แม่พิมพ์ของชาติริเป็นโจร-รวบครูตระเวนขโมยของตามบ้าน ยึดของกลางมูลค่าครึ่งล้าน

แม่พิมพ์ของชาติริเป็นโจร-รวบครูตระเวนขโมยของตามบ้าน ยึดของกลางมูลค่าครึ่งล้าน

แม่พิมพ์ของชาติริเป็นโจร-รวบครูตระเวนขโมยของตามบ้าน ยึดของกลางมูลค่าครึ่งล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจ สภ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ รวบครูสาวชำนาญการพิเศษ พร้อมสามี รปภ.สนามบิน หลังร่วมกันตระเวนงัดบ้านเข้าไปลักขโมยผ้าไหม พระพุทธรูป และทรัพย์สินมีค่าตามบ้านประชาชน ข้าราชการ บางรายยกไปทั้งตู้เซฟ ยึดของกลางเกือบ 20 รายการรวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท

วันที่ 26 ก.ย. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ได้จับกุมนางสุภาภรณ์ อายุ 43 ปี ข้าราชการครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอนาโพธิ์ และนายสุวัฒน์ อายุ 50 ปี สามี เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) สนามบินแห่งหนึ่ง ได้พร้อมของกลาง

ประกอบด้วยผ้าไหม 21 ผืน พระพุทธรูป 10 องค์ อาวุธมีดสปาตา 7 เล่ม อีโต้ 1 เล่ม อาวุธปืนขนาด .38 พร้อมกระสุนกว่า 50 นัด ปืนบีบีกัน 2 กระบอก สร้อยคอทองคำ 2 เส้น ตู้เซฟที่มีร่องรอยถูกงัดพังเสียหายแล้ว 1 ตู้ และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ อีกเกือบ 20 รายการ รวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท หลังจากทั้งสองได้ร่วมกันตระเวนก่อเหตุลักขโมยทรัพย์สินตามบ้านเรือนประชาชน และข้าราชการมาเป็นเวลานาน

ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีผู้เสียหายทั้งในเขตพื้นที่ อ.นาโพธิ์ พุทไธสง บ้านใหม่ไชยพจน์ หลายรายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีคนร้ายบุกงัดบ้าน เข้าไปลักขโมยผ้าไหม และทรัพย์สินของมีค่าภายในบ้านหายไปหลายรายการ

กระทั่งล่าสุดมีผู้เสียหายไปเห็นผ้าไหมของตัวเองที่ถูกขโมยไปโพสต์ขายผ่านเฟซบุ๊ก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามจนเจอบุคคลที่โพสต์ขาย ก็ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่ามีข้าราชการครูคนหนึ่งนำมาขายให้ในราคาถูก โดยที่ไม่ทราบว่าเป็นของที่ขโมยมาจึงได้นำมาโพสต์ขายต่อ

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวครูคนดังกล่าวที่ถูกกล่าวอ้างถึงมาสอบปากคำ ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.นาโพธิ์ ร่วมเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักของครูคนดังกล่าว ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นก็พบของกลางตามที่ผู้เสียหายแจ้งความไว้ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านของครูหลายรายการ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน

ซึ่งเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างว่าทรัพย์สินที่ตรวจพบภายในบ้านไม่ได้ขโมยมา ซื้อมาเอง แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะมีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมก็ได้ส่งตัวทั้งสองให้พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือรับของโจร และร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook