"ลูกชายสัสดี" ตั้งตัวเป็นพ่อค้ายาบ้า ถูกตำรวจจับพร้อมของกลางกว่า 400 เม็ด

เจ้าหน้าที่ตำรวจวางแผนล่อซื้อจับกุมพ่อค้ายาบ้า พร้อมของกลางกว่า 400 เม็ด ก่อนอ้างตัวว่าเป็นลูกชายนายทหารสัญญาบัตรสายงานสัสดี บริเวณริมถนนบ้านนาโพธิ์ สารภาพสิ้นนำยาบ้ามาจำหน่ายให้กับวัยรุ่นในชุมชน

วันที่ 21 ต.ค. 61 เมื่อเวลา 20.30 น. พ.ต.ท.ไมตรี บุญมาศ รอง ผกก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ ได้รับแจ้งจากสายลับว่าที่บ้านนาโพธิ์ ต.นาวัง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ มีชายวัยรุ่นไม่ทราบชื่อนามสกุลจริงมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

ซึ่งชายวัยรุ่นคนดังกล่าวอ้างตัวว่าเป็นลูกข้าราชการมีเส้นสาย ไม่กลัวถูกจับ และได้มีพฤติกรรมนำยาเสพติดมาจำหน่ายให้กับพ่อค้ารายย่อยในหมู่บ้านในราคาถุงละ 13,000 บาท

จึงได้วางแผนร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.อำนาจเจริญ เพื่อจับกุมชายวัยรุ่นคนดังกล่าว โดยให้สายลับทำทีติดต่อขอซื้อยาบ้าจำนวน 1 ถุง กับชายวัยรุ่นคนดังกล่าวในราคา 13,000 บาท และได้มีการนัดสถานที่ส่งมอบกันภายในหมู่บ้านดังกล่าว

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงหมู่บ้านดังกล่าว จึงได้กระจายกำลังตามจุดต่างๆ ภายในหมู่บ้าน จากนั่นจึงได้ให้สายลับโทรหาพ่อค้ายาบ้าคนดังกล่าว และนัดส่งมอบที่บริเวณถนนภายในหมู่บ้านนาโพธิ์

จากนั้นพ่อค้ายาบ้าคนดังกล่าวทราบชื่อภายหลังคือนายธวัชชัย อายุ 22 ปี ได้ขับรถเก๋งยี่ห้อโตยาต้ายาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน กจ6598 ยโสธร มายังจุดนัดหมาย

สายลับจึงได้ลงจากรถและยื่นเงินสดจำนวน 13,000 บาท ให้กับพ่อค้ายาบ้าก่อนที่พ่อค้ายาบ้าจะตรวจนับเงิน และยื่นถุงพลาสติกสีน้ำเงินแบบกดปิด 1 ถุง ให้กับสายลับ เมื่อสายลับตรวจสอบแล้วว่าเป็นยาบ้าจริง

จึงได้ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดักซุ่มอยู่บริเวณดังกล่าวออกมาแสดงตัวเพื่อเข้าตรวจค้นจับกุม พ่อค้ายาบ้ากลับเร่งรถเพื่อขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถใช้จอดสกัดขวางทางไว้ได้ทันท่วงที

และตรวจค้นรถคันดังกล่าวก็พบยาบ้าอีกจำนวน 1 ถุง รวมทั้งหมด 2 ถุง จำนวน 400 เม็ด จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดไปสอบสวนเพิ่มเติมที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ

พ.ต.ท.ไมตรี บุญมาศ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าจำนวน 200 เม็ด ที่ตำรวจทำการล่อซื้อนั้นเป็นของผู้ต้องหาจริง ส่วนยาบ้าอีกจำนวน 200 เม็ดที่อยู่ภายในรถคนดังกล่าวผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่ของผู้ต้องหา โดยที่ผู้ต้องหาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นของใคร

นอกจากนี้จากการตรวจสอบภายในรถ ยังพบอาวุธมีด 1 เล่ม ซึ่งคาดว่าผู้ต้องหาจะพกมาเพื่อป้องกันตัว แต่ผู้ต้องหาให้การว่ามีดดังกล่าวเป็นของพ่อ นอกจากนี้ผู้ต้องหายังอ้างว่าพ่อของตนเป็นนายทหารสัญญาบัตรสายงานสัสดีแห่งหนึ่งใน จ.ยโสธร

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองจะได้ทำการตรวจสอบเอกสารที่ค้นพบชื่อของข้าราชการที่ผู้ต้องหาให้การว่าเป็นพ่อ และตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป