แก๊งอุ้มหลอกสาวใหญ่ว่าผัวมีกิ๊ก ลวงออกจากบ้านก่อนจับเรียกค่าไถ่ 25 ล้าน

วันนี้ (5 กันยายน) นางหลี่ เลาจาง อายุ 50 ปี ผู้เสียหายที่ถูกอุ้มเรียกค่าไถ่ 25 ล้านบาท พร้อมลูกชาย เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ภานุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อให้ปากคำ หลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ บุกเข้าไปช่วยเหลือจากรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในอำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย ซึ่งแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่นำไปกักขังไว้นานกว่า 1 สัปดาห์

ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ คือ นายสิทธิศักดิ์ อายุ 37 ปี ชาวอำเภอพบพระ จังหวัดตาก , นายธีรธร อายุ 32 ปี ชาวอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และ นางสาวหทัยรัตน์ อายุ 21 ปี ชาวอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมของกลางอาวุธปืน .38 จำนวน 1 กระบอก และ กระสุนปืน 20 นัด นำตัวมาสอบสวนและขยายผลถึงผู้บงการ

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็น วันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา กลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้ล่อลวงนางหลี่ ออกจากบ้านที่บ้านปางเปา ตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นได้มัดมือมัดเท้าและใช้ผ้าปิดตาตานางหลี่ อุ้มตัวไปกักขังไว้ พร้อมโทรศัพท์ไปหาลูกชายนางหลี่ เพื่อเรียกเงินค่าไถ่จำนวน 25 ล้านบาท โดยบอกให้เตรียมเงินสดไว้และจะโทรศัพท์มานัดหมายอีกครั้ง ลูกชายของนางหลี่ จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ สถานีตำรวจภูธรแม่แตง อำเภอแม่แตง เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้สวมรอยเป็นลูกชายของนางหลี่ ติดต่อกับคนร้ายทางโทรศัพท์ ขณะที่คนร้ายได้วางแผนโทรศัพท์กลับมาเพียงวันละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันการถูกแกะรอย กระทั่งวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา คนร้ายได้นัดหมายรับเงินค่าไถ่ 25 ล้านบาท โดยให้นำวางไว้ริมถังขยะ หน้ามหาวิทยาลัยบริเวณถนนสายเชียงใหม่-พร้าว อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

หลังลูกชายของนางหลี่นำเงินมาส่งมอบให้ตามที่นัดหมายในช่วงเย็น นายธีรธร และ นางสาวหทัยรัตน์ สองสามีภรรยาได้เดินทางมายังจุดดังกล่าวและหยิบถุงดำที่วางไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มรออยู่ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ก่อนขยายผลไปช่วยเหลือนางหลี่ ซึ่งถูกจับขังไว้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในอำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย และ จับกุมนายสิทธิศักดิ์ ผู้ต้องหาอีกคนได้

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจาก “เสี่ยเปา” ให้อุ้มนางหลี่เพื่อนำตัวมาเรียกค่าไถ่ โดยทีมงานมีทั้งหมด 5 คน ได้วางแผนเข้าไปหานางหลี่ที่บ้านพัก อ้างว่าสามีนางหลี่ไปมีหญิงอื่น หากอยากเห็นจะพาไปดู เมื่อนางหลี่หลงเชื่อยอมมากับผู้ต้องหาจึงถูกมัดมือมัดเท้าและใช้ผ้าปิดตาจนมองไม่เห็นว่าถูกนำตัวไปที่ใด ขณะที่เสี่ยเปา ผู้บงการ สัญญาว่าหากงานนี้สำเร็จจะแบ่งเงินให้กับทีมอุ้มคนละ 4 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็ถูกจับได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา "ร่วมกันกับพวกที่หลบหนี เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด หรือ หน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง" และเพิ่มเติมข้อหาแก่นางสาวหทัยรัตน์ "สมคบกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกินกว่ายี่สิบกรัม ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามหมายจับของศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 37/2555 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 และ แจ้งข้อหาเพิ่มนายธีรธร ในข้อหา "มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ซึ่งไม่มีหมายเลขทะเบียนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาต" พร้อมส่งทีมสืบขยายผลตามจับกุมเสี่ยเปาผู้บงการ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับนางหลี่ มีเครือญาติที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยก่อนหน้านี้เครือญาติเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดมาแล้ว จึงตกเป็นเป้าหมายของแก๊งอุ้มซึ่งคาดว่านางหลี่จะมีทรัพย์สินจำนวนมาก