและดำเนินคดีกับ นายดำรงพล อายุ 53 ปี ที่ตกเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุกระทำชำเราสุนัข หลังตรวจสอบพบว่ามีพฤติกรรมสุดวิตถาร กระทำชำเราสุนัขและแชร์ส่งโซเชียลมีเดีย หรือ กลุ่มโบโบ้ มีการตั้งกลุ่มแชทเรียกเก็บค่าสมาชิก 200 บาท ตามข่าวที่รายงานไปแล้วนั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.สารภี ซึ่งเป็นบ้านของ นายดำรงพล ผู้ถูกกล่าวหาในกรณีดังกล่าว หลังจากถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อช่วงกลางดึก เนื่องจากพบว่าหลักฐานไม่ตรงกับภาพในคลิปชายที่กระทำชำเราสัตว์ โดยเจ้าตัวได้ชี้แจงว่า ตนยอมรับว่าเคยถ่ายภาพและคลิปในลักษณะนี้ แต่เมื่อราวๆ 10 ปีก่อน เพราะความคึกคะนองในกลุ่มเพื่อนฝูงเท่านั้น แต่ก็ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับสุนัขหรือสัตว์ตามที่ถูกกล่าวหา

นายดำรงพล อธิบายว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตนเป็นเพียงผู้จัดหาคลิปอนาจารในลักษณะดังกล่าวนำไปเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ในกลุ่มเฉพาะที่มีสมาชิกเป็นชายรักร่วมเพศเหมือนกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตนเชื่อว่าน่าจะถูกกลั่นแกล้งจากบางคนในกลุ่ม นำออกมาร้องเรียนเผยแพร่ให้กลายเป็นประเด็นใส่ร้ายกัน

>> ตร.รวบหนุ่มชำเราสุนัข แชร์คลิปเก็บเงิน 200 บาท ยังปฏิเสธ แม้คลิปมัดตัว

เมื่อวานนี้ (30 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มวอชท์ด็อกบุกเข้ามาตรวจค้นที่บ้านของตน โดยไม่มีหมายค้นมาแสดง แต่ตนก็ยินดีให้ตรวจค้น เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง และยังให้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คไปตรวจสอบ อีกทั้งยังถอดเสื้อผ้าให้เจ้าหน้าที่ได้เทียบรูปพรรณกับชายในคลิปอนาจารสัตว์ด้วย

news08-1ผู้ถูกกล่าวหาเปิดหน้าท้องให้ดู ยืนยันว่าไม่มีรอยสักเหมือนกับชายในคลิป

โดยหลังจากถูกนำตัวไปสอบสวนและตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่เทียบรูปพรรณโดยละเอียดแล้ว ก็พบว่าตนไม่ใช่คนในคลิปที่กำลังกระทำชำเราสุนัขอยู่ เนื่องจากคนในคลิปมีรอยสักขนาดใหญ่ที่หน้าท้อง แต่ตนไม่มีรอยสักตรงนั้นแต่อย่างใด ทำให้เจ้าหน้าที่ได้นำการปล่อยตัวกลับบ้านช่วงหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 โดยไม่เกี่ยวกับกรณีทารุณกรรมสัตว์แต่อย่างใด

นายดำรงพล ยังบอกอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นข่าวไปทั่วประเทศ สังคมตราหน้าด่าทอตนว่าเป็นคนวิปริต อีกทั้งลามปามกระทบไปถึงครอบครัวตนด้วย ทั้งที่ไม่ได้ทราบข้อเท็จจริงใดๆ ตนยอมรับว่าเป็นเกย์ แต่ก็ไม่เคยมีพฤติกรรมกระทำชำเราสัตว์ หลังจากนี้อาจจะเดินหน้าพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง

ขณะที่ แม่ของนายดำรงพล เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจที่อยู่ๆ ก็มีตำรวจบุกมาค้นบ้าน เพราะเกิดมาไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ตนรู้ว่าลูกชายเป็นเกย์ แต่เขาก็ไม่มีพฤติกรรมเช่นนั้นกับสัตว์อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับ เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกัน ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นายดำรงพลไม่น่ามีพฤติกรรมเช่นนั้น อีกทั้งยังมีการกล่าวหาว่า บริเวณบ้านของนายดำรงพลเปิดไว้เป็นสถานที่กระชำเราสัตว์ ซึ่งไม่เป็นความจริง

นอกจากนี้ ช่วงที่เจ้าหน้าที่ตัวแทนองค์กรคุ้มครองสิทธิสัตว์เข้ามาตรวจค้น ยังได้ถ่ายภาพสุนัขที่เพื่อนบ้านเลี้ยงเอาไว้ไป ก่อนจะนำไปเสนอข่าวอ้างว่าเป็นสุนัขตัวที่นายดำรงพลก่อเหตุกระทำชำเราตามคลิป ทั้งที่เป็นการบิดเบือนความจริง โดยคนละแวกบ้านของนายดำรงพล ต่างให้กำลังใจในกรณีนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook