รวบแก๊งอ้างเป็น ป.ป.ส. ฆ่าโหดลวดรัดปากหนุ่มลีซอ อ้างทวงหนี้ยาเสพติด 10 ล้าน

ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จับกุมแก๊งคนร้ายที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ปปส. อุ้มหนุ่มลีซอ วัย 36 ปี สวมกุญแจมืออุ้มไปฆ่าอย่างโหดเหี้ยมบนเชิงเขา ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ได้แล้ว 2 คน สารภาพรับจ้างกลุ่มว้านอกประเทศ อุ้มทวงหนี้ยาเสพติด 10 ล้านบาท ขณะที่ตำรวจขยายผลเตรียมขอหมายจับเพื่อนร่วมแก๊งเพิ่มอีก 2 คน
>> ฆ่าโหดหนุ่มลีซอ "ลวดรัดปาก" ให้ตายทรมาน ไม่ฟันธงเจ้าหน้าที่รัฐลวงสังหาร
ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดเชียงใหม่ คุมตัวนายสุทัศน์ อายุ 66 ปี และ นายฉลอง อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อคดีอุ้มฆ่านายอาแล อายุ 36 ปี ชาวลีซอบ้านป่าบงงาม ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ไปทำการสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมกับชี้แผนผังเครือข่ายผู้ร่วมก่อเหตุ หลังทั้งสองถูกจับกุมได้เมื่อวานนี้ ( 10 ต.ค.) ขณะเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่
คดีนี้ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญสร้างความหวาดวิตกให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา มีผู้พบศพนายอาแล เสียชีวิตอยู่ในป่าบนดอยท้ายหมู่บ้านป่าบงงาม ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว สภาพศพถูกสวมกุญแจมือไว้กับต้นไม้และใช้ลวดรัดปากจนเสียชีวิต ขณะที่ญาติให้การกับตำรวจว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ 2-3 คน ตัดผมสั้นอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ปปส. อ้างว่านายอาเลมีหมายจับคดียาเสพติด เข้าสวมกุญแจอุ้มตัวนายอาแลไปขณะกำลังทำไร่ถั่วลิสงอยู่ในหมู่บ้าน ก่อนพบเสียชีวิต
ต่อมาชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และ สภ.นาหวาย ได้เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย โดยแกะรอยจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ จนพบว่ารถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีเทา หมายเลขทะเบียน ผค 6735 เชียงใหม่ เป็นรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ก่อเหตุ มีนายสุทัศน์ เป็นผู้ใช้รถคันนี้ โดยนายสุทัศน์มีประวัติเคยต้องโทษคดียาเสพติด พ้นโทษออกมาปี 2556 และอยู่ในบัญชีบุคคลเฝ้าระวังที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หลังจากนั้นตำรวจจึงออกติดตามจนจับกุมได้ขณะจอดรถริมถนน ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่
เมื่อแสดงพยานหลักฐานหลายชิ้นที่ตำรวจได้มา นายสุทัศน์ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่านายอาแลจริง โดยได้รับการว่าจ้างจากเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มว้า ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และ นายอาแล ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ชนเผ่าลีซอ เป็นเงิน 5 แสนบาท ให้ไปอุ้มนายอาแล ผู้ตาย ไปรีดเอาเงินค่ายาเสพติดที่ผู้ตายค้างชำระกลุ่มผู้จ้างวานเป็นเงิน 10 ล้านบาท ต่อมาตนจึงติดต่อนายฉลอง และ นายพงษ์ชัย ที่รู้จักกันขณะต้องโทษจำคุกที่เรือนจำคลองเปรม ให้มาร่วมก่อเหตุ
ในขณะก่อเหตุนายฉลองและนายพงษ์ชัย ใช้ปืนจี้ผู้ตายจากไร่ถั่วลิสง บังคับใส่กุญแจมือ นำตัวขึ้นไปบนยอดเขา โดยมีชายชาวลีซออีก 2 คน เป็นคนชี้เป้า และมีชายชาวไทยใหญ่อีก 1 คน ร่วมกระทำผิด แต่ปรากฏว่านายอาแลผู้ตายไม่ยอมให้เงิน 10 ล้านบาท จึงร่วมกันใช้ลวดมัดปาก รัดจนเสียชีวิต แล้วหลบหนีไป จากนั้นไปรับเป็นค่าจ้าง 5 แสนบาท นำไปแบ่งกัน และ แยกย้ายกันหลบหนี กระทั่งถูกจับ
พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ผู้ตายมีพฤติกรรมต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา ตำรวจเคยเข้าตรวจค้นที่บ้านของนายอาแล พบทองรูปพรรณเก็บไว้กว่า 50 บาท ขณะที่รอบบ้านยังติดกล้องวงจรปิด ซึ่งทรัพย์สินที่มาเกินฐานานุรูปจากอาชีพทำการเกษตรและกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งรอบบ้าน ทำให้นายอาแลถูกจับตาอยู่ กระทั่งมาถูกฆ่าเสียชีวิตดังกล่าว คดีนี้ตำรวจจะขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่คาดว่าจะมีอีกไม่ต่ำกว่า 3 คน เพราะไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากเรื่องยาเสพติดหรือไม่ แต่การฆ่าผู้อื่นเป็นความผิดตามกฏหมาย