ฆ่าเปลือยสาวหมกศพ ยัดใส่ในกล่องดำคาบ้านหัวหิน หลังตามหาตัวมาหลายวัน

ฆ่าเปลือยสาวหมกศพ ยัดใส่ในกล่องดำคาบ้านหัวหิน หลังตามหาตัวมาหลายวัน

ฆ่าเปลือยสาวหมกศพ ยัดใส่ในกล่องดำคาบ้านหัวหิน หลังตามหาตัวมาหลายวัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เกิดเหตุฆาตกรรมสยองขวัญคาทาวน์เฮาส์เมืองหัวหิน หลังจากออกติดตามหาหญิงสาวมาหลายวัน พบเป็นศพถูกฆ่าเปลือย แทงลำคอ 7 แผล ถูกยัดหมกเอาไว้ในกล่องสีดำสุดสยอง

เมื่อคืนวานนี้ (13 ต.ค.) ร.ต.ท.เนติรัฐ ไชยสถิตย์ รอง สว.(สอบสวน) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.หัวหิน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเพชรเกษมหัวหิน และญาติผู้สูญหาย ได้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อเข้าตรวจสอบที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านที่ ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบรถยนต์ต้องสงสัยของหญิงสาวที่หายตัวไปและญาติกำลังติดตามหาตัวอยู่

โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว ปลูกติดกันหลายห้อง ซึ่งห้องดังกล่าวเจ้าของปล่อยให้เช่า โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าบริเวณประตูรั้วหน้าบ้านปิดใส่กุญแจเอาไว้อยู่ บริเวณที่จอดรถพบรถยนต์ เชฟโรเลต สีดำ รุ่นโซนิค ซึ่งทางญาติยืนยันว่าเป็นรถของพี่สาวที่หายตัวไป

ขณะเดียวกันระหว่างที่ทำการตรวจสอบรอบๆ ตัวบ้านนั้น ได้มีกลิ่นเหม็นเน่าลอยโชยออกมาเป็นระยะๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษมหัวหิน ตัดกุญแจรั้วและเปิดประตูบ้านเข้าไปได้ตรวจสอบ กลิ่นเหม็นเริ่มรุนแรงมากขึ้น

เมื่อเข้าตรวจสอบที่ห้องนอนห้องแรกพบว่าประตูเปิดแง้มอยู่ จึงได้ช่วยกันค้นหาที่มาของกลิ่นเหม็นเน่าดังกล่าว กระทั่งเปิดประตูห้องน้ำด้านใน พบกล่องพลาสติกสีดำขนาดใหญ่ ถูกปิดฝาเอาไว้และวางอยู่ข้างชักโครก โดยมีมีผ้านวมอยู่ข้างๆ บริเวณส่งกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงมาก

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเปิดฝากล่องพลาสติก พบว่าชั้นบนสุดมีผ้านวมยัดอยู่ จึงหยิบออกมาและพบว่าด้านล่างเป็นหมอน ส่วนด้านล่างสุดเป็นร่างกายของมนุษย์ จึงได้หยุดการตรวจสอบกล่องดังกล่าว พร้อมแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานฯ และแพทย์โรงพยาบาลหัวหิน ให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ทั้งนี้เมื่อทีมพิสูจน์หลักฐานถึงที่เกิดเหตุ ได้นำผ้านวมและหมอนออกมาจากกล่อง จึงพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง สภาพใส่เสื้อชั้นในสีดำเพียงตัวเดียว สภาพศพเริ่มเน่าเปื่อย แพทย์โรงพยาบาลหัวหินพบว่า มีบาดแผลที่บริเวณลำคอ ถูกแทงด้วยของมีคม 7 แผล บริเวณกกหูข้างขวามีร่องรอยถูกทุบด้วยของแข็ง แขนซ้ายหักผิดรูป คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 วัน

อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจพบมีดเปื้อนเลือด คล้ายมีดทำครัว 1 เล่ม วางเอาอยู่ในห้องน้ำ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรอยนิ้วมือแฝงในบ้านหลังดังกล่าว ทั้งภายในห้องนอน ห้องน้ำ รวมทั้งที่กล่องพลาสติกดังกล่าว และบริเวณรถยนต์ เพื่อหาร่องรอยคนร้าย พร้อมปิดกั้นพื้นที่บ้าน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุและรถยนต์ของผู้เสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง

ขณะที่ญาติๆ เชื่อว่าศพผู้เสียชีวิตที่พบนั้น น่าจะเป็น นางสาวสุชาภัสร์ อายุ 39 ปี โดยทางญาติได้ติดตามหาตัวหลายวัน โดยน้องชายระบุว่า พี่สาวเดินทางมาหัวหินโดยขับรถยนต์คันที่จอดอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว ก่อนจะขาดการติดต่อและหายตัวไปอย่างลึกลับ จึงได้ออกติดตามหาเบาะแสมาหลายวัน

ขณะที่ เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกัน เปิดเผยว่า บ้านหลังดังกล่าวเปิดให้เช่า ก่อนหน้านี้มีชาย 2 คนและผู้หญิง 1 คน มาเข้าพัก พร้อมกับขับรถยนต์ สีขาว แต่ไม่กี่วันก่อนพบว่ารถยนต์ สีขาว และผู้หญิงคนดังกล่าวได้หายไป เหลือเพียงแต่ผู้ชาย โดยมีพฤติกรรมไม่พูดคุยกับเพื่อนบ้าน เข้าๆ ออกๆ บ้านอยู่ประจำ

ต่อมาพบมีรถยนต์ สีดำ คันดังกล่าว เข้ามาจอดแทนที่และทราบว่ามีผู้หญิงมาด้วยอีกคน แต่ตนไม่เห็นหน้า ไม่รู้ว่าเข้ามาตอนไหน กระทั่งคืนก่อนหน้าพบศพได้ยินเสียดังโครมครามเหมือนโยนของหรือของตกมาจากข้างบ้าน แต่ก็ไม่ได้เอะใจว่าจะเกิดเหตุร้ายอะไร

กระทั่งช่วงเช้าต่อมา มีคนเห็นชายในบ้านหลังดังกล่าว กระโดดปีนข้ามรั้วออกมาจากบ้าน โดยไม่เปิดประตูบ้าน ก่อนจะขี่จักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้านออกไปอย่างเร็ว เป็นที่น่าแปลกใจว่าเหตุใดจึงไม่เปิดประตูบ้านออกมาดีๆ

ต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามว่า คนเช่าบ้านข้างๆ อยู่หรือเปล่า ตนก็บอกว่าไม่เห็นมาแล้ว และญาติผู้เสียชีวิตได้นำรูปภาพหญิงสาวมาให้ตนดูว่าเคยเห็นหรือไม่ ก็ตอบไปตามตรงว่าไม่เคยเห็น กระทั่งช่วงเย็นที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาอีกครั้ง ประกอบกับตนได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยมา 2-3 วัน ซึ่งคิดว่าเป็นหนูตายหรือเปล่า แต่วันนี้ได้กลิ่นเหม็นรุนแรงมาก ก่อนจะพบว่ามีเหตุฆาตกรรมขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นางสาวสุชาภัสร์ เดินทางเข้ามาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 8 ตุลาคม พร้อมชำระเงินค่าห้องพักเรียบร้อยแล้ว โดยมีชื่อเข้าพักเพียงคนเดียว และได้ขับรถยนต์ออกจากโรงแรมไปเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันถัดมา

จนกระทั่งเลยเวลาเช็คเอ้าท์ในช่วงบ่าย ทางโรงแรมจึงได้โทรศัพท์ตามลูกค้าแต่ไม่มีผู้รับสาย ต่อมาในวันที่ 10 ตุลาคม ทางโรงแรมได้ใช้กุญแจไขเข้าห้องพักเพื่อไปตรวจสอบ ก็พบว่าทรัพย์สินและกระเป๋าของลูกค้ายังอยู่เหมือนเดิม จึงเดินทางไปแจ้งที่ สภ.หัวหิน เพื่อให้ช่วยตามหา เกรงว่าลูกค้าอาจจะประสบอุบัติเหตุ กระทั่งต่อมาทางญาติได้แจ้งความและติดต่อประสานงานตามหาที่ อ.หัวหิน เช่นเดียวกัน กระทั่งพบเป็นศพในบ้านหลังดังกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook