รวบแก๊งอ้างเป็น ป.ป.ส. ฆ่าโหดลวดรัดปากหนุ่มลีซอ อ้างทวงหนี้ยาเสพติด 10 ล้าน

รวบแก๊งอ้างเป็น ป.ป.ส. ฆ่าโหดลวดรัดปากหนุ่มลีซอ อ้างทวงหนี้ยาเสพติด 10 ล้าน

รวบแก๊งอ้างเป็น ป.ป.ส. ฆ่าโหดลวดรัดปากหนุ่มลีซอ อ้างทวงหนี้ยาเสพติด 10 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จับกุมแก๊งคนร้ายที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ปปส. อุ้มหนุ่มลีซอ วัย 36 ปี สวมกุญแจมืออุ้มไปฆ่าอย่างโหดเหี้ยมบนเชิงเขา ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ได้แล้ว 2 คน สารภาพรับจ้างกลุ่มว้านอกประเทศ อุ้มทวงหนี้ยาเสพติด 10 ล้านบาท ขณะที่ตำรวจขยายผลเตรียมขอหมายจับเพื่อนร่วมแก๊งเพิ่มอีก 2 คน

>> ฆ่าโหดหนุ่มลีซอ "ลวดรัดปาก" ให้ตายทรมาน ไม่ฟันธงเจ้าหน้าที่รัฐลวงสังหาร

ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดเชียงใหม่ คุมตัวนายสุทัศน์ อายุ 66 ปี และ นายฉลอง อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อคดีอุ้มฆ่านายอาแล อายุ 36 ปี ชาวลีซอบ้านป่าบงงาม ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ไปทำการสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมกับชี้แผนผังเครือข่ายผู้ร่วมก่อเหตุ หลังทั้งสองถูกจับกุมได้เมื่อวานนี้ ( 10 ต.ค.) ขณะเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่

คดีนี้ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญสร้างความหวาดวิตกให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา มีผู้พบศพนายอาแล เสียชีวิตอยู่ในป่าบนดอยท้ายหมู่บ้านป่าบงงาม ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว สภาพศพถูกสวมกุญแจมือไว้กับต้นไม้และใช้ลวดรัดปากจนเสียชีวิต ขณะที่ญาติให้การกับตำรวจว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ 2-3 คน ตัดผมสั้นอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ปปส. อ้างว่านายอาเลมีหมายจับคดียาเสพติด เข้าสวมกุญแจอุ้มตัวนายอาแลไปขณะกำลังทำไร่ถั่วลิสงอยู่ในหมู่บ้าน ก่อนพบเสียชีวิต

ต่อมาชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และ สภ.นาหวาย ได้เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย โดยแกะรอยจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ จนพบว่ารถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีเทา หมายเลขทะเบียน ผค 6735 เชียงใหม่ เป็นรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ก่อเหตุ มีนายสุทัศน์ เป็นผู้ใช้รถคันนี้ โดยนายสุทัศน์มีประวัติเคยต้องโทษคดียาเสพติด พ้นโทษออกมาปี 2556 และอยู่ในบัญชีบุคคลเฝ้าระวังที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หลังจากนั้นตำรวจจึงออกติดตามจนจับกุมได้ขณะจอดรถริมถนน ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่

เมื่อแสดงพยานหลักฐานหลายชิ้นที่ตำรวจได้มา นายสุทัศน์ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่านายอาแลจริง โดยได้รับการว่าจ้างจากเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มว้า ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน  และ นายอาแล ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ชนเผ่าลีซอ เป็นเงิน 5 แสนบาท ให้ไปอุ้มนายอาแล ผู้ตาย ไปรีดเอาเงินค่ายาเสพติดที่ผู้ตายค้างชำระกลุ่มผู้จ้างวานเป็นเงิน 10 ล้านบาท ต่อมาตนจึงติดต่อนายฉลอง และ นายพงษ์ชัย ที่รู้จักกันขณะต้องโทษจำคุกที่เรือนจำคลองเปรม ให้มาร่วมก่อเหตุ                      

ในขณะก่อเหตุนายฉลองและนายพงษ์ชัย ใช้ปืนจี้ผู้ตายจากไร่ถั่วลิสง บังคับใส่กุญแจมือ นำตัวขึ้นไปบนยอดเขา โดยมีชายชาวลีซออีก 2 คน เป็นคนชี้เป้า และมีชายชาวไทยใหญ่อีก 1 คน ร่วมกระทำผิด แต่ปรากฏว่านายอาแลผู้ตายไม่ยอมให้เงิน 10 ล้านบาท จึงร่วมกันใช้ลวดมัดปาก รัดจนเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป จากนั้นไปรับเป็นค่าจ้าง 5 แสนบาท นำไปแบ่งกัน และ แยกย้ายกันหลบหนี กระทั่งถูกจับ

พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ผู้ตายมีพฤติกรรมต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา ตำรวจเคยเข้าตรวจค้นที่บ้านของนายอาแล พบทองรูปพรรณเก็บไว้กว่า 50 บาท ขณะที่รอบบ้านยังติดกล้องวงจรปิด ซึ่งทรัพย์สินที่มาเกินฐานานุรูปจากอาชีพทำการเกษตรและกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งรอบบ้าน ทำให้นายอาแลถูกจับตาอยู่ กระทั่งมาถูกฆ่าเสียชีวิตดังกล่าว คดีนี้ตำรวจจะขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่คาดว่าจะมีอีกไม่ต่ำกว่า 3 คน เพราะไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากเรื่องยาเสพติดหรือไม่ แต่การฆ่าผู้อื่นเป็นความผิดตามกฏหมาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook