หนุ่มแชทบอกน้อง "ยิงคนตายมา" ถูกรวบทันควัน หลังยิงถล่มวัยรุ่นดับคารถเก๋ง

บุกรวบสองผู้ต้องสงสัยยิงถล่มวัยรุ่นดับคารถเก๋ง ได้คาหอพักหลังแชทบอกกับน้องว่ายิงคนตายมา

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุ ขับรถยนต์ประกบยิงถล่มใส่รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้าวีออส สีดำหมายเลขทะเบียน ฌฟ -6397 กรุงเทพมหานคร ของกลุ่มวัยรุ่น ที่นั่งมากัน 4 คน หลังออกจากร้านข้าวต้ม จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นายสุนทร อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บ และ นายขวัญชัย อายุ 30 ปี ถูกยิงเข้าลำคอ 1 นัดเสียชีวิต คาเบาะหลังด้านขวาข้างคนขับ

เหตุเกิดบริเวณ ริมถนน สายเอเชียขาขึ้นนครสวรรค์ บริเวณช่วงลงสะพานข้ามแม่น้ำลพบุรี ต.โพธิ์สามต้น อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา

ความคืบหน้า ล่าสุด (7 ก.ย.) ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ไปติดตามที่บ้านพักของผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง ม.2 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่พบตัวผู้ต้องสงสัยพบเพียงญาติจึงได้เข้าทำการพูดคุยสืบหาข้อมูลกับน้องชายของผู้ต้องสงสัย

จนยอมบอกว่าเมื่อคืนนายเดียวซึ่งเป็นพี่ชาย ได้แชทผ่านเฟซบุ๊กมาบอกว่า "ให้ดูแลยายหรือแม่เลี้ยงให้ดี ดูแลตัวเอง อย่าเกเรแบบพี่ พี่ยิงคนตายมา มันมีความจำเป็นที่ต้องทำถ้าพี่ไม่ทำ เขาก็ทำพี่ อย่าบอกใครนะเรื่องนี้มันใหญ่มาก"

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อความในแชท นายเดี่ยวได้แชทมาบอกว่า มีตำรวจมาที่หอพัก กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามไปที่หอพัก แห่งหนึ่ง ใน ต.คานหาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เข้าไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้ทราบว่าผู้ต้องสงสัยยังอยู่ ในหอพัก จึงนำกำลังไปเสริม

พบว่าเป็นหอพักจำนวน 4 ชั้น ชั้นล่างเปิดให้บริการเป็นห้องแบบรายวัน นำกำลังเข้าไปที่ห้องเลขที่ 417 พบว่าห้องล็อคจึงได้พังประตูเข้าไปภายในห้องพบข้าวของกองเต็มห้องพบอุปกรณ์เสพยาเสพติดจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมา พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สืบสวน ภาค 1 พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษมาเสริม เข้าตรวจสอบตามห้องต่างๆที่คาดว่าผู้ต้องสงสัยพักอยู่แต่ไม่พบ จึงได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดไม่พบว่านายเดี่ยว ผู้ต้องสงสัยออกไปจากหอพัก ทำการตรวจสอบห้องพักและทางที่หลบออกจากหอ

จนพบว่ามีผู้ที่เช่าหอพักมาขอ เปิดห้อง 120 ซึ่งเป็นห้องชั่วคราว จึงนำกำลังบุกจับกุมพบนายเดี่ยว แฟนสาว และชายต้องสงสัยอีกคน ตรวจค้นในห้องไม่พบอาวุธปืน จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน ในเบื้องต้น ยังให้การปฏิเสธ